การเชื่อมโยงระหว่างอินเดียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตท่ามกลางการทวนกระแสโลกาภิวัตน์ในโลกปัจจุบัน

27 กุมภาพันธ์ 2568

ในขณะที่ภาษีศุลกากรและสงครามการค้าทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเผชิญกับความผันผวน ความสัมพันธ์ที่เติบโตขึ้นระหว่างอินเดียและตะวันออกกลางกลับเปิดโอกาสใหม่สำหรับนักลงทุนที่มุ่งเน้นการเติบโต

สนามบินนานาชาติดูไบ ซึ่งเป็นสนามบินที่มีการเดินทางระหว่างประเทศมากที่สุดในโลก ได้รองรับผู้โดยสารสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 92.3 ล้านคนในปี 2567 โดยเส้นทางจากอินเดียมีจำนวนผู้โดยสารสูงสุด[1] ในการประชุมอุตสาหกรรมเมื่อปีที่ผ่านมา นายอิสซัม คาซิม ประธานกรรมการบริหารการท่องเที่ยวดูไบ ยังได้กล่าวติดตลกว่า ดูไบเป็นเมืองหนึ่งของอินเดีย[2]

จำนวนนักท่องเที่ยวเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างอินเดียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 อินเดียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ลงนามในข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุม (CEPA) ซึ่งทำให้ภาษีศุลกากรของสินค้าส่วนใหญ่ลดลง[3] การค้าระหว่างสองประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 8.45 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566/2567 ซึ่งเพิ่มขึ้น 16% จากช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ในปัจจุบัน อินเดียเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่อันดับสองของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก็เป็นหุ้นส่วนรายใหญ่อันดับสามของอินเดีย[4]

ซึ่งทำให้เงินทุนและการลงทุนมีการไหลเวียนระหว่างทั้งสองประเทศอยู่ตลอด

ด้วยแรงดึงดูดจากโอกาสทางประชากรศาสตร์ที่แข็งแกร่งของอินเดีย ซึ่งมีอายุเฉลี่ยเพียง 29.8[5] ปี และศักยภาพในการเติบโตที่มหาศาล บริษัทการลงทุนและกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่จากตะวันออกกลางจึงทุ่มเม็ดเงินจำนวนมากเพื่อลงทุนในหลายภาคส่วน เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค อสังหาริมทรัพย์ โครงสร้างพื้นฐาน และพลังงาน

ในปี 2566 องค์การการลงทุนอาบูดาบี (ADIA) ซึ่งเป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ลงทุน 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในธุรกิจค้าปลีกแว่นตา Lenskart ในปีถัดมา ADIA ได้ตั้งกองทุนมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อขยายการลงทุนเพิ่มเติม กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติจากตะวันออกกลางหลายประเทศได้ลงทุนกับทางหลวงและโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ

ในทางตรงกันข้าม ผู้ประกอบการชาวอินเดียกำลังต่อยอดความสำเร็จของตนในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และได้รับประโยชน์จากการขยายตัวของตลาดเงินทุนของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตัวอย่างล่าสุด คือ การเสนอขายหุ้นแบบ IPO ของ Lulu Retail มูลค่า 1.72 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567[6] นักลงทุนจากอินเดียเป็นกลุ่มชาวต่างชาติที่ถือครองอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มากที่สุด โดยมีมูลค่าการลงทุนประมาณสามหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ[7]

เส้นทางใหม่เชื่อมระหว่างตะวันออกและตะวันตก

อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ที่พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นระหว่างสองประเทศอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของโอกาสที่ยิ่งใหญ่กว่า ท่ามกลางการเติบโตของเครือข่ายการค้าและโลจิสติกส์

เนื่องจากตะวันออกกลางเป็นศูนย์กลางทางภูมิศาสตร์ที่เชื่อมต่อระหว่างยุโรปและเอเชีย การขยายตัวของการค้าในเส้นทางเศรษฐกิจระหว่างอินเดีย ตะวันออกกลาง และยุโรป (IMEC) อาจเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้ส่งออกในอินเดีย IMEC ได้รับการออกแบบให้เป็นเส้นทางทางเลือกสำหรับการค้าทางเหนือสู่ประเทศตะวันตก โดยจะลำเลียงสินค้าไปยังท่าเรือของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก่อนขนส่งต่อด้วยรถไฟข้ามซาอุดีอาระเบียไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และกระจายเข้าสู่ตลาดยุโรป[8]

จุดเด่นของเส้นทางนี้คือช่วยให้การค้าระดับโลกไม่ต้องพึ่งพาคลองสุเอซ ซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานในกรณีที่เกิดความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสต์ในทะเลแดง ในเดือนพฤศจิกายน 2566 กลุ่มติดอาวุธฮูตีโจมตีเรือสินค้าหลายครั้ง ส่งผลให้เรือต้องเปลี่ยนเส้นทางไปอ้อมแหลมกู๊ดโฮปของแอฟริกาใต้ ซึ่งทำให้ใช้เวลานานขึ้นหนึ่งสัปดาห์และเพิ่มต้นทุนเชื้อเพลิงอย่างมหาศาล

อินเดียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ลงนามในข้อตกลงเบื้องต้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ในขณะที่ภาคธุรกิจเริ่มเดินหน้าลงทุนครั้งใหญ่เพื่อรองรับวิสัยทัศน์ในระยะยาว

DP World บริษัทด้านโซลูชันห่วงโซ่อุปทานระดับโลกซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในดูไบ วางแผนเปิด Bharat Mart ศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ในดูไบเพื่อรองรับสินค้าจากอินเดียภายในปี 2569 Rizwan Soomar ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ (ตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ และอนุทวีปอินเดีย) ของ DP World กล่าวว่า โครงการนี้จะช่วยเชื่อมโยงธุรกิจในอินเดียกับผู้บริโภคกว่า 3.5 พันล้านคนในยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง ในขณะเดียวกัน Adani Group ของอินเดียได้ทำการซื้อท่าเรือไฮฟาทางเหนือของอิสราเอลในราคาสี่พันล้านเชเกล (ประมาณ 1.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2566[9]

การใช้สินเชื่อที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันสามารถช่วยให้นักลงทุนระยะยาวปลดล็อกสภาพคล่องเพื่อลงทุนในแนวโน้มนี้ หรือบริหารความเสี่ยงจากการลงทุนเดิม การเข้าถึงแหล่งเงินทุนทางเลือกนี้อาจเป็นตัวเลือกที่ดึงดูดใจสำหรับผู้ถือหุ้นที่ต้องการปรับตัวให้เข้ากับช่วงเวลาความผันผวนในตลาดอินเดีย โดยเฉพาะเมื่อค่าเงินรูปีอ่อนค่าลงเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และตลาดหุ้นเริ่มมีการปรับตัวหลังจากการเติบโตที่โดดเด่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในเดือนกุมภาพันธ์ ค่าเงินรูปีอ่อนค่าลงจนเกือบแตะ 88 รูปีต่อดอลลาร์ โดยสาเหตุหลักมาจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและกระแสเงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติที่ยังคงไหลออกจากประเทศต่อเนื่อง[10] ในเดือนมกราคม หุ้นอินเดียประสบกับภาวะขาดทุนติดต่อกันถึงสี่เดือน ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดในรอบกว่า 23 ปี[11]

โอกาสในการเติบโตทางการค้าระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอินเดีย ความจำเป็นในการกระจายฐานเศรษฐกิจของประเทศตะวันออกกลาง และการมุ่งเน้นการเติบโตของอินเดียที่ใช้แรงงานจำนวนมาก จะเปิดโอกาสให้กับนักลงทุนที่ต้องการทำกำไรจากกระแสโลกาภิวัตน์ในอนาคต การเงินที่มีความยืดหยุ่นจึงเป็นทางเลือกที่น่าดึงดูดสำหรับผู้ถือหุ้นระยะยาวที่ตั้งใจจะลงทุนในโอกาสอันยิ่งใหญ่นี้


[1] https://www.thenationalnews.com/business/aviation/2025/01/30/dubai-airports-passenger-traffic-hits-record-92-million-in-2024/

[2] https://skift.com/2024/03/20/dubai-tourism-ceo-on-the-power-of-bollywood-indian-visas-and-cricket/

[3] https://www.moec.gov.ae/en/cepa_india

[4] https://www.ibef.org/indian-exports/india-uae-trade

[5] https://www.cia.gov/the-world-factbook/field/median-age/country-comparison/

[6] https://www.bloomberg.com/news/articles/2024-11-09/billionaire-yusuff-ali-s-lulu-ipo-spotlights-uae-s-india-born-tycoons

[7] https://www.damacproperties.com/en/blog/twelve-reasons-why-indians-should-buy-property-in-dubai

[8] https://www.orfonline.org/public/uploads/posts/pdf/20240409183803.pdf

[9] https://www.reuters.com/markets/commodities/adani-led-group-completes-purchase-israels-haifa-port-2023-01-10/

[10] https://www.livemint.com/market/stock-market-news/rupee-opens-at-record-low-of-87-92-against-us-dollar-as-asian-currencies-slip-on-donald-trump-s-new-tariff-plan-11739158633177.html

[11] https://www.reuters.com/markets/asia/s-indian-stocks-set-longest-monthly-losing-streak-over-23-years-2025-01-28/

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ

ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้รับประกันผลตอบแทนในอนาคต และไม่มีการรับประกันหรือรับรองผลตอบแทนของแต่ละบุคคล

เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ได้รับการรับรอง นักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายอื่น ๆ กำหนดเท่านั้น และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นเนื้อหาที่มีลักษณะทั่วไปและไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์หรือความต้องการทางการเงินที่เฉพาะเจาะจงใด ๆ มุมมองและความคิดเห็นที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นโดยบุคคลที่ภายนอก และอาจไม่ได้สะท้อนมุมมองและความคิดเห็นของ EquitiesFirst นอกจากนี้ EquitiesFirst ไม่ได้ตรวจสอบหรือยืนยันข้อมูลที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ด้วยตนเอง และไม่ได้รับรองว่าข้อมูลดังกล่าวถูกต้องหรือสมบูรณ์ ความคิดเห็นและข้อมูลในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขาย (หรือการชักชวนให้ซื้อ) หลักทรัพย์ การลงทุน หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินใด ๆ (“ข้อเสนอ”) ข้อเสนอใด ๆ ดังกล่าวจะต้องดำเนินการผ่านการเสนอขายที่เกี่ยวข้องหรือเอกสารอื่น ๆ ที่มีการระบุข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เป็นสาระสำคัญไว้อย่างชัดเจนเท่านั้น ข้อมูลใด ๆ ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการแนะนำ การจูงใจ การเชิญชวน การโน้มน้าว การส่งเสริมการขาย หรือเป็นข้อเสนอให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์การลงทุนใด ๆ จาก Equities First Holdings, LLC หรือบริษัทย่อยของ Equities First Holdings, LLC (เรียกรวมกันว่า ” EquitiesFirst”) และไม่ควรตีความในทางใดทางหนึ่งว่าเอกสารฉบับนี้เป็นการแนะนำด้านการลงทุน กฎหมาย หรือภาษี รวมถึงการแนะนำ การอ้างอิง หรือการรับรองจาก EquitiesFirst ท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

เอกสารฉบับนี้ประกอบด้วยทรัพย์สินทางปัญญาของ EquitiesFirst ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงโลโก้ต่าง ๆ  และเครื่องหมายการค้าอื่น ๆ ทั้งที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียน ตลอดจนเครื่องหมายบริการที่เกี่ยวข้องตามลำดับ EquitiesFirst ขอสงวนสิทธิ์ทั้งหมดในทรัพย์สินทางปัญญาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่าย เผยแพร่ ทำซ้ำ หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้รับสามารถส่งต่อเนื้อหาทั้งหมดหรือบางส่วนของเอกสารฉบับนี้ไปยังผู้อื่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่ายให้แก่บุคคลในประเทศใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดกฎหมายหรือระเบียบอื่นใดที่เกี่ยวข้อง

EquitiesFirst ไม่รับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับเอกสารฉบับนี้ และขอปฏิเสธอย่างชัดแจ้งต่อการรับประกันโดยนัยใด ๆ ภายใต้กฎหมาย ท่านรับทราบว่า EquitiesFirst จะไม่ต้องรับผิดในทุกกรณี สำหรับความเสียหายทั้งทางตรง ทางอ้อม ที่เป็นกรณีพิเศษ ที่เป็นผลสืบเนื่อง โดยไม่เจตนา หรือที่เป็นการลงโทษ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการสูญเสียผลประโยชน์หรือการสูญเสียโอกาสใด ๆ แม้ว่า EquitiesFirst จะรับทราบถึงความเป็นไปได้ของความเสียหายดังกล่าวก็ตาม

EquitiesFirst ได้จัดทำคำแถลงการเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจบังคับใช้ในเขตอำนาจศาลที่ระบุไว้

ประเทศออสเตรเลีย: Equities First Holdings (Australia) Pty Ltd (หมายเลขทะเบียนบริษัท: 142 644 399) เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตบริการทางการเงินของประเทศออสเตรเลีย (หมายเลข AFSL: 387079) สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด

ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีไว้สำหรับบุคคลที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียและจัดเป็นลูกค้าสำหรับการค้าส่ง (Wholesale Client) ตามที่ระบุในมาตรา 761G แห่งพระราชบัญญัติบริษัท ค.ศ. 2001 (Corporations Act 2001)เท่านั้นการเผยแพร่ข้อมูลให้บุคคลอื่นใดที่มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดข้างต้นอาจมีข้อจำกัดตามกฎหมาย ทั้งนี้ บุคคลใดที่มีข้อมูลดังกล่าวในครอบครองควรเสาะหาคำแนะนำและทำความเข้าใจข้อจำกัดดังกล่าว เนื้อหาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น  และไม่ควรตีความว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อเสนอ การจูงใจ หรือคำแนะนำในการซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลในลักษณะทั่วไป และไม่ใช่คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินส่วนบุคคล คำแนะนำใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้เป็นคำแนะนำทั่วไปเท่านั้น และจัดทำขึ้นโดยไม่ได้คำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์หรือความต้องการทางการเงินของผู้ลงทุน ก่อนดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ ท่านควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าว และลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ และความต้องการทางการเงินของท่านท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเอง และอ่านคำแถลงการเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง หรือเอกสารข้อเสนออื่น ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

ดูไบ: Equities First Holdings Hong Kong Ltd (สำนักงานตัวแทน DIFC) ตั้งอยู่ที่ Gate Precinct Building 4, 6th Floor, Office 7, Dubai International Financial Centre (เลขทะเบียนพาณิชย์ CL7354) อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Dubai Financial Services Authority (“DFSA”) ในฐานะสำนักงานตัวแทน (เลขที่อ้างอิงบริษัทของ DFSA: F008752) สงวนลิขสิทธิ์ ข้อมูลที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อการใช้งานโดยทั่วไป หากมีเนื้อหาส่วนใดที่อาจเข้าใจว่าเป็นคำแนะนำ ให้ถือว่าคำแนะนำใดที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้เป็นเพียงคำแนะนำโดยทั่วไป ไม่ได้จัดทำขึ้นโดยพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน ความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือตามความต้องการของคุณ

เนื้อหาสาระที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นการให้คำแนะนำทางการเงิน อีกทั้งไม่ถือเป็นการเสนอหรือเชิญชวนหรือแนะนำให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินแต่อย่างใด ข้อมูลที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อการใช้งานโดยทั่วไป คำแนะนำใดที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้เป็นเพียงคำแนะนำโดยทั่วไป ไม่ได้จัดทำขึ้นโดยพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน ความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือตามความต้องการของคุณ ดังนั้นก่อนดำเนินการตามข้อมูลเหล่านี้ คุณควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลที่ให้ไว้ ตลอดจนลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องตามวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน และความต้องการของคุณ หากคุณไม่เข้าใจเนื้อหาในเอกสารฉบับนี้ โปรดขอคำปรึกษาจากที่ปรึกษาทางการเงินที่ได้รับอนุญาต

เอกสารฉบับนี้เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินซึ่งไม่อยู่ภายใต้ข้อบังคับใดหรือไม่จำเป็นต้องได้รับอนุมัติจาก DFSA และ DFSA ไม่มีหน้าที่ในการตรวจสอบหรือยืนยันเอกสารใดอันเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินนี้ อีกทั้ง DFSA ไม่ได้เป็นผู้อนุมัติเอกสารฉบับนี้หรือเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้อง รวมถึงไม่ได้ดำเนินมาตรการใดเพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ และไม่รับผิดชอบต่อข้อมูลดังกล่าว

เขตบริหารพิเศษฮ่องกง: Equities First Holdings Hong Kong Limitedได้รับใบอนุญาตภายใต้กฎหมายผู้ให้กู้ยืมในฮ่องกง (หมายเลขใบอนุญาตผู้ให้กู้เลขที่ 1659/2024)และดำเนินธุรกิจด้านการจัดการกับหลักทรัพย์ (ใบอนุญาตประเภทที่ 1)ภายใต้กฎหมายการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกง (“SFO”) (หมายเลข CEเลขที่ BFJ407)เอกสารฉบับนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกงนอกจากนี้เอกสารฉบับนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเสนอการขายหลักทรัพย์ หรือชักจูงให้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่จัดการหรือจัดหาโดย Equities First Holdings Hong Kong Limitedแต่จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้ SFOเท่านั้นเอกสารฉบับนี้ไม่ได้ส่งถึงบุคคลหรือองค์กรที่จะทำให้ข้อเสนอหรือคำเชิญชวนดังกล่าวผิดกฎหมายหรือถูกต้องห้าม

ประเทศเกาหลี: เอกสารข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งมีความรู้และประสบการณ์เพียงพอต่อการทำธุรกรรมการจัดหาเงินทุนหลักทรัพย์เป็นการเฉพาะเจาะจง และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่ตรงตามข้อกำหนดข้างต้น

สหราชอาณาจักร: Equities First (London) Limited ได้รับการรับรองและควบคุมในสหราชอาณาจักรโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (” FCA”) ในสหราชอาณาจักร เอกสารฉบับนี้ได้แจกจ่ายให้แก่บุคคลที่มีลักษณะเป็นไปตามมาตรา 19(5) (นักลงทุนมืออาชีพ) และมาตรา 42(2) (บริษัทที่มีมูลค่าสุทธิสูง สมาคมอิสระ ฯลฯ) ในส่วนที่ 4 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่องบริการทางการเงินและตลาด ค.ศ. 2000 (การสนับสนุนทางการเงิน) คำสั่ง ค.ศ. 2005 (“FPO”) เท่านั้น และกิจกรรมการลงทุนใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอนี้จะใช้ได้เฉพาะกับบุคคลดังกล่าวและมีเพียงแค่บุคคลดังกล่าวเท่านั้นที่จะสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวได้ บุคคลที่ไม่มีประสบการณ์ระดับมืออาชีพในการลงทุน หรือบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามมาตรา 49 ของ FPO ไม่ควรใช้เอกสารนี้ เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้หน่วยงานที่ให้การกำกับการให้บริการด้านการลงทุนและผลิตภัณฑ์ทางการเงินในพื้นที่ภาคพื้นยุโรป (MiFID) เท่านั้น