ตลาดสินเชื่อที่พัฒนามากขึ้นช่วยให้แบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคในภูมิภาคอ่าวอาหรับไปสู่ระดับโลกได้

24 ตุลาคม 2568

เศรษฐกิจที่เฟื่องฟูในภูมิภาคอ่าวอาหรับกำลังขับเคลื่อนให้เกิดแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภครุ่นใหม่ ๆ แต่การทำให้บริษัทเกิดใหม่ที่มีศักยภาพเหล่านั้นให้กลายเป็นธุรกิจระดับโลก ต้องอาศัยมากกว่าความมุ่งมั่น เพราะต้องมีรูปแบบการจัดหาเงินทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายนั้นด้วย

การเติบโตของการใช้จ่ายภาคครัวเรือนในกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) คาดว่าจะขยายตัวเร็วกว่าประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากโครงสร้างประชากรวัยหนุ่มสาว ตลาดแรงงานที่ขยายตัวต่อเนื่อง และนโยบายของรัฐบาลที่ตั้งใจจะการพึ่งพาทรัพยากรน้ำมัน[1]

อย่างไรก็ตาม ภูมิภาคนี้ยังมีบทบาทน้อยกว่าศักยภาพที่ควรจะเป็นในเวทีโลก

ตามรายงาน Brand Finance Global 500 มีเพียง 9 แบรนด์จากตะวันออกกลาง รวมมูลค่า 127,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่ามีบทบาทจำกัดเมื่อเทียบกับจีนที่มี 69 แบรนด์ และสหรัฐอเมริกาที่มีถึง 193 แบรนด์[2],[3] อย่างไรก็ดี ในปี 2568 ทั้ง 9 แบรนด์นี้มีการเติบโตของมูลค่า 23% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งมากกว่าแบรนด์ที่ไม่ใช่ตะวันออกกลางที่มีการเติบโต 11% ถึงสองเท่า[4]

ศักยภาพนั้นมีอยู่แล้ว แต่คำถามคือผู้ก่อตั้งธุรกิจในภูมิภาคอ่าวอาหรับจะสามารถเข้าถึงเงินทุนที่สอดคล้องกับศักยภาพนั้นได้หรือไม่

ในตลาดที่พัฒนาแล้ว ผู้ประกอบการธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคสามารถเข้าถึงเครื่องมือสินเชื่อภาคเอกชนหลากหลายประเภทได้อยู่แล้ว ตั้งแต่สินเชื่อที่มีหุ้นเป็นหลักประกันไปจนถึงผู้ให้สินเชื่อเฉพาะทางที่เข้าใจความต้องการของแบรนด์ที่เคลื่อนไหวเร็ว

ทางเลือกเหล่านี้ช่วยให้ผู้ก่อตั้งธุรกิจสามารถนำเงินกลับไปลงทุนต่อในด้านการขยายธุรกิจ การตลาด และสินค้าคงคลัง โดยไม่ต้องขายสัดส่วนหุ้นเร็วเกินไป ในทางกลับกัน ผู้ประกอบการในภูมิภาคอ่าวอาหรับยังคงพึ่งพาธนาคารเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งบางครั้งมีการคิดอัตราดอกเบี้ยเป็นเลขสองหลักเมื่อให้สินเชื่อกับบริษัทเกิดใหม่และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

การลดอัตราดอกเบี้ยล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐฯ ช่วยบรรเทาผลกระทบต่อธุรกิจทั่วโลกได้บ้าง แต่ผลกระทบในกลุ่มประเทศ GCC จะยังคงจำกัดอยู่ เนื่องจากสกุลเงินในภูมิภาคอ่าวอาหรับผูกค่ากับเงินดอลลาร์ ธนาคารกลางของภูมิภาคจึงมีพื้นที่จำกัดในการกำหนดทิศทางของตนเอง แม้ว่าการคาดการณ์เงินเฟ้อจะอยู่ในระดับต่ำก็ตาม[5] อัตราเงินเฟ้อที่มีความหนืดในสหรัฐฯ คาดว่าจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมยังคงสูงกว่าที่ควรจะเป็นในที่สภาพเศรษฐกิจของภูมิภาค โดยอัตราเงินเฟ้อรายปีในภูมิภาคอ่าวอาหรับคาดว่าจะอยู่ใกล้ 2% ในปีนี้ เทียบกับเกือบ 3% ในสหรัฐฯ เมื่อเดือนที่ผ่านมา[6],[7]

สำหรับผู้ประกอบการหลาย ๆ ราย เพียงแค่ต้องเลือกว่าจะทำธุรกิจให้ขนาดเล็กต่อไปหรือยอมรับสินเชื่อที่มีต้นทุนสูง

แน่นอนว่าธุรกิจเงินร่วมลงทุนกำลังขยายตัว และการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรก (IPO) ที่ประสบความสำเร็จในริยาดและดูไบ แสดงให้นักลงทุนเห็นว่ามีความพร้อมมากขึ้นที่จะเปิดรับแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น Talabat[8] อย่างไรก็ตาม ช่องว่างด้านการจัดหาเงินทุนมูลค่า 2.50 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในภูมิภาค จะไม่สามารถเติมเต็มได้ด้วยธุรกิจเงินร่วมลงทุนเพียงอย่างเดียว[9]

สินเชื่อภาคเอกชนเป็นทางออกหนึ่ง รายงานล่าสุดของ PwC ระบุว่าขณะนี้กลุ่มประเทศ GCC และอียิปต์เป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกสำหรับบริการสินเชื่อที่ไม่ใช่ธนาคาร โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักมาจากบริษัทเกิดใหม่และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินแบบดั้งเดิมได้[10]

สำหรับผู้ก่อตั้งธุรกิจในภูมิภาคอ่าวอาหรับ การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ

ปีที่น่าจดจำสำหรับแบรนด์ในกลุ่มประเทศ GCC

การเปลี่ยนจากการพึ่งพาทรัพยากรน้ำมันไปสู่การเติบโตของธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน ไม่ใช่แค่คำพูดลอย ๆ อีกต่อไป ในปี 2567 กิจกรรมของธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำมันคิดเป็น 77.9% ของ GDP ในกลุ่มประเทศ GCC โดยมีการเติบโตในกลุ่มประเทศสมาชิกอยู่ที่ประมาณ 4%[11],[12] การส่งออกสินค้าและบริการที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 2.02 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นไปสู่ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2573 หากการปฏิรูประบบและการกระจายความหลากหลายทางเศรษฐกิจยังคงดำเนินต่อไป[13]

การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญนี้เริ่มส่งผลกระทบในระดับโลกแล้ว

ช็อกโกแลตดูไบ ซึ่งเป็นช็อกโกแลตบาร์ทำมือสอดไส้พิสตาชิโอ กลายเป็นที่นิยมทั่วโลกในช่วงต้นปีนี้ โดยแบรนด์อย่าง Al Nassma ซึ่งมีชื่อเสียงจากช็อกโกแลตนมอูฐ ได้วางตำแหน่งตนเองเป็นผู้จำหน่ายรสชาติท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์[14] ในตลาดสินค้าเพื่อความงามของภูมิภาคอ่าวอาหรับ (มีมูลค่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568[15]) แบรนด์ Huda Kattan จากดูไบได้ทำให้ Huda Beauty กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก โดยได้รับการจัดอันดับให้เป็นแบรนด์สินค้าเพื่อความงามที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกในดัชนีไตรมาส 1 ปี 2568 ของ Cosmetify[16] ในขณะเดียวกัน แบรนด์ Bateel ได้ขยายธุรกิจจากอินทผลัมคุณภาพสูงไปสู่เครือข่ายธุรกิจของขวัญระดับพรีเมียม โดยมีร้านค้ามากกว่า 170 แห่งใน 26 ประเทศ และมีร้านบูติกเรือธงตั้งอยู่ในสิงคโปร์[17]

เรื่องราวเหล่านี้พิสูจน์ให้เห็นว่าผู้ประกอบการธุรกิจในภูมิภาคอ่าวอาหรับมีวิสัยทัศน์ ความโดดเด่นทางวัฒนธรรม และมีตลาดภายในประเทศที่สามารถแข่งขันในระดับนานาชาติได้ สิ่งที่ยังขาดอยู่คือการจัดหาเงินทุนเพื่อสนับสนุนธุรกิจเหล่านี้

เรื่องราวที่น่าจดจำคือ Howard Schultz เคยระดมทุน 400,000 ดอลลาร์สหรัฐจากนักลงทุนยุคแรกในสหรัฐฯ ช่วงกลางทศวรรษ 1980 เพื่อนำแนวคิดคาเฟ่มาสู่ธุรกิจจริง ซึ่งต่อมาได้รวมเข้ากับ Starbucks หลังจากถูกธนาคารปฏิเสธ[18] การจัดหาเงินทุนดังกล่าวกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ช่วยให้ Starbucks ขยายจากธุรกิจที่มีหน้าร้านเพียงไม่กี่แห่งไปสู่แบรนด์ใหญ่ระดับโลก

ในทุกอุตสาหกรรม การจัดหาเงินทุนที่ไม่ใช่วิธีการแบบดั้งเดิม ตั้งแต่เงินกู้ยืมจากครอบครัวไปจนถึงสินเชื่อที่มีหุ้นเป็นหลักประกัน มักเป็นปัจจัยกำหนดความแตกต่างระหว่างการทำธุรกิจขนาดเล็กต่อไปกับการขยายสู่ระดับโลก

ข้อได้เปรียบที่ภูมิภาคอ่าวอาหรับยังไม่ได้ใช้เต็มที่คือความมั่งคั่งที่ถืออยู่ในหุ้นปัจจุบัน เฉพาะในซาอุดีอาระเบีย ฐานนักลงทุนรายย่อยมีจำนวนถึง 6.9 ล้านรายแล้ว[19]

หากเพียงส่วนหนึ่งของพอร์ตลงทุนขนาดใหญ่ที่ถืออยู่ในครัวเรือนและครอบครัวเหล่านี้ มีการนำมาใช้เพื่อสร้างสภาพคล่องผ่านการจัดหาเงินทุนที่มีหุ้นเป็นหลักประกัน ผู้ก่อตั้งธุรกิจจะสามารถปลดล็อกสภาพคล่องได้โดยไม่ต้องลดสัดส่วนการถือหุ้นในระยะยาว และแปลงความมั่งคั่งส่วนบุคคลไปเป็นการเติบโตของธุรกิจได้

ข้อความนี้สื่ออย่างตรงไปตรงมาว่า เศรษฐกิจผู้ประกอบการในภูมิภาคอ่าวอาหรับสามารถใช้ประโยชน์จากการเข้าถึงแหล่งเงินทุนทางเลือกและกลุ่มผู้ให้สินเชื่อที่หลากหลายมากขึ้นได้

เมื่อตลาดสินเชื่อทางเลือกขยายตัวและผู้ก่อตั้งธุรกิจยอมรับเครื่องมือนี้ แบรนด์สินค้าอุปโภครุ่นใหม่ ๆ จากริยาดหรือดูไบจะสามารถสร้างชื่อเสียงของตนในลอนดอนหรือนิวยอร์กได้


[1] https://www.oxfordeconomics.com/resource/why-gcc-consumers-are-set-to-continue-to-outperform/

[2] https://brandfinance.com/press-releases/middle-eastern-brands-outpace-global-brand-value-growth-rate

[3] https://static.brandirectory.com/reports/brand-finance-global-500-2025-preview.pdf

[4] https://www.arabnews.com/node/2587245/media

[5] https://gulfbusiness.com/us-fed-rate-cut-gcc-central-banks-impact-economy-finances

[6] https://tradingeconomics.com/united-states/inflation-cpi

[7] https://economymiddleeast.com/news/gcc-economic-growth-rise-4-percent-2025-despite-trade-headwinds-icaew/

[8] https://www.pwc.com/m1/en/media-centre/2025/11-gcc-ipos-raise-us-16bn-driven-by-strong-momentum-in-saudi-arabia.html

[9] https://www.middle-east.kearney.com/industry/financial-services/article/small-but-mighty-why-banks-need-to-rethink-how-they-serve-smes

[10] https://www.pwc.com/m1/en/publications/2025/docs/pwc-difc-private-credit-report-seizing-the-moment.pdf

[11] https://www.worldbank.org/en/news/press-release/2024/12/01/non-oil-sectors-drive-robust-growth-in-gcc-countries

[12] https://www.zawya.com/en/economy/gcc/gcc-stat-gcc-countries-record-5878bln-in-nominal-gdp-by-end-of-q4-2024-jpgxcn85

[13] https://www.strategyand.pwc.com/m1/en/strategic-foresight/sector-strategies/public-sector-management/export-non-oil-goods.html

[14] https://www.nytimes.com/2025/01/23/dining/dubai-chocolate-cant-get-knafeh-it.html

[15] https://www.voguebusiness.com/beauty/beauty-has-a-new-definition-in-the-gulf

[16] https://www.arabnews.com/node/2602599/lifestyle

[17] https://en.incarabia.com/bateel%E2%80%99s-nurta%C3%A7-afridi-on-global-growth-and-gourmet-dates-741474.html

[18] https://www.telegraph.co.uk/finance/newsbysector/retailandconsumer/8505866/Forty-years-young-A-history-of-Starbucks.html

[19] https://www.argaam.com/en/article/articledetail/id/1838389

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ

ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้รับประกันผลตอบแทนในอนาคต และไม่มีการรับประกันหรือรับรองผลตอบแทนของแต่ละบุคคล

เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ได้รับการรับรอง นักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายอื่น ๆ กำหนดเท่านั้น และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นเนื้อหาที่มีลักษณะทั่วไปและไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์หรือความต้องการทางการเงินที่เฉพาะเจาะจงใด ๆ มุมมองและความคิดเห็นที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นโดยบุคคลที่ภายนอก และอาจไม่ได้สะท้อนมุมมองและความคิดเห็นของ EquitiesFirst นอกจากนี้ EquitiesFirst ไม่ได้ตรวจสอบหรือยืนยันข้อมูลที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ด้วยตนเอง และไม่ได้รับรองว่าข้อมูลดังกล่าวถูกต้องหรือสมบูรณ์ ความคิดเห็นและข้อมูลในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขาย (หรือการชักชวนให้ซื้อ) หลักทรัพย์ การลงทุน หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินใด ๆ (“ข้อเสนอ”) ข้อเสนอใด ๆ ดังกล่าวจะต้องดำเนินการผ่านการเสนอขายที่เกี่ยวข้องหรือเอกสารอื่น ๆ ที่มีการระบุข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เป็นสาระสำคัญไว้อย่างชัดเจนเท่านั้น ข้อมูลใด ๆ ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการแนะนำ การจูงใจ การเชิญชวน การโน้มน้าว การส่งเสริมการขาย หรือเป็นข้อเสนอให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์การลงทุนใด ๆ จาก Equities First Holdings, LLC หรือบริษัทย่อยของ Equities First Holdings, LLC (เรียกรวมกันว่า ” EquitiesFirst”) และไม่ควรตีความในทางใดทางหนึ่งว่าเอกสารฉบับนี้เป็นการแนะนำด้านการลงทุน กฎหมาย หรือภาษี รวมถึงการแนะนำ การอ้างอิง หรือการรับรองจาก EquitiesFirst ท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

เอกสารฉบับนี้ประกอบด้วยทรัพย์สินทางปัญญาของ EquitiesFirst ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงโลโก้ต่าง ๆ  และเครื่องหมายการค้าอื่น ๆ ทั้งที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียน ตลอดจนเครื่องหมายบริการที่เกี่ยวข้องตามลำดับ EquitiesFirst ขอสงวนสิทธิ์ทั้งหมดในทรัพย์สินทางปัญญาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่าย เผยแพร่ ทำซ้ำ หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้รับสามารถส่งต่อเนื้อหาทั้งหมดหรือบางส่วนของเอกสารฉบับนี้ไปยังผู้อื่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่ายให้แก่บุคคลในประเทศใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดกฎหมายหรือระเบียบอื่นใดที่เกี่ยวข้อง

EquitiesFirst ไม่รับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับเอกสารฉบับนี้ และขอปฏิเสธอย่างชัดแจ้งต่อการรับประกันโดยนัยใด ๆ ภายใต้กฎหมาย ท่านรับทราบว่า EquitiesFirst จะไม่ต้องรับผิดในทุกกรณี สำหรับความเสียหายทั้งทางตรง ทางอ้อม ที่เป็นกรณีพิเศษ ที่เป็นผลสืบเนื่อง โดยไม่เจตนา หรือที่เป็นการลงโทษ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการสูญเสียผลประโยชน์หรือการสูญเสียโอกาสใด ๆ แม้ว่า EquitiesFirst จะรับทราบถึงความเป็นไปได้ของความเสียหายดังกล่าวก็ตาม

EquitiesFirst ได้จัดทำคำแถลงการเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจบังคับใช้ในเขตอำนาจศาลที่ระบุไว้

ประเทศออสเตรเลีย: Equities First Holdings (Australia) Pty Ltd (หมายเลขทะเบียนบริษัท: 142 644 399) เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตบริการทางการเงินของประเทศออสเตรเลีย (หมายเลข AFSL: 387079) สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด

ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีไว้สำหรับบุคคลที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียและจัดเป็นลูกค้าสำหรับการค้าส่ง (Wholesale Client) ตามที่ระบุในมาตรา 761G แห่งพระราชบัญญัติบริษัท ค.ศ. 2001 (Corporations Act 2001)เท่านั้นการเผยแพร่ข้อมูลให้บุคคลอื่นใดที่มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดข้างต้นอาจมีข้อจำกัดตามกฎหมาย ทั้งนี้ บุคคลใดที่มีข้อมูลดังกล่าวในครอบครองควรเสาะหาคำแนะนำและทำความเข้าใจข้อจำกัดดังกล่าว เนื้อหาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น  และไม่ควรตีความว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อเสนอ การจูงใจ หรือคำแนะนำในการซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลในลักษณะทั่วไป และไม่ใช่คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินส่วนบุคคล คำแนะนำใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้เป็นคำแนะนำทั่วไปเท่านั้น และจัดทำขึ้นโดยไม่ได้คำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์หรือความต้องการทางการเงินของผู้ลงทุน ก่อนดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ ท่านควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าว และลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ และความต้องการทางการเงินของท่านท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเอง และอ่านคำแถลงการเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง หรือเอกสารข้อเสนออื่น ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

การคาดการณ์มิใช่การรับประกันผลลัพธ์ และไม่ควรยึดถือเป็นข้อยุติในการตัดสินใจ ข้อมูลนี้อ้างอิงจากมุมมองของบริษัท Equities First Holdings (Australia) Pty Ltd ณ วันที่เผยแพร่เอกสารฉบับนี้

ดูไบ: Equities First Holdings Hong Kong Ltd (สำนักงานตัวแทน DIFC) ตั้งอยู่ที่ Gate Precinct Building 4, 6th Floor, Office 7, Dubai International Financial Centre (เลขทะเบียนพาณิชย์ CL7354) อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Dubai Financial Services Authority (“DFSA”) ในฐานะสำนักงานตัวแทน (เลขที่อ้างอิงบริษัทของ DFSA: F008752) สงวนลิขสิทธิ์ ข้อมูลที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อการใช้งานโดยทั่วไป หากมีเนื้อหาส่วนใดที่อาจเข้าใจว่าเป็นคำแนะนำ ให้ถือว่าคำแนะนำใดที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้เป็นเพียงคำแนะนำโดยทั่วไป ไม่ได้จัดทำขึ้นโดยพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน ความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือตามความต้องการของคุณ

เนื้อหาสาระที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นการให้คำแนะนำทางการเงิน อีกทั้งไม่ถือเป็นการเสนอหรือเชิญชวนหรือแนะนำให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินแต่อย่างใด ข้อมูลที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อการใช้งานโดยทั่วไป คำแนะนำใดที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้เป็นเพียงคำแนะนำโดยทั่วไป ไม่ได้จัดทำขึ้นโดยพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน ความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือตามความต้องการของคุณ ดังนั้นก่อนดำเนินการตามข้อมูลเหล่านี้ คุณควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลที่ให้ไว้ ตลอดจนลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องตามวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน และความต้องการของคุณ หากคุณไม่เข้าใจเนื้อหาในเอกสารฉบับนี้ โปรดขอคำปรึกษาจากที่ปรึกษาทางการเงินที่ได้รับอนุญาต

เอกสารฉบับนี้เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินซึ่งไม่อยู่ภายใต้ข้อบังคับใดหรือไม่จำเป็นต้องได้รับอนุมัติจาก DFSA และ DFSA ไม่มีหน้าที่ในการตรวจสอบหรือยืนยันเอกสารใดอันเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินนี้ อีกทั้ง DFSA ไม่ได้เป็นผู้อนุมัติเอกสารฉบับนี้หรือเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้อง รวมถึงไม่ได้ดำเนินมาตรการใดเพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ และไม่รับผิดชอบต่อข้อมูลดังกล่าว

เขตบริหารพิเศษฮ่องกง: Equities First Holdings Hong Kong Limitedได้รับใบอนุญาตภายใต้กฎหมายผู้ให้กู้ยืมในฮ่องกง (หมายเลขใบอนุญาตผู้ให้กู้เลขที่ 1659/2024)และดำเนินธุรกิจด้านการจัดการกับหลักทรัพย์ (ใบอนุญาตประเภทที่ 1)ภายใต้กฎหมายการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกง (“SFO”) (หมายเลข CEเลขที่ BFJ407)เอกสารฉบับนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกงนอกจากนี้เอกสารฉบับนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเสนอการขายหลักทรัพย์ หรือชักจูงให้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่จัดการหรือจัดหาโดย Equities First Holdings Hong Kong Limitedแต่จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้ SFOเท่านั้นเอกสารฉบับนี้ไม่ได้ส่งถึงบุคคลหรือองค์กรที่จะทำให้ข้อเสนอหรือคำเชิญชวนดังกล่าวผิดกฎหมายหรือถูกต้องห้าม

ประเทศเกาหลี: เอกสารข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งมีความรู้และประสบการณ์เพียงพอต่อการทำธุรกรรมการจัดหาเงินทุนหลักทรัพย์เป็นการเฉพาะเจาะจง และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่ตรงตามข้อกำหนดข้างต้น

สหราชอาณาจักร: Equities First (London) Limited ได้รับการรับรองและควบคุมในสหราชอาณาจักรโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (” FCA”) ในสหราชอาณาจักร เอกสารฉบับนี้ได้แจกจ่ายให้แก่บุคคลที่มีลักษณะเป็นไปตามมาตรา 19(5) (นักลงทุนมืออาชีพ) และมาตรา 42(2) (บริษัทที่มีมูลค่าสุทธิสูง สมาคมอิสระ ฯลฯ) ในส่วนที่ 4 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่องบริการทางการเงินและตลาด ค.ศ. 2000 (การสนับสนุนทางการเงิน) คำสั่ง ค.ศ. 2005 (“FPO”) เท่านั้น และกิจกรรมการลงทุนใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอนี้จะใช้ได้เฉพาะกับบุคคลดังกล่าวและมีเพียงแค่บุคคลดังกล่าวเท่านั้นที่จะสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวได้ บุคคลที่ไม่มีประสบการณ์ระดับมืออาชีพในการลงทุน หรือบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามมาตรา 49 ของ FPO ไม่ควรใช้เอกสารนี้ เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้หน่วยงานที่ให้การกำกับการให้บริการด้านการลงทุนและผลิตภัณฑ์ทางการเงินในพื้นที่ภาคพื้นยุโรป (MiFID) เท่านั้น