แสวงหาโอกาสจากความเห็นต่างเกี่ยวกับสภาพอากาศ

ตลาดทุนนำผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศมาสะท้อนไว้ในมูลค่าของหลักทรัพย์อย่างเพียงพอแล้วหรือยัง นักลงทุนสถาบันหลายรายไม่คิดอย่างนั้น[1] และจนกว่าตลาดจะปรับฐานตามภาวะผิดปกติที่เกิดขึ้น การประเมินมูลค่าความเสี่ยงด้านสภาพอากาศอย่างไม่ถูกต้องจะเปิดโอกาสครั้งสำคัญให้กับนักลงทุนหุ้นที่มีประสบการณ์[2]

จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้อำนาจตัดสินใจด้านการลงทุนในบริษัทบริหารจัดการสินทรัพย์ มูลนิธิ กองทุนบำเหน็จบำนาญ และกองทุนเพื่อการกุศลทั่วโลกประมาณ 300 รายในการศึกษาครั้งล่าสุด ผลปรากฏว่า นักลงทุนเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศจะเป็นหนึ่งในปัจจัยด้านภูมิศาสตร์การเมืองที่สำคัญที่สุดที่จะส่งผลต่อราคาตราสารทุนในอีก 18 เดือนข้างหน้า

รายงานผลการศึกษาที่ EquitiesFirst จัดทำร่วมกับ Custom Research Lab ของ Institutional Investor ได้ประเมินว่าภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น อัตราดอกเบี้ยสูง ความขัดแย้งระหว่างประเทศ และการฟื้นตัวจากโรคระบาดจะส่งผลต่ออนาคตของตลาดทุนทั่วโลกอย่างไรในระยะสั้นและระยะกลาง

เมื่อถูกถามว่า อะไรจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นได้มากที่สุดในอีก 18 เดือนข้างหน้า ผู้ตอบแบบสำรวจ 70% ให้คำตอบเดียวกันว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ซึ่งนำหน้าสงครามในยูเครน (65%) และการโจมตีทางไซเบอร์ต่อรัฐบาลและธุรกิจต่างๆ (52%)

ข้อกังวลมากมายเกี่ยวกับสภาพอากาศ

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมีความเห็นแตกต่างกันอย่างมาก ขึ้นอยู่กับภูมิภาคที่ลงทุนในตราสารทุน นักลงทุนที่เน้นลงทุนในตลาดพัฒนาแล้วในยุโรปและเอเชียแปซิฟิกมีความกังวลต่อผลกระทบของสภาพอากาศมากที่สุด

ที่มาของรูปภาพ: https://equitiesfirst.com/int/ii-partnership/

ในทางตรงกันข้ามนักลงทุนประมาณครึ่งหนึ่งที่เน้นลงทุนในตราสารทุนของอเมริกาเหนือมองว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเป็นความเสี่ยงหลักอย่างหนึ่ง แม้ว่าจะเกิดไฟป่าที่มีพลังทำลายล้างอย่างรุนแรงทั้งในแคลิฟอร์เนียและแคนาดาก็ตาม

มุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศทำให้มูลค่าของตราสารทุนบิดเบือน และอาจเป็นโอกาสให้นักลงทุนหุ้นได้ใช้ประโยชน์

นักลงทุนที่เน้นลงทุนในตลาดอเมริกาเหนืออาจจะให้ส่วนลดไม่มากพอแก่หุ้นที่อาจจะได้รับผลกระทบหากมีการเก็บภาษีคาร์บอนในอัตราสูง หรือให้คุณค่าน้อยเกินไปแก่หุ้นของบริษัทที่มอบวิธีลดการปล่อยคาร์บอน

สถานการณ์ดังกล่าวส่วนหนึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่หน่วยงานทางการเมืองของสหรัฐฯ ไม่สนับสนุนการลงทุนที่คำนึงถึงปัจจัยเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) จริงๆ แล้ว สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่หลายแห่งของวอลล์สตรีทออกมาเตือนว่า การไม่สนับสนุน ESG และการลงทุนเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ ตอนนี้กลายเป็นหนึ่งในความเสี่ยงที่มีความสำคัญไปแล้ว[3]

อย่างไรก็ตาม ประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่ให้คำมั่นสัญญาว่าจะปล่อยคาร์บอนสุทธิเหลือศูนย์ภายในปี 2050 ซึ่งการจะทำตามเป้าหมายข้อนี้นั้นยังต้องใช้เวลาอีกนาน ดังนั้นจึงมีโอกาสที่รัฐบาลจะผ่านกฎหมายควบคุมสภาพอากาศที่เข้มงวดมากขึ้น ดังนั้น นักลงทุนควรพิจารณาผลกระทบที่ตลาดอาจจะได้รับจากนโยบายด้านสภาพอากาศในปัจจุบันและในอนาคตด้วย[4] กล่าวคือต้องพิจารณาว่าสินทรัพย์ใดบ้างจะได้รับผลเสียและสินทรัพย์ใดบ้างจะได้รับประโยชน์จากกฎหมายเหล่านั้น[5]

พิจารณาคว้าโอกาส

นักลงทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นของตลาดพัฒนาแล้วดูเหมือนจะมีมุมมองเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ต่างกันนัก ผู้ตอบแบบสำรวจความคิดเห็นในการศึกษาครั้งนี้เน้นย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและผลกระทบ ไม่เพียงสร้างความเสี่ยงแต่ยังมอบโอกาสในทำกำไรด้วย เพราะบริษัทต่างๆ ในภูมิภาคที่พวกเขาลงทุนใช้วิธีที่แข็งกร้าวแต่เนิ่นๆ ในการเปลี่ยนมาใช้แหล่งพลังงานที่ยั่งยืน

ทำให้บริษัทในประเทศพัฒนาแล้วของยุโรปไม่เพียงสามารถรับมือกับกฎหมายสภาพอากาศที่เข้มงวดมากขึ้นได้ดีกว่า แต่ยังมีความได้เปรียบจากการเป็นผู้จัดหาสินค้าและบริการกลุ่มแรกๆ ที่ปรับตัวให้เข้ากับระบบเศรษฐกิจโลกที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ในขณะเดียวกัน นักลงทุนที่เน้นลงทุนในประเทศพัฒนาแล้วของภูมิภาคเอเชียก็แสดงให้เห็นว่ามีความกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศอยู่ในระดับสูง แม้ว่ากฎหมายเกี่ยวกับสภาพอากาศและแนวทางการกำหนดราคาคาร์บอนของภูมิภาคนี้จะเข้มงวดน้อยกว่ายุโรป ซึ่งชี้ให้เห็นว่ามูลค่าของตราสารทุนในตลาดเหล่านี้อาจจะสะท้อนความเสี่ยงเกี่ยวกับสภาพอากาศได้อย่างเพียงพออยู่แล้ว รวมถึงความเป็นไปได้ที่กฎระเบียบจะมีความเข้มงวดมากขึ้นในอนาคต

ระดับความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศในประเทศพัฒนาแล้วของเอเชียเป็นที่เข้าใจได้ เมื่อพิจารณาจากผลกระทบของภาวะโลกร้อนในตลาดเกิดใหม่ของเอเชีย ซึ่งปรากฏชัดเจนกว่าภูมิภาคอื่นๆ ของโลก

โอกาสการลงทุนที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศยังพบเห็นได้ชัดเจนในเอเชีย ตัวอย่างเช่นประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแผงโซลาร์ส่งให้ทั่วโลก ทั้งยังเป็นผู้ผลิตกังหันลม โดยมีต้นทุนไม่ถึงครึ่งหนึ่งของต้นทุนเฉลี่ยในประเทศอื่นๆ[6] นอกจากนี้ยังเป็นผู้นำด้านการผลิตพลังงานหมุนเวียนในประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขับเคลื่อนให้ภาคธุรกิจนี้เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพ

ส่วนอินโดนีเซียก็ส่งออกนิกเกิล โคบอลต์ และทองแดงปริมาณมหาศาล ซึ่งส่วนใหญ่แร่ธาตุเหล่านี้ใช้ในผลิตแบตเตอรี่ยานพาหนะไฟฟ้า

จริงๆ แล้ว การผลักดันนโยบายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ทั่วโลกอาจทำให้เกิดโอกาสมากมายในภาคธุรกิจและภูมิภาคต่างๆ ที่นักลงทุนอาจจะยังไม่เคยคาดคิดมาก่อน

นักลงทุนที่ต้องการได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลทางจริยธรรมหรือเพื่อสร้างผลกำไร หรือทั้งคู่ สามารถขอสินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อนำไปเป็นเงินทุนได้ เพราะในช่วงเวลาที่สภาพคล่องฝืดเคืองเช่นนี้ นี่จะเป็นวิธีที่น่าสนใจอย่างมากในการระดมทุนมาซื้อหุ้นอนาคตไกลที่ยังมีราคาถูกหรือกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุน โดยไม่ต้องลดการลงทุนในภาคธุรกิจและแนวคิดการลงทุนแบบอื่นๆ ลง

การลงทุนเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล เพราะนี่คือแนวคิดการลงทุนที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดทุนในอนาคตระยะยาว


[1] https://kpmg.com/xx/en/home/insights/2021/10/can-capital-markets-save-the-planet.html

[2] https://assets.kpmg.com/content/dam/kpmg/ca/pdf/2022/02/do-asset-prices-fully-reflect-climate-risks-and-opportunities.pdf

[3] https://www.ft.com/content/f5fe15f8-3703-4df9-b203-b5d1dd01e3bc

[4] https://www.jpmorgan.com/wealth-management/wealth-partners/insights/climate-change-why-dont-the-markets-care

[5] https://www.unpri.org/inevitable-policy-response/what-is-the-inevitable-policy-response/4787.article#:~:text=IPR%20assesses%20that%20those%20policy,exposed%20to%20significant%20transition%20risk.

[6] https://www.spglobal.com/marketintelligence/en/news-insights/latest-news-headlines/china-s-increasingly-cheap-wind-turbines-could-open-new-markets-72152297

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ

ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้รับประกันผลตอบแทนในอนาคต และไม่มีการรับประกันหรือรับรองผลตอบแทนของแต่ละบุคคล

เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ได้รับการรับรอง นักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายอื่น ๆ กำหนดเท่านั้น และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นเนื้อหาที่มีลักษณะทั่วไปและไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์หรือความต้องการทางการเงินที่เฉพาะเจาะจงใด ๆ มุมมองและความคิดเห็นที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นโดยบุคคลที่ภายนอก และอาจไม่ได้สะท้อนมุมมองและความคิดเห็นของ EquitiesFirst นอกจากนี้ EquitiesFirst ไม่ได้ตรวจสอบหรือยืนยันข้อมูลที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ด้วยตนเอง และไม่ได้รับรองว่าข้อมูลดังกล่าวถูกต้องหรือสมบูรณ์ ความคิดเห็นและข้อมูลในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขาย (หรือการชักชวนให้ซื้อ) หลักทรัพย์ การลงทุน หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินใด ๆ (“ข้อเสนอ”) ข้อเสนอใด ๆ ดังกล่าวจะต้องดำเนินการผ่านการเสนอขายที่เกี่ยวข้องหรือเอกสารอื่น ๆ ที่มีการระบุข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เป็นสาระสำคัญไว้อย่างชัดเจนเท่านั้น ข้อมูลใด ๆ ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการแนะนำ การจูงใจ การเชิญชวน การโน้มน้าว การส่งเสริมการขาย หรือเป็นข้อเสนอให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์การลงทุนใด ๆ จาก Equities First Holdings, LLC หรือบริษัทย่อยของ Equities First Holdings, LLC (เรียกรวมกันว่า ” EquitiesFirst”) และไม่ควรตีความในทางใดทางหนึ่งว่าเอกสารฉบับนี้เป็นการแนะนำด้านการลงทุน กฎหมาย หรือภาษี รวมถึงการแนะนำ การอ้างอิง หรือการรับรองจาก EquitiesFirst ท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

เอกสารฉบับนี้ประกอบด้วยทรัพย์สินทางปัญญาของ EquitiesFirst ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงโลโก้ต่าง ๆ  และเครื่องหมายการค้าอื่น ๆ ทั้งที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียน ตลอดจนเครื่องหมายบริการที่เกี่ยวข้องตามลำดับ EquitiesFirst ขอสงวนสิทธิ์ทั้งหมดในทรัพย์สินทางปัญญาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่าย เผยแพร่ ทำซ้ำ หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้รับสามารถส่งต่อเนื้อหาทั้งหมดหรือบางส่วนของเอกสารฉบับนี้ไปยังผู้อื่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่ายให้แก่บุคคลในประเทศใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดกฎหมายหรือระเบียบอื่นใดที่เกี่ยวข้อง

EquitiesFirst ไม่รับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับเอกสารฉบับนี้ และขอปฏิเสธอย่างชัดแจ้งต่อการรับประกันโดยนัยใด ๆ ภายใต้กฎหมาย ท่านรับทราบว่า EquitiesFirst จะไม่ต้องรับผิดในทุกกรณี สำหรับความเสียหายทั้งทางตรง ทางอ้อม ที่เป็นกรณีพิเศษ ที่เป็นผลสืบเนื่อง โดยไม่เจตนา หรือที่เป็นการลงโทษ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการสูญเสียผลประโยชน์หรือการสูญเสียโอกาสใด ๆ แม้ว่า EquitiesFirst จะรับทราบถึงความเป็นไปได้ของความเสียหายดังกล่าวก็ตาม

EquitiesFirst ได้จัดทำคำแถลงการเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจบังคับใช้ในเขตอำนาจศาลที่ระบุไว้

ประเทศออสเตรเลีย: Equities First Holdings (Australia) Pty Ltd (หมายเลขทะเบียนบริษัท: 142 644 399) เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตบริการทางการเงินของประเทศออสเตรเลีย (หมายเลข AFSL: 387079) สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด

ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีไว้สำหรับบุคคลที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียและจัดเป็นลูกค้าสำหรับการค้าส่ง (Wholesale Client) ตามที่ระบุในมาตรา 761G แห่งพระราชบัญญัติบริษัท ค.ศ. 2001 (Corporations Act 2001)เท่านั้นการเผยแพร่ข้อมูลให้บุคคลอื่นใดที่มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดข้างต้นอาจมีข้อจำกัดตามกฎหมาย ทั้งนี้ บุคคลใดที่มีข้อมูลดังกล่าวในครอบครองควรเสาะหาคำแนะนำและทำความเข้าใจข้อจำกัดดังกล่าว เนื้อหาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น  และไม่ควรตีความว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อเสนอ การจูงใจ หรือคำแนะนำในการซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลในลักษณะทั่วไป และไม่ใช่คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินส่วนบุคคล คำแนะนำใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้เป็นคำแนะนำทั่วไปเท่านั้น และจัดทำขึ้นโดยไม่ได้คำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์หรือความต้องการทางการเงินของผู้ลงทุน ก่อนดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ ท่านควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าว และลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ และความต้องการทางการเงินของท่านท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเอง และอ่านคำแถลงการเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง หรือเอกสารข้อเสนออื่น ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

เขตบริหารพิเศษฮ่องกง: Equities First Holdings Hong Kong Limitedได้รับใบอนุญาตภายใต้กฎหมายผู้ให้กู้ยืมในฮ่องกง (หมายเลขใบอนุญาตผู้ให้กู้เลขที่ 1681/2023)และดำเนินธุรกิจด้านการจัดการกับหลักทรัพย์ (ใบอนุญาตประเภทที่ 1)ภายใต้กฎหมายการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกง (“SFO”) (หมายเลข CEเลขที่ BFJ407)เอกสารฉบับนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกงนอกจากนี้เอกสารฉบับนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเสนอการขายหลักทรัพย์ หรือชักจูงให้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่จัดการหรือจัดหาโดย Equities First Holdings Hong Kong Limitedแต่จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้ SFOเท่านั้นเอกสารฉบับนี้ไม่ได้ส่งถึงบุคคลหรือองค์กรที่จะทำให้ข้อเสนอหรือคำเชิญชวนดังกล่าวผิดกฎหมายหรือถูกต้องห้าม

ประเทศเกาหลี: เอกสารข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งมีความรู้และประสบการณ์เพียงพอต่อการทำธุรกรรมการจัดหาเงินทุนหลักทรัพย์เป็นการเฉพาะเจาะจง และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่ตรงตามข้อกำหนดข้างต้น

สหราชอาณาจักร: Equities First (London) Limited ได้รับการรับรองและควบคุมในสหราชอาณาจักรโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (” FCA”) ในสหราชอาณาจักร เอกสารฉบับนี้ได้แจกจ่ายให้แก่บุคคลที่มีลักษณะเป็นไปตามมาตรา 19(5) (นักลงทุนมืออาชีพ) และมาตรา 42(2) (บริษัทที่มีมูลค่าสุทธิสูง สมาคมอิสระ ฯลฯ) ในส่วนที่ 4 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่องบริการทางการเงินและตลาด ค.ศ. 2000 (การสนับสนุนทางการเงิน) คำสั่ง ค.ศ. 2005 (“FPO”) เท่านั้น และกิจกรรมการลงทุนใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอนี้จะใช้ได้เฉพาะกับบุคคลดังกล่าวและมีเพียงแค่บุคคลดังกล่าวเท่านั้นที่จะสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวได้ บุคคลที่ไม่มีประสบการณ์ระดับมืออาชีพในการลงทุน หรือบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามมาตรา 49 ของ FPO ไม่ควรใช้เอกสารนี้ เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้หน่วยงานที่ให้การกำกับการให้บริการด้านการลงทุนและผลิตภัณฑ์ทางการเงินในพื้นที่ภาคพื้นยุโรป (MiFID) เท่านั้น