เงินทุนทางเลือกสามารถช่วยรักษาแรงขับเคลื่อนการเติบโตของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
29 สิงหาคม 2567
เนื่องด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ย “ที่อยู่ในข้อพิจารณา” ในการประชุมครั้งถัดไปของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 17-18 กันยายน[1] อาจเป็นความหวังสำหรับธุรกิจต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กำลังประสบปัญหาในการระดมทุน
วงจรอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงสองปีที่ผ่านมาได้สร้างแรงกดดันให้ธนาคารกลางหลายแห่งในเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อพยุงค่าเงินของตนและควบคุมภาวะเงินเฟ้อ
แต่เนื่องจากหนี้เสียมีอัตราพุ่งสูงขึ้นในประเทศสมาชิกหลายประเทศของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)[2] ประกอบกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาคและภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลกที่ยังคงดำเนินอยู่ แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเริ่ม ผ่อนปรนมาตรการต่าง ๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่สภาวะสินเชื่อก็มีแนวโน้มจะยังคงตึงตัว ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ โซลูชันการจัดหาเงินทุนทางเลือกจะยังคงช่วยลดช่องว่างในการจัดหาเงินทุนให้แก่ธุรกิจในภูมิภาค ซึ่งพร้อมและโหยหาการเติบโต
โอกาสรออยู่อีกมาก
เศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ฟื้นตัวจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ได้อย่างแข็งแกร่ง และได้รักษาแรงขับเคลื่อน การเติบโตต่อเนื่องมาจนถึงปี 2567 ที่สำคัญ การเติบโตนี้ได้รับแรงผลักดันส่วนใหญ่จากการบริโภคภายในประเทศที่แข็งแกร่ง โดยมีปัจจัยหนุนจากการว่างงานในระดับต่ำ[3] ซึ่งหมายความว่า แม้สภาพแวดล้อมภายนอกที่ท้าทายจะเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัว ของการส่งออกในระยะเริ่มต้น แต่ภูมิภาคนี้ก็ดูเหมือนว่าจะยังคงเป็นศูนย์กลางของการเติบโตระดับโลก
อาเซียนกำลังมุ่งหน้าสู่การเป็นภูมิภาคที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลกภายในปี 2573[4] เนื่องจากห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก หันมาให้ความสำคัญกับประเทศสมาชิกมากขึ้น[5] นอกจากนี้ อาเซียนจะยกระดับห่วงโซ่คุณค่าต่อไป โดยกระจายความหลากหลาย จากสินค้าโภคภัณฑ์และทรัพยากรธรรมชาติ ไปสู่สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์สารกึ่งตัวนำ และสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูงอื่น ๆ[6] ตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงนี้คือ มาเลเซียได้กลายเป็นผู้ส่งออกไมโครชิปรายใหญ่ไปยังสหรัฐฯ[7] กทั้งบริษัทต่าง ๆ อย่าง Samsung และ Apple ไม่เพียงขยายการผลิตในเวียดนาม[8] แต่ยังสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาในประเทศอีกด้วย[9]
การเปลี่ยนแปลงนี้จะกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวของเมืองมากขึ้น และกระจายความมั่งคั่งไปทั่วทั้งกลุ่มประเทศ ส่งผลให้เกิดการบริโภค ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ภายในปี 2573 คาดว่าประชากร 70% ของภูมิภาค ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนมากกว่า 670 ล้านคน[10] จะมีรายได้ ในระดับชนชั้นกลาง ผลักดันให้ตลาดผู้บริโภคมีมูลค่าประมาณ 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ[11]
การค้าภายในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนคาดว่าจะเติบโตขึ้น 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงทศวรรษหน้า[12] เนื่องจากมีความต้องการ เพิ่มขึ้นในหลากหลายภาคส่วนที่มุ่งเน้นผู้บริโภค ตั้งแต่การศึกษาและการดูแลสุขภาพ ไปจนถึงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และรถยนต์[13] ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจในท้องถิ่นจะพบโอกาสการเติบโตภายในภูมิภาคเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ เศรษฐกิจดิจิทัลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเติบโตอย่างรวดเร็วเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ บริการทาง การเงินดิจิทัล แพลตฟอร์มการขนส่งและการจัดส่งอาหาร ตลอดจนการท่องเที่ยวและสื่อออนไลน์มีบทบาทสำคัญอย่างมาก[14] ยอดขายจากเศรษฐกิจดิจิทัลในหกประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย ไทย สิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ มีมูลค่าสูงถึงประมาณ 218 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566 และคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 600 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2573 ตามรายงาน e-Conomy SEA ประจำปีของ Google, Temasek และ Bain & Company[15]
อุปสรรคด้านสินเชื่อ
อุปสรรคที่อาจขัดขวางศักยภาพการเติบโตนี้คือการที่ผู้ให้สินเชื่อแบบดั้งเดิมในปัจจุบันไม่เต็มใจที่จะให้บริการแก่ธุรกิจในภูมิภาค แม้ว่าธุรกิจเหล่านี้จะได้รับประโยชน์จากโอกาสทางเศรษฐกิจที่เด่นชัดกว่าบริษัทอื่น ๆ ก็ตาม
แม้แต่บริษัทขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียนก็ยังต้องพบกับความยากลำบากในการจัดหาทุน โดยปริมาณสินเชื่อร่วมในไตรมาสที่สองของปี 2567 ลดลงเกือบ 40% เมื่อเทียบกับปีก่อน สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี ซึ่งต่ำกว่าระดับที่เห็นในช่วงจุดสูงสุดของการระบาดใหญ่ ในปี 2563[16] ขณะเดียวกัน ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในภูมิภาคที่กำลังประสบปัญหาการขาดแคลนเงินทุนอย่างรุนแรง มาเป็นเวลานาน[17] อาจตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม
นอกจากจะเป็นอุปสรรคต่อบริษัทต่าง ๆ แล้ว การขาดแคลนเงินทุนยังอาจขัดขวางการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานในอาเซียน ซึ่งโดยรวมแล้วถือเป็นผู้บริโภคด้านพลังงานรายใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก รองจากจีน สหรัฐฯ และอินเดีย[18] ในทางกลับกัน สิ่งนี้อาจทำให้โอกาสในการส่งออกของภูมิภาคลดลง เนื่องจากครึ่งหนึ่งของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ให้คำมั่นที่จะบรรลุเป้าหมาย การปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ และคาดหวังให้พันธมิตรในห่วงโซ่อุปทานของตนนำแผนการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานที่ใช้งาน ได้จริงไปปรับใช้[19]
วันที่สดใสรออยู่ข้างหน้าหรือไม่
โชคดีที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจผ่านพ้นวิกฤตสินเชื่อที่เลวร้ายที่สุดไปได้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศได้เรียกร้อง ให้ธนาคารกลางในเอเชียให้ความสำคัญกับอัตราเงินเฟ้อภายในประเทศ และหลีกเลี่ยงการผูกโยงการตัดสินใจด้านนโยบายของตนกับ การเคลื่อนไหวของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่คาดการณ์ไว้มากเกินไป[20]
อัตราดอกเบี้ยที่สูงในสหรัฐฯ ได้สร้างแรงกดดันต่อค่าเงินของหลายประเทศในอาเซียน รวมถึงฟิลิปปินส์ ไทย และอินโดนีเซีย โดยธนาคารกลางหลายแห่งได้เลือกที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเพื่อพยุงค่าเงินของตนและควบคุมภาวะเงินเฟ้อ[21]
ตามที่กล่าวมา อัตราดอกเบี้ยทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เพิ่มขึ้นน้อยกว่าอัตราเพิ่มขึ้น 5 จุดเปอร์เซ็นต์ของสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ที่ 5.5% อย่างไรก็ตาม อัตราดอกเบี้ยในประเทศสมาชิกอาเซียนมีความแตกต่างกันระดับหนึ่ง[22] อัตราดอกเบี้ยในไทยเพิ่มขึ้นเพียง 2 จุดเปอร์เซ็นต์ โดยอยู่ที่ 2.5% และอัตราดอกเบี้ยในมาเลเซียเพิ่มขึ้น 1.25 จุดเปอร์เซ็นต์ โดยอยู่ที่ 3% ในขณะที่อินโดนีเซียมีความท้าทายมากกว่า โดยอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 2.75 จุดเปอร์เซ็นต์ ทำให้อัตราอยู่ที่ 6.25% และในฟิลิปปินส์ซึ่งมีการเพิ่มขึ้นรวม 4 จุดเปอร์เซ็นต์ ทำให้อัตราอยู่ที่ 6.5%
แต่เมื่ออัตราเงินเฟ้อในประเทศเหล่านี้อยู่ในระดับเป้าหมายแล้ว[23] มีแนวโน้มว่าอัตราดอกเบี้ยจะไม่เพิ่มขึ้นอีก รัฐบาลท้องถิ่นยังกดดันให้ ธนาคารกลางของตนเริ่มผ่อนปรนเพื่อกระตุ้นการเติบโต[24] แม้จะไม่ชัดเจนว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใดและในขอบเขตเท่าใด
แม้ว่าธนาคารกลางจะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการปรับลด อัตราดอกเบี้ยทั่วอาเซียน แต่ธนาคารในภูมิภาคอาจยังคงระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อเมื่อเผชิญกับความเสี่ยงด้านสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น และรายได้ดอกเบี้ยที่ลดลง ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน[25]
การลดช่องว่าง
ธุรกิจต่าง ๆ จำเป็นต้องจัดหาเงินทุนเพื่อคว้าโอกาสอันเป็นผลจากการเติบโตในระยะสั้นของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยธนาคารเพื่อ การพัฒนาแห่งเอเชียคาดการณ์ว่า GDP จะขยายตัว 4.6% ในปี 2567 และ 4.7% ในปี 2568 และจะเพิ่มขึ้นในระยะยาว ขณะที่ผู้ให้สินเชื่อแบบดั้งเดิมจำนวนมากยังคงอยู่เฉย เงินทุนทางเลือกจากแหล่งที่ไม่ใช่ธนาคารจึงกลายเป็นวิธีที่สำคัญมากขึ้น ในการอุดช่องว่างนี้
หนึ่งในโซลูชันดังกล่าวคือการจัดหาเงินทุนโดยใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันจาก EquitiesFirst ซึ่งช่วยให้ผู้ถือหุ้นระยะยาวมีวิธีที่สะดวก ยืดหยุ่น และคุ้มค่าในการใช้หุ้นของตนเป็นหลักประกันในการเข้าถึงสภาพคล่อง โครงสร้างที่เป็นข้อตกลงการขายและซื้อคืนโดยไม่มี ข้อจำกัดในการใช้เงินทุน ช่วยให้นักลงทุนสามารถรักษาศักยภาพส่วนต่างของการถือครองพื้นฐานของตนไว้ พร้อม ๆ กับการแสวงหา ผลตอบแทนจากโอกาสที่เกิดขึ้นใหม่ในภูมิภาค
[1] https://apnews.com/article/inflation-economy-federal-reserve-interest-rates-04d2877f47f3913acc2f992d8ef1581b
[2] https://asia.nikkei.com/Business/Finance/ASEAN-banks-squeezed-between-credit-risks-and-interest-dynamics
[3] https://www.mckinsey.com/featured-insights/future-of-asia/southeast-asia-quarterly-economic-review
[4] https://asean.org/wp-content/uploads/2022/12/investment-report-2023.pdf
[5] https://www.cnbc.com/2024/06/24/southeast-asia-is-the-top-choice-for-firms-diversifying-away-from-china.html
[6] https://asean.org/wp-content/uploads/2023/12/AIR-Special-2023.pdf
[7] https://www.ft.com/content/4e0017e8-fb48-4d48-8410-968e3de687bf
[8] https://www.scmp.com/tech/tech-trends/article/3206362/chinese-supplier-apple-samsung-screens-build-new-factories-vietnam
[9] https://www.cnbc.com/2024/06/24/southeast-asia-is-the-top-choice-for-firms-diversifying-away-from-china.html
[10] https://www.aseanstats.org/wp-content/uploads/2023/12/ASEAN-Key-Figures-2023.pdf
[11] https://www.business.hsbc.com.cn/en-gb/campaigns/belt-and-road/asean-story-3
[12] https://www.bcg.com/publications/2024/jobs-national-security-and-future-of-trade
[13] https://investasean.asean.org/reasons-for-investing/view/671/newsid/741/robust-market.html#_ftn1
[14] https://services.google.com/fh/files/misc/e_conomy_sea_2023_report.pdf
[15] https://www.temasek.com.sg/content/dam/temasek-corporate/news-and-views/resources/reports/google-temasek-bain-e-conomy-sea-2023-report.pdf
[16] https://www.bloomberg.com/professional/insights/data/apac-loans-market-overview-q2-2023/
[17] https://www.adb.org/sites/default/files/publication/774531/financing-smes-credit-guarantee-schemes.pdf
[18] https://www.weforum.org/agenda/2023/05/how-asean-can-seize-its-energy-opportunities/
[19] https://www.weforum.org/agenda/2023/05/how-asean-can-seize-its-energy-opportunities/
[20] https://www.reuters.com/markets/imf-tells-asian-central-banks-not-follow-fed-too-closely-2024-04-18/
[21] https://www.ft.com/content/3a985f06-35b5-4a56-91eb-4595fc71b0ad
[22] https://en.macromicro.me/collections/1773/asean/14970/asean-interest-rate
[23] https://www.mckinsey.com/featured-insights/future-of-asia/southeast-asia-quarterly-economic-review
[24] https://www.reuters.com/markets/asia/thai-central-bank-says-rates-could-change-if-economic-outlook-shifts-2024-05-29
[25] https://asia.nikkei.com/Business/Finance/ASEAN-banks-squeezed-between-credit-risks-and-interest-dynamics
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ
ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้รับประกันผลตอบแทนในอนาคต และไม่มีการรับประกันหรือรับรองผลตอบแทนของแต่ละบุคคล
เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ได้รับการรับรอง นักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายอื่น ๆ กำหนดเท่านั้น และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นเนื้อหาที่มีลักษณะทั่วไปและไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์หรือความต้องการทางการเงินที่เฉพาะเจาะจงใด ๆ มุมมองและความคิดเห็นที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นโดยบุคคลที่ภายนอก และอาจไม่ได้สะท้อนมุมมองและความคิดเห็นของ EquitiesFirst นอกจากนี้ EquitiesFirst ไม่ได้ตรวจสอบหรือยืนยันข้อมูลที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ด้วยตนเอง และไม่ได้รับรองว่าข้อมูลดังกล่าวถูกต้องหรือสมบูรณ์ ความคิดเห็นและข้อมูลในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขาย (หรือการชักชวนให้ซื้อ) หลักทรัพย์ การลงทุน หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินใด ๆ (“ข้อเสนอ”) ข้อเสนอใด ๆ ดังกล่าวจะต้องดำเนินการผ่านการเสนอขายที่เกี่ยวข้องหรือเอกสารอื่น ๆ ที่มีการระบุข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เป็นสาระสำคัญไว้อย่างชัดเจนเท่านั้น ข้อมูลใด ๆ ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการแนะนำ การจูงใจ การเชิญชวน การโน้มน้าว การส่งเสริมการขาย หรือเป็นข้อเสนอให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์การลงทุนใด ๆ จาก Equities First Holdings, LLC หรือบริษัทย่อยของ Equities First Holdings, LLC (เรียกรวมกันว่า ” EquitiesFirst”) และไม่ควรตีความในทางใดทางหนึ่งว่าเอกสารฉบับนี้เป็นการแนะนำด้านการลงทุน กฎหมาย หรือภาษี รวมถึงการแนะนำ การอ้างอิง หรือการรับรองจาก EquitiesFirst ท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน
เอกสารฉบับนี้ประกอบด้วยทรัพย์สินทางปัญญาของ EquitiesFirst ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงโลโก้ต่าง ๆ และเครื่องหมายการค้าอื่น ๆ ทั้งที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียน ตลอดจนเครื่องหมายบริการที่เกี่ยวข้องตามลำดับ EquitiesFirst ขอสงวนสิทธิ์ทั้งหมดในทรัพย์สินทางปัญญาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่าย เผยแพร่ ทำซ้ำ หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้รับสามารถส่งต่อเนื้อหาทั้งหมดหรือบางส่วนของเอกสารฉบับนี้ไปยังผู้อื่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่ายให้แก่บุคคลในประเทศใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดกฎหมายหรือระเบียบอื่นใดที่เกี่ยวข้อง
EquitiesFirst ไม่รับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับเอกสารฉบับนี้ และขอปฏิเสธอย่างชัดแจ้งต่อการรับประกันโดยนัยใด ๆ ภายใต้กฎหมาย ท่านรับทราบว่า EquitiesFirst จะไม่ต้องรับผิดในทุกกรณี สำหรับความเสียหายทั้งทางตรง ทางอ้อม ที่เป็นกรณีพิเศษ ที่เป็นผลสืบเนื่อง โดยไม่เจตนา หรือที่เป็นการลงโทษ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการสูญเสียผลประโยชน์หรือการสูญเสียโอกาสใด ๆ แม้ว่า EquitiesFirst จะรับทราบถึงความเป็นไปได้ของความเสียหายดังกล่าวก็ตาม
EquitiesFirst ได้จัดทำคำแถลงการเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจบังคับใช้ในเขตอำนาจศาลที่ระบุไว้
ประเทศออสเตรเลีย: Equities First Holdings (Australia) Pty Ltd (หมายเลขทะเบียนบริษัท: 142 644 399) เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตบริการทางการเงินของประเทศออสเตรเลีย (หมายเลข AFSL: 387079) สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด
ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีไว้สำหรับบุคคลที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียและจัดเป็นลูกค้าสำหรับการค้าส่ง (Wholesale Client) ตามที่ระบุในมาตรา 761G แห่งพระราชบัญญัติบริษัท ค.ศ. 2001 (Corporations Act 2001)เท่านั้นการเผยแพร่ข้อมูลให้บุคคลอื่นใดที่มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดข้างต้นอาจมีข้อจำกัดตามกฎหมาย ทั้งนี้ บุคคลใดที่มีข้อมูลดังกล่าวในครอบครองควรเสาะหาคำแนะนำและทำความเข้าใจข้อจำกัดดังกล่าว เนื้อหาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรตีความว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อเสนอ การจูงใจ หรือคำแนะนำในการซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลในลักษณะทั่วไป และไม่ใช่คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินส่วนบุคคล คำแนะนำใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้เป็นคำแนะนำทั่วไปเท่านั้น และจัดทำขึ้นโดยไม่ได้คำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์หรือความต้องการทางการเงินของผู้ลงทุน ก่อนดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ ท่านควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าว และลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ และความต้องการทางการเงินของท่านท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเอง และอ่านคำแถลงการเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง หรือเอกสารข้อเสนออื่น ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน
ดูไบ: Equities First Holdings Hong Kong Ltd (สำนักงานตัวแทน DIFC) ตั้งอยู่ที่ Gate Precinct Building 4, 6th Floor, Office 7, Dubai International Financial Centre (เลขทะเบียนพาณิชย์ CL7354) อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Dubai Financial Services Authority (“DFSA”) ในฐานะสำนักงานตัวแทน (เลขที่อ้างอิงบริษัทของ DFSA: F008752) สงวนลิขสิทธิ์ ข้อมูลที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อการใช้งานโดยทั่วไป หากมีเนื้อหาส่วนใดที่อาจเข้าใจว่าเป็นคำแนะนำ ให้ถือว่าคำแนะนำใดที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้เป็นเพียงคำแนะนำโดยทั่วไป ไม่ได้จัดทำขึ้นโดยพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน ความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือตามความต้องการของคุณ
เนื้อหาสาระที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นการให้คำแนะนำทางการเงิน อีกทั้งไม่ถือเป็นการเสนอหรือเชิญชวนหรือแนะนำให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินแต่อย่างใด ข้อมูลที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อการใช้งานโดยทั่วไป คำแนะนำใดที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้เป็นเพียงคำแนะนำโดยทั่วไป ไม่ได้จัดทำขึ้นโดยพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน ความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือตามความต้องการของคุณ ดังนั้นก่อนดำเนินการตามข้อมูลเหล่านี้ คุณควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลที่ให้ไว้ ตลอดจนลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องตามวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน และความต้องการของคุณ หากคุณไม่เข้าใจเนื้อหาในเอกสารฉบับนี้ โปรดขอคำปรึกษาจากที่ปรึกษาทางการเงินที่ได้รับอนุญาต
เอกสารฉบับนี้เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินซึ่งไม่อยู่ภายใต้ข้อบังคับใดหรือไม่จำเป็นต้องได้รับอนุมัติจาก DFSA และ DFSA ไม่มีหน้าที่ในการตรวจสอบหรือยืนยันเอกสารใดอันเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินนี้ อีกทั้ง DFSA ไม่ได้เป็นผู้อนุมัติเอกสารฉบับนี้หรือเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้อง รวมถึงไม่ได้ดำเนินมาตรการใดเพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ และไม่รับผิดชอบต่อข้อมูลดังกล่าว
เขตบริหารพิเศษฮ่องกง: Equities First Holdings Hong Kong Limitedได้รับใบอนุญาตภายใต้กฎหมายผู้ให้กู้ยืมในฮ่องกง (หมายเลขใบอนุญาตผู้ให้กู้เลขที่ 1659/2024)และดำเนินธุรกิจด้านการจัดการกับหลักทรัพย์ (ใบอนุญาตประเภทที่ 1)ภายใต้กฎหมายการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกง (“SFO”) (หมายเลข CEเลขที่ BFJ407)เอกสารฉบับนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกงนอกจากนี้เอกสารฉบับนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเสนอการขายหลักทรัพย์ หรือชักจูงให้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่จัดการหรือจัดหาโดย Equities First Holdings Hong Kong Limitedแต่จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้ SFOเท่านั้นเอกสารฉบับนี้ไม่ได้ส่งถึงบุคคลหรือองค์กรที่จะทำให้ข้อเสนอหรือคำเชิญชวนดังกล่าวผิดกฎหมายหรือถูกต้องห้าม
ประเทศเกาหลี: เอกสารข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งมีความรู้และประสบการณ์เพียงพอต่อการทำธุรกรรมการจัดหาเงินทุนหลักทรัพย์เป็นการเฉพาะเจาะจง และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่ตรงตามข้อกำหนดข้างต้น
สหราชอาณาจักร: Equities First (London) Limited ได้รับการรับรองและควบคุมในสหราชอาณาจักรโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (” FCA”) ในสหราชอาณาจักร เอกสารฉบับนี้ได้แจกจ่ายให้แก่บุคคลที่มีลักษณะเป็นไปตามมาตรา 19(5) (นักลงทุนมืออาชีพ) และมาตรา 42(2) (บริษัทที่มีมูลค่าสุทธิสูง สมาคมอิสระ ฯลฯ) ในส่วนที่ 4 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่องบริการทางการเงินและตลาด ค.ศ. 2000 (การสนับสนุนทางการเงิน) คำสั่ง ค.ศ. 2005 (“FPO”) เท่านั้น และกิจกรรมการลงทุนใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอนี้จะใช้ได้เฉพาะกับบุคคลดังกล่าวและมีเพียงแค่บุคคลดังกล่าวเท่านั้นที่จะสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวได้ บุคคลที่ไม่มีประสบการณ์ระดับมืออาชีพในการลงทุน หรือบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามมาตรา 49 ของ FPO ไม่ควรใช้เอกสารนี้ เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้หน่วยงานที่ให้การกำกับการให้บริการด้านการลงทุนและผลิตภัณฑ์ทางการเงินในพื้นที่ภาคพื้นยุโรป (MiFID) เท่านั้น