ปลดล็อกมูลค่าระยะยาวและเรื่องราวน่าพิศวงของทองแดง

สินทรัพย์ทุกประเภทต่างก็อ่อนไหวต่อความผันผวนในระยะสั้นเมื่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจระดับมหภาคและภูมิศาสตร์การเมืองทำให้นักลงทุนไขว้เขวและหลงลืมที่จะมองภาพรวม

ทองแดง รวมทั้งตลาดสินค้าโภคภัณฑ์โดยรวม ซบเซาลงจากการสูญเสียความเชื่อมั่นที่เกิดจากเงินเฟ้อสูง ความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน และการหยุดชะงักของนโยบาย Zero-Covid ในประเทศจีนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากราคาพุ่งขึ้นสูงสุดจนปิดที่ 11,000 ดอลลาร์ต่อตันในเดือนมีนาคม 2022 ภายในระยะเวลาแค่สี่เดือน ราคาของทองแดงก็ตกลงมามากกว่าหนึ่งในสาม มาอยู่ที่ประมาณ 7,500 ดอลลาร์ต่อตันเมื่อสิ้นสุดไตรมาสสาม[1]

ถึงแม้ว่าจะอยู่ในภาวะขาลง แต่นักวิเคราะห์ บริษัทขุดเหมือง และนักค้าโลหะเน้นย้ำว่า ตลาดทองแดง ซึ่งเป็นโลหะเก่าแก่ที่สุดที่มนุษยชาตินำมาใช้ประโยชน์ อาจจะกลายเป็นหนึ่งในสินค้าที่ขาดแคลนที่สุดเท่าที่เคยมีมา เนื่องจากอุปสงค์อาจจะสูงกว่าอุปทานในช่วงหลายสิบปีต่อจากนี้[2] ถึงแม้ Goldman Sachs จะยอมรับว่าแรงกดดันทางเศรษฐกิจในระยะสั้นจะทำให้ราคาทองแดงตกต่ำในปีนี้ แต่ก็เชื่อว่าราคาจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายในปี 2025 มาอยู่ที่ 15,000 ดอลลาร์ต่อตัน[3]

ไม่ได้สะท้อนความจำเป็นในการเปลี่ยนผ่านพลังงานดั้งเดิมไปสู่พลังงานสะอาด

การที่ราคาทองแดงร่วงลงอย่างหนักไม่ได้สะท้อนบทบาทพื้นฐานของทองแดงในการเปลี่ยนผ่านพลังงานดั้งเดิมไปสู่พลังงานสะอาด ซึ่งจะทำให้อุปทานของทองแดงในระยะยาวเป็นข้อกังวลที่จะสร้างแรงกดดันได้มากกว่าอุปสงค์ที่ลดลงชั่วคราว เพราะหากไม่ได้รับการแก้ไข ช่องว่างในอุปทานทองแดงที่กำลังขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ก็อาจจะทำให้การเปลี่ยนผ่านพลังงานหยุดชะงักลงได้[4]

รัฐบาลและองค์การพลังงานระหว่างประเทศได้แสดงความกังวลว่า อุปทานทองแดง รวมทั้งโลหะและแร่ธาตุอื่นๆ จะไม่เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการในการเปลี่ยนมาใช้ระบบพลังงานที่ต้องพึ่งพาแร่ธาตุอย่างมาก จากเดิมที่ต้องใช้ระบบพลังงานที่ต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงเป็นหลัก[5]

ในบรรดาแร่โลหะประเภทอื่นๆ ลิเธียมและโคบอลต์ได้รับความสนใจมากที่สุด ส่วนทองแดงมักจะถูกมองข้ามอยู่บ่อยครั้ง ทั้งที่มีการนำมาใช้ประโยชน์อย่างมากในยานพาหนะไฟฟ้า โครงสร้างพื้นฐานเพื่อการชาร์จไฟฟ้า แผงโซลาร์เซลล์ กังหันลม และแบตเตอรี่ คุณสมบัตินำไฟฟ้าของทองแดงทำให้โลหะชนิดนี้มีความสำคัญอย่างมากต่อการสร้างประจุไฟฟ้า โลหะชนิดเดียวที่นำไฟฟ้าได้ดีกว่าทองแดงเล็กน้อยคือเงิน ทว่ามีต้นทุนมากกว่าประมาณหนึ่งร้อยเท่า อันดับสามคือทองคำ แต่ประสิทธิภาพในการนำไฟฟ้าน้อยกว่ามาก

ราคาอ่อนแอทำให้การลงทุนน้อยกว่าที่ควรจะเป็น

ราคาทองแดงที่ร่วงลงมาทำให้โครงการทำเหมืองทองแดงที่วางแผนไว้ตกอยู่ในภาวะเสี่ยง เห็นได้จาก Newmont Corp ของสหรัฐที่ชะลอการตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการทำเหมืองทองแดงและทองคำในเปรูออกไปจนถึงปี 2024 และบริษัทอื่นๆ ก็น่าจะตัดสินใจแบบนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบระยะยาวต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก เนื่องจากการเริ่มทำเหมืองใหม่จนพร้อมขุดแร่ได้นั้นต้องใช้เวลาสิบปีขึ้นไป ดังนั้น นี่จะทำให้วิกฤติอุปทานของสินค้าโภคภัณฑ์ที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนมาตลอดหลายปียิ่งรุนแรงขึ้น

ปริมาณสินค้าในคลังทั่วโลกที่มีการติดตามโดยตลาดแลกเปลี่ยนทำสถิติเกือบต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคาดว่าจะลดลงอีก อย่างไรก็ตาม ประเทศจีนเดิมพันกับเทรนด์นี้ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยถือโอกาสตอนที่ราคาทองแดงตกเพิ่มปริมาณการนำเข้าทองแดงมาสำรองไว้ในประเทศ แล้วนำออกมาใช้ตอนราคาทองแดงปรับตัวขึ้นสองเท่าในระหว่างปี 2020 ถึง 2021 ซึ่งส่งผลทำให้รัฐบาล รวมทั้งภาคเอกชนต้องปล่อยทองแดงออกจากคลังเพื่อบรรเทาภาระทางการเงินของธุรกิจ[6]

จีนมองเห็นโอกาส

ปัจจุบันดูเหมือนว่าจีนจะเป็นตลาดเพียงแห่งเดียวที่มองสถานการณ์ของทองแดงในระยะยาว แม้ว่าอุปสงค์ทองแดงในระยะสั้นจะลดลงเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในระดับมหภาคและการซบเซาของภาคธุรกิจอสังริมทรัพย์ที่ต้องแบกรับหนี้จำนวนมหาศาล

นอกจากจะมองว่านี่เป็นโอกาสในการเพิ่มปริมาณทองแดงในคลังตอนที่ทองแดงราคาถูกแล้ว ความต้องการทองแดงของจีนยังเกิดจากการเติบโตของภาคธุรกิจพลังงานสะอาด ตัวอย่างเช่น ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นสองเท่าในเดือนสิงหาคม 2022 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ มูลค่าการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานกริดไฟฟ้ายังกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยนักวิเคราะห์พบว่าอุปสงค์ของทองแดงจากแหล่งใหม่ๆ นั้นสูงกว่าปริมาณอุปสงค์ที่ลดลงไปของปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบเก่าอย่างอสังหาริมทรัพย์เสียอีก

แน่นอนว่า มาตรการควบคุมโควิดอย่างต่อเนื่องของจีนคือหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลเสียต่อราคาทองแดงระหว่างประเทศ นักวิเคราะห์ของ ING คาดว่าอุปสงค์ทองแดงจะฟื้นตัวเมื่อจีนฟื้นจากโควิด[7] นอกจากนี้ นักวิจัยยังได้บันทึกแนวโน้มของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่จะ “ปรับตัวสูงกว่าเป้าหมาย” เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในระดับมหภาค[8] ดังนั้น เมื่อจีนฟื้นตัวและภาวะขาดแคลนทองแดงปรากฏชัดเจนมากขึ้น ราคาก็จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในทิศทางตรงข้ามกับในปัจจุบัน

มองระยะยาว

การจับจังหวะการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ไม่ได้ง่ายไปกว่าการลงทุนในหุ้น แต่นักลงทุนที่มองในระยะยาวจะได้รับประโยชน์จากการที่ตลาดไม่ได้สะท้อนบทบาทของทองแดงในกระแสการเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาด

สินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันจะช่วยให้นักลงทุนเพิ่มสภาพคล่องและใช้ประโยชน์จากภาวะตลาดที่ไม่เป็นไปตามความเป็นจริงเป็นระยะเวลาสั้นๆ อย่างนี้ได้ เนื่องจากทั้งโลกกำลังพยายามปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ผลกระทบของการเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดจะมอบโอกาสการลงทุนในระยะยาวในสินทรัพย์หลายกลุ่ม

สำหรับทองแดงนั้น S&P Global คาดว่ากระแสการเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดจะทำให้อุปสงค์ทองแดงเพิ่มขึ้นสองเท่าภายในปี 2035[9] ในขณะที่ BloombergNEF เชื่อว่า แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะทำให้อุปสงค์ของทองแดง “ชะลอตัว” ลงแต่ปริมาณการบริโภคที่คาดการณ์ไว้จนถึงปี 2040 ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ได้รับผลกระทบ[10]


[1] https://www.lme.com/en/metals/non-ferrous/lme-copper#Price+graphs

[2] https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-09-21/copper-prices-fall-despite-signs-of-looming-crucial-metal-shortage#xj4y7vzkg

[3] https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-07-12/goldman-cuts-copper-outlook-as-energy-crisis-threatens-demand#xj4y7vzkg

[4] https://ihsmarkit.com/Info/0722/futureofcopper.html

[5] https://www.iea.org/reports/the-role-of-critical-minerals-in-clean-energy-transitions/the-state-of-play

[6] https://www.reuters.com/markets/commodities/copper-price-slump-brings-chinese-buyers-out-force-2022-09-27/

[7] https://think.ing.com/articles/copper-in-a-soft-patch-but-should-rally-once-china-recovers-from-covid

[8] https://www.nber.org/papers/w1121

[9] https://ihsmarkit.com/Info/0722/futureofcopper.html

[10] https://about.bnef.com/blog/coppers-miners-eye-ma-as-clean-energy-drives-supply-gap/

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ

ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้รับประกันผลตอบแทนในอนาคต และไม่มีการรับประกันหรือรับรองผลตอบแทนของแต่ละบุคคล

เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ได้รับการรับรอง นักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายอื่น ๆ กำหนดเท่านั้น และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นเนื้อหาที่มีลักษณะทั่วไปและไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์หรือความต้องการทางการเงินที่เฉพาะเจาะจงใด ๆ มุมมองและความคิดเห็นที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นโดยบุคคลที่ภายนอก และอาจไม่ได้สะท้อนมุมมองและความคิดเห็นของ EquitiesFirst นอกจากนี้ EquitiesFirst ไม่ได้ตรวจสอบหรือยืนยันข้อมูลที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ด้วยตนเอง และไม่ได้รับรองว่าข้อมูลดังกล่าวถูกต้องหรือสมบูรณ์ ความคิดเห็นและข้อมูลในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขาย (หรือการชักชวนให้ซื้อ) หลักทรัพย์ การลงทุน หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินใด ๆ (“ข้อเสนอ”) ข้อเสนอใด ๆ ดังกล่าวจะต้องดำเนินการผ่านการเสนอขายที่เกี่ยวข้องหรือเอกสารอื่น ๆ ที่มีการระบุข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เป็นสาระสำคัญไว้อย่างชัดเจนเท่านั้น ข้อมูลใด ๆ ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการแนะนำ การจูงใจ การเชิญชวน การโน้มน้าว การส่งเสริมการขาย หรือเป็นข้อเสนอให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์การลงทุนใด ๆ จาก Equities First Holdings, LLC หรือบริษัทย่อยของ Equities First Holdings, LLC (เรียกรวมกันว่า ” EquitiesFirst”) และไม่ควรตีความในทางใดทางหนึ่งว่าเอกสารฉบับนี้เป็นการแนะนำด้านการลงทุน กฎหมาย หรือภาษี รวมถึงการแนะนำ การอ้างอิง หรือการรับรองจาก EquitiesFirst ท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

เอกสารฉบับนี้ประกอบด้วยทรัพย์สินทางปัญญาของ EquitiesFirst ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงโลโก้ต่าง ๆ  และเครื่องหมายการค้าอื่น ๆ ทั้งที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียน ตลอดจนเครื่องหมายบริการที่เกี่ยวข้องตามลำดับ EquitiesFirst ขอสงวนสิทธิ์ทั้งหมดในทรัพย์สินทางปัญญาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่าย เผยแพร่ ทำซ้ำ หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้รับสามารถส่งต่อเนื้อหาทั้งหมดหรือบางส่วนของเอกสารฉบับนี้ไปยังผู้อื่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่ายให้แก่บุคคลในประเทศใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดกฎหมายหรือระเบียบอื่นใดที่เกี่ยวข้อง

EquitiesFirst ไม่รับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับเอกสารฉบับนี้ และขอปฏิเสธอย่างชัดแจ้งต่อการรับประกันโดยนัยใด ๆ ภายใต้กฎหมาย ท่านรับทราบว่า EquitiesFirst จะไม่ต้องรับผิดในทุกกรณี สำหรับความเสียหายทั้งทางตรง ทางอ้อม ที่เป็นกรณีพิเศษ ที่เป็นผลสืบเนื่อง โดยไม่เจตนา หรือที่เป็นการลงโทษ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการสูญเสียผลประโยชน์หรือการสูญเสียโอกาสใด ๆ แม้ว่า EquitiesFirst จะรับทราบถึงความเป็นไปได้ของความเสียหายดังกล่าวก็ตาม

EquitiesFirst ได้จัดทำคำแถลงการเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจบังคับใช้ในเขตอำนาจศาลที่ระบุไว้

ประเทศออสเตรเลีย: Equities First Holdings (Australia) Pty Ltd (หมายเลขทะเบียนบริษัท: 142 644 399) เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตบริการทางการเงินของประเทศออสเตรเลีย (หมายเลข AFSL: 387079) สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด

ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีไว้สำหรับบุคคลที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียและจัดเป็นลูกค้าสำหรับการค้าส่ง (Wholesale Client) ตามที่ระบุในมาตรา 761G แห่งพระราชบัญญัติบริษัท ค.ศ. 2001 (Corporations Act 2001)เท่านั้นการเผยแพร่ข้อมูลให้บุคคลอื่นใดที่มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดข้างต้นอาจมีข้อจำกัดตามกฎหมาย ทั้งนี้ บุคคลใดที่มีข้อมูลดังกล่าวในครอบครองควรเสาะหาคำแนะนำและทำความเข้าใจข้อจำกัดดังกล่าว เนื้อหาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น  และไม่ควรตีความว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อเสนอ การจูงใจ หรือคำแนะนำในการซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลในลักษณะทั่วไป และไม่ใช่คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินส่วนบุคคล คำแนะนำใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้เป็นคำแนะนำทั่วไปเท่านั้น และจัดทำขึ้นโดยไม่ได้คำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์หรือความต้องการทางการเงินของผู้ลงทุน ก่อนดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ ท่านควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าว และลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ และความต้องการทางการเงินของท่านท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเอง และอ่านคำแถลงการเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง หรือเอกสารข้อเสนออื่น ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

เขตบริหารพิเศษฮ่องกง: Equities First Holdings Hong Kong Limitedได้รับใบอนุญาตภายใต้กฎหมายผู้ให้กู้ยืมในฮ่องกง (หมายเลขใบอนุญาตผู้ให้กู้เลขที่ 1681/2023)และดำเนินธุรกิจด้านการจัดการกับหลักทรัพย์ (ใบอนุญาตประเภทที่ 1)ภายใต้กฎหมายการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกง (“SFO”) (หมายเลข CEเลขที่ BFJ407)เอกสารฉบับนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกงนอกจากนี้เอกสารฉบับนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเสนอการขายหลักทรัพย์ หรือชักจูงให้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่จัดการหรือจัดหาโดย Equities First Holdings Hong Kong Limitedแต่จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้ SFOเท่านั้นเอกสารฉบับนี้ไม่ได้ส่งถึงบุคคลหรือองค์กรที่จะทำให้ข้อเสนอหรือคำเชิญชวนดังกล่าวผิดกฎหมายหรือถูกต้องห้าม

ประเทศเกาหลี: เอกสารข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งมีความรู้และประสบการณ์เพียงพอต่อการทำธุรกรรมการจัดหาเงินทุนหลักทรัพย์เป็นการเฉพาะเจาะจง และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่ตรงตามข้อกำหนดข้างต้น

สหราชอาณาจักร: Equities First (London) Limited ได้รับการรับรองและควบคุมในสหราชอาณาจักรโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (” FCA”) ในสหราชอาณาจักร เอกสารฉบับนี้ได้แจกจ่ายให้แก่บุคคลที่มีลักษณะเป็นไปตามมาตรา 19(5) (นักลงทุนมืออาชีพ) และมาตรา 42(2) (บริษัทที่มีมูลค่าสุทธิสูง สมาคมอิสระ ฯลฯ) ในส่วนที่ 4 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่องบริการทางการเงินและตลาด ค.ศ. 2000 (การสนับสนุนทางการเงิน) คำสั่ง ค.ศ. 2005 (“FPO”) เท่านั้น และกิจกรรมการลงทุนใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอนี้จะใช้ได้เฉพาะกับบุคคลดังกล่าวและมีเพียงแค่บุคคลดังกล่าวเท่านั้นที่จะสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวได้ บุคคลที่ไม่มีประสบการณ์ระดับมืออาชีพในการลงทุน หรือบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามมาตรา 49 ของ FPO ไม่ควรใช้เอกสารนี้ เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้หน่วยงานที่ให้การกำกับการให้บริการด้านการลงทุนและผลิตภัณฑ์ทางการเงินในพื้นที่ภาคพื้นยุโรป (MiFID) เท่านั้น