จุดศูนย์ถ่วงของสินเชื่อภาคเอกชนเปลี่ยนมาอยู่ในเอเชีย

ผู้ให้บริการสินเชื่อภาคเอกชนกำลังหันมาสนใจภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่นาน ธุรกิจสินเชื่อภาคเอกชนในเอเชียแปซิฟิกนับเป็นสัดส่วนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเทียบกับตลาดยุโรปและสหรัฐอเมริกาที่พัฒนาไปไกลกว่า แต่เมื่อมีการคาดว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจและความต้องการเงินทุนในเอเชียจะสูงกว่าประเทศตะวันตกในอนาคตอันใกล้นี้ ตลาดก็เร่งหันหัวเรืออย่างรวดเร็ว

สินเชื่อภาคเอกชนเป็นทางเลือกทดแทนการกู้ยืมเงินจากธนาคารหรือตลาดพันธบัตร และสามารถจัดสรรเงินทุนทั้งแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันและไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่ในเอเชียแปซิฟิกมีการใช้ประโยชน์จากภาคธุรกิจนี้น้อยมาก โดยสินทรัพย์หนี้ภาคเอกชนภายใต้การจัดการในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคิดเป็นสัดส่วนแค่ 7% ทั้งๆ ที่ GDP ของภูมิภาคนี้คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 37% ของ GDP โลก[1]

สถานการณ์กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว Private Debt Investor รายงานว่ากิจกรรมการระดมทุนในเอเชียก้าวนำหน้ายุโรปแล้วในช่วงครึ่งแรกของปี 2022[2] ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา บริษัทยักษ์ใหญ่จำนวนมากที่ให้บริการสินเชื่อแบบไม่ผ่านตัวกลางประกาศแผนขยายธุรกิจไปยังเอเชีย ทั้ง Blackstone[3] ที่วางแผนเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์สินเชื่อภาคเอกชนในเอเชียเป็นสิบเท่าเป็นอย่างน้อย 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ “ในระยะเวลาอันใกล้”, KKR[4] ซึ่งระดมเงินเข้ากองทุนเครดิตภูมิภาคเอเชียกองแรกของบริษัทได้ถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และ Apollo Global Management ที่ประกาศเปิดตัวกลยุทธ์สินเชื่อในเอเชียมูลค่า 1.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐไปเมื่อเดือนมิถุนายน

เครื่องมือช่วยชีวิตที่สำคัญ

บริษัทจัดการสินทรัพย์ทางเลือกรายใหญ่กำลังขยายธุรกิจไปยังเอเชียเพื่อคว้าโอกาสในช่วงเวลาทอง เพราะในขณะที่ตลาดพันธบัตรผลตอบแทนสูงและสินเชื่อไม่มีหลักประกันทั่วโลกกำลังขาดสภาพคล่องอย่างหนักหลังจากยุคดอกเบี้ยต่ำสิ้นสุดลงอย่างกะทันหัน เงินทุนภาคเอกชนจึงกลายเป็นแหล่งเงินทุนที่ธุรกิจต่างๆ ในภูมิภาคนี้กำลังต้องการอย่างมาก ซึ่งธุรกิจหลายรายยังไม่ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์จากวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดจากโควิด-19

แต่ในเมื่อธนาคารลังเลไม่อยากแบกรับความเสี่ยงเพิ่มในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน กองทุนสินเชื่อภาคเอกชนจึงยังเป็นแหล่งเงินทุนหลักสำหรับบริษัทที่ต้องการซื้อหุ้นนอกตลาด ซึ่งกำลังต้องการเงินทุนมาใช้ในการควบรวมและซื้อกิจการ นอกจากนี้ สินเชื่อภาคเอกชนยังช่วยอุดช่องว่างในการจัดหาเงินทุนสำหรับบริษัทสตาร์ทอัพและบริษัทระดับยูนิคอร์นที่อยากหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ ‘มูลค่าของบริษัทลดลงในการระดมทุนรอบถัดไป’

เศรษฐกิจโลกซบเซาทำให้มูลค่าของบริษัทลดลงไปด้วย และอาจเป็นเช่นนี้ไปอีกสักพักกว่าที่บริษัทเอกชนจะมีโอกาสครั้งใหม่ที่มูลค่าธุรกิจจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง แต่ถึงกระนั้น ภาคธุรกิจต่างๆ อย่างเช่น เทคโนโลยี ซอฟต์แวร์ และวิทยาศาสตร์ชีวภาพ มีแนวโน้มว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในเอเชีย โดยเติบโตมากกว่าภูมิภาคอื่นๆ มาถึงหนึ่งทศวรรษ[5] ข้อสังเกตคือ บริษัทจำนวนมากในภาคธุรกิจเหล่านี้ยังไม่ทำกำไร ดังนั้นจึงไม่มีทางโตได้ถ้าไม่ได้เงินทุนจากภายนอก ดังนั้น สินเชื่อภาคเอกชนจึงเป็นเสมือนเครื่องมือช่วยชีวิตที่สำคัญ

ปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่เน้นย้ำให้เห็นพัฒนาการของสินเชื่อภาคเอกชนในภูมิภาคนี้คือ การกำหนดกรอบกฎหมายที่จำเป็นเพื่อยอมรับรูปแบบหลักประกันแบบต่างๆ และเสนอระดับหลักประกันที่เหมาะสมให้กับนักลงทุน ถึงแม้ว่ากรอบกฎหมายในเอเชียแปซิฟิกจะยังคงไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน แต่ประเทศที่พัฒนาแล้วในภูมิภาคนี้กำหนดกฎเกณฑ์ที่แข็งแกร่งและน่าเชื่อถือเพียงพอแล้ว ในขณะที่ประเทศกำลังพัฒนากำลังดำเนินงานเพื่อปรับปรุงกรอบกฎหมายของตน[6] ซึ่งนี่จะช่วยสนับสนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดนี้

โอกาสมากมาย

นักลงทุนที่มีประสบการณ์ช่ำชองในสินทรัพย์ทางเลือกในภูมิภาคกล่าวว่า สินเชื่อภาคเอกเชนไหลทะลักเข้ามา ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนักลงทุนที่มีความมั่งคั่งสูงจะได้รับประโยชน์จากสถานการณ์ดังกล่าว การลงทุนในกองทุนสินเชื่อภาคเอกชนแตกต่างจากพันธบัตรชนิดไม่มีหลักประกันที่ธนาคารเอกชนเสนอขายตรงที่เปิดโอกาสให้ลงทุนในพอร์ตสินเชื่อที่มีการจัดการ ซึ่งรับประกันด้วยการตรวจสอบสถานะการเงินอย่างเข้มงวด

ในฐานะผู้ให้บริการสินเชื่อทางเลือก EquitiesFirst ทราบเป็นอย่างดีถึงความสำคัญของการตรวจสอบสถานะการเงินอย่างละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะตลาดที่ผันผวนเช่นนี้ นอกจากนี้ ยังมีการจำกัดความเสี่ยงด้วยกระบวนการที่ใช้เทคโนโลยีซับซ้อนมากขึ้นในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และการบริหารความเสี่ยง

เรามองว่าการเติบโตของสินเชื่อภาคเอกชนในเอเชียแปซิฟิกเป็นสัญญาณว่าตลาดการเงินในภูมิภาคนี้จะมีความซับซ้อนมากขึ้น จากแต่เดิมที่สินเชื่อธนาคารครองตลาดส่วนใหญ่ตลอด และเนื่องจากบรรดาธุรกิจและผู้ประกอบการหันไปพึ่งแหล่งสินเชื่อใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการในการขยายธุรกิจ ตลาดของผู้ให้บริการสินเชื่อทางเลือกจึงมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น

สินเชื่อที่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น สินเชื่อจาก EquitiesFirst ก้าวทันการพัฒนาเหล่านี้ หนึ่งในข้อดีที่สำคัญที่สุดก็คือความยืดหยุ่นที่มาพร้อมกับสินเชื่อ สินเชื่อจากผู้ให้กู้แบบดั้งเดิมจะมีรูปแบบกำหนดไว้และเงื่อนไขตายตัว ทว่าสินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันเป็นแหล่งเงินทุนที่มีต้นทุนต่ำและยืดหยุ่น อีกทั้งยังไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับการนำเงินทุนไปใช้

ที่สำคัญคือ สินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันที่ EquitiesFirst นำเสนอให้กับนักลงทุนมืออาชีพ นักลงทุนที่มิใช่รายย่อย และนักลงทุนกลุ่มอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดนั้น ทำให้นักลงทุนที่ถือหุ้นในระะยาวสามารถสร้างสภาพคล่อง โดยยังคงได้รับประโยชน์จากราคาหุ้นที่อาจจะเพิ่มขึ้นในอนาคต และเนื่องจากสินเชื่อมีการจัดโครงสร้างทั่วไปแบบไม่มีนสิทธิไล่เบี้ย นั่นหมายความว่า หากนักลงทุนไม่สามารถทำตามข้อกำหนดของสินเชื่อได้ ความรับผิดจะจำกัดอยู่แค่หลักทรัพย์ที่นำมาใช้ค้ำประกันสินเชื่อเท่านั้น

สินเชื่อภาคเอกชนและสินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันยังไม่ค่อยแพร่หลายในเอเชียแปซิฟิก เมื่อเทียบกับยุโรปและสหรัฐอเมริกา แต่ปัจจุบัน นักลงทุนสถาบันรายใหญ่ที่สุดของโลกบางรายกล้าที่จะเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อภาคเอกชนในภูมิภาคนี้ ทำให้ช่องว่างที่มีอยู่แคบลงอย่างรวดเร็ว อีกไม่นานสินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันและสินเชื่อภาคเอกชนจะไม่มีคำว่า ‘ทางเลือก’ กำกับไว้อีกต่อไปในเอเชีย และจะกลายมาเป็นส่วนสำคัญที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งและน่าจับตามองในภาคธุรกิจการจัดสรรเงินทุน


[1] https://caia.org/blog/2021/07/08/time-to-consider-apac-in-your-private-lending-re-up

[2] https://www.privatedebtinvestor.com/could-2022-be-asias-breakthrough-year-for-private-credit/

[3] https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-05-30/blackstone-targets-5-billion-for-asia-private-credit-business

[4] https://citywireselector.com/news/kkr-raises-1-1bn-for-its-inaugural-asian-credit-fund/a2388587

[5] https://www.mckinsey.com/mgi/overview/in-the-news/what-is-driving-asias-technological-rise

[6] https://www.asianinvestor.net/article/capitalising-on-private-credit-investments-in-asia/473385

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ

ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้รับประกันผลตอบแทนในอนาคต และไม่มีการรับประกันหรือรับรองผลตอบแทนของแต่ละบุคคล

เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ได้รับการรับรอง นักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายอื่น ๆ กำหนดเท่านั้น และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นเนื้อหาที่มีลักษณะทั่วไปและไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์หรือความต้องการทางการเงินที่เฉพาะเจาะจงใด ๆ มุมมองและความคิดเห็นที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นโดยบุคคลที่ภายนอก และอาจไม่ได้สะท้อนมุมมองและความคิดเห็นของ EquitiesFirst นอกจากนี้ EquitiesFirst ไม่ได้ตรวจสอบหรือยืนยันข้อมูลที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ด้วยตนเอง และไม่ได้รับรองว่าข้อมูลดังกล่าวถูกต้องหรือสมบูรณ์ ความคิดเห็นและข้อมูลในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขาย (หรือการชักชวนให้ซื้อ) หลักทรัพย์ การลงทุน หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินใด ๆ (“ข้อเสนอ”) ข้อเสนอใด ๆ ดังกล่าวจะต้องดำเนินการผ่านการเสนอขายที่เกี่ยวข้องหรือเอกสารอื่น ๆ ที่มีการระบุข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เป็นสาระสำคัญไว้อย่างชัดเจนเท่านั้น ข้อมูลใด ๆ ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการแนะนำ การจูงใจ การเชิญชวน การโน้มน้าว การส่งเสริมการขาย หรือเป็นข้อเสนอให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์การลงทุนใด ๆ จาก Equities First Holdings, LLC หรือบริษัทย่อยของ Equities First Holdings, LLC (เรียกรวมกันว่า ” EquitiesFirst”) และไม่ควรตีความในทางใดทางหนึ่งว่าเอกสารฉบับนี้เป็นการแนะนำด้านการลงทุน กฎหมาย หรือภาษี รวมถึงการแนะนำ การอ้างอิง หรือการรับรองจาก EquitiesFirst ท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

เอกสารฉบับนี้ประกอบด้วยทรัพย์สินทางปัญญาของ EquitiesFirst ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงโลโก้ต่าง ๆ  และเครื่องหมายการค้าอื่น ๆ ทั้งที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียน ตลอดจนเครื่องหมายบริการที่เกี่ยวข้องตามลำดับ EquitiesFirst ขอสงวนสิทธิ์ทั้งหมดในทรัพย์สินทางปัญญาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่าย เผยแพร่ ทำซ้ำ หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้รับสามารถส่งต่อเนื้อหาทั้งหมดหรือบางส่วนของเอกสารฉบับนี้ไปยังผู้อื่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่ายให้แก่บุคคลในประเทศใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดกฎหมายหรือระเบียบอื่นใดที่เกี่ยวข้อง

EquitiesFirst ไม่รับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับเอกสารฉบับนี้ และขอปฏิเสธอย่างชัดแจ้งต่อการรับประกันโดยนัยใด ๆ ภายใต้กฎหมาย ท่านรับทราบว่า EquitiesFirst จะไม่ต้องรับผิดในทุกกรณี สำหรับความเสียหายทั้งทางตรง ทางอ้อม ที่เป็นกรณีพิเศษ ที่เป็นผลสืบเนื่อง โดยไม่เจตนา หรือที่เป็นการลงโทษ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการสูญเสียผลประโยชน์หรือการสูญเสียโอกาสใด ๆ แม้ว่า EquitiesFirst จะรับทราบถึงความเป็นไปได้ของความเสียหายดังกล่าวก็ตาม

EquitiesFirst ได้จัดทำคำแถลงการเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจบังคับใช้ในเขตอำนาจศาลที่ระบุไว้

ประเทศออสเตรเลีย: Equities First Holdings (Australia) Pty Ltd (หมายเลขทะเบียนบริษัท: 142 644 399) เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตบริการทางการเงินของประเทศออสเตรเลีย (หมายเลข AFSL: 387079) สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด

ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีไว้สำหรับบุคคลที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียและจัดเป็นลูกค้าสำหรับการค้าส่ง (Wholesale Client) ตามที่ระบุในมาตรา 761G แห่งพระราชบัญญัติบริษัท ค.ศ. 2001 (Corporations Act 2001)เท่านั้นการเผยแพร่ข้อมูลให้บุคคลอื่นใดที่มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดข้างต้นอาจมีข้อจำกัดตามกฎหมาย ทั้งนี้ บุคคลใดที่มีข้อมูลดังกล่าวในครอบครองควรเสาะหาคำแนะนำและทำความเข้าใจข้อจำกัดดังกล่าว เนื้อหาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น  และไม่ควรตีความว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อเสนอ การจูงใจ หรือคำแนะนำในการซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลในลักษณะทั่วไป และไม่ใช่คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินส่วนบุคคล คำแนะนำใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้เป็นคำแนะนำทั่วไปเท่านั้น และจัดทำขึ้นโดยไม่ได้คำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์หรือความต้องการทางการเงินของผู้ลงทุน ก่อนดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ ท่านควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าว และลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ และความต้องการทางการเงินของท่านท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเอง และอ่านคำแถลงการเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง หรือเอกสารข้อเสนออื่น ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

เขตบริหารพิเศษฮ่องกง: Equities First Holdings Hong Kong Limitedได้รับใบอนุญาตภายใต้กฎหมายผู้ให้กู้ยืมในฮ่องกง (หมายเลขใบอนุญาตผู้ให้กู้เลขที่ 1681/2023)และดำเนินธุรกิจด้านการจัดการกับหลักทรัพย์ (ใบอนุญาตประเภทที่ 1)ภายใต้กฎหมายการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกง (“SFO”) (หมายเลข CEเลขที่ BFJ407)เอกสารฉบับนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกงนอกจากนี้เอกสารฉบับนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเสนอการขายหลักทรัพย์ หรือชักจูงให้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่จัดการหรือจัดหาโดย Equities First Holdings Hong Kong Limitedแต่จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้ SFOเท่านั้นเอกสารฉบับนี้ไม่ได้ส่งถึงบุคคลหรือองค์กรที่จะทำให้ข้อเสนอหรือคำเชิญชวนดังกล่าวผิดกฎหมายหรือถูกต้องห้าม

ประเทศเกาหลี: เอกสารข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งมีความรู้และประสบการณ์เพียงพอต่อการทำธุรกรรมการจัดหาเงินทุนหลักทรัพย์เป็นการเฉพาะเจาะจง และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่ตรงตามข้อกำหนดข้างต้น

สหราชอาณาจักร: Equities First (London) Limited ได้รับการรับรองและควบคุมในสหราชอาณาจักรโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (” FCA”) ในสหราชอาณาจักร เอกสารฉบับนี้ได้แจกจ่ายให้แก่บุคคลที่มีลักษณะเป็นไปตามมาตรา 19(5) (นักลงทุนมืออาชีพ) และมาตรา 42(2) (บริษัทที่มีมูลค่าสุทธิสูง สมาคมอิสระ ฯลฯ) ในส่วนที่ 4 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่องบริการทางการเงินและตลาด ค.ศ. 2000 (การสนับสนุนทางการเงิน) คำสั่ง ค.ศ. 2005 (“FPO”) เท่านั้น และกิจกรรมการลงทุนใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอนี้จะใช้ได้เฉพาะกับบุคคลดังกล่าวและมีเพียงแค่บุคคลดังกล่าวเท่านั้นที่จะสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวได้ บุคคลที่ไม่มีประสบการณ์ระดับมืออาชีพในการลงทุน หรือบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามมาตรา 49 ของ FPO ไม่ควรใช้เอกสารนี้ เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้หน่วยงานที่ให้การกำกับการให้บริการด้านการลงทุนและผลิตภัณฑ์ทางการเงินในพื้นที่ภาคพื้นยุโรป (MiFID) เท่านั้น