เงินทุนใหม่ในเอเชีย: ความยืดหยุ่นคือกุญแจสำคัญในการเติบโตท่ามกลางยุคแห่งความไม่แน่นอน
31 ธันวาคม 2568
เอเชียกำลังอยู่บนเส้นทางที่จะก้าวขึ้นมาเป็นภูมิภาคที่สร้างความมั่งคั่งได้รวดเร็วที่สุด เมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น ๆ ในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า แม้ว่าความตึงเครียดด้านการค้าโลกจะยังคงปรับเปลี่ยนโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานและทิศทางการลงทุนอย่างต่อเนื่องก็ตาม
สัดส่วนความมั่งคั่งภาคเอกชนของเอเชียในระดับโลกที่เติบโตขึ้นนั้นเกิดขึ้นจากกระบวนการที่สั่งสมมานานหลายทศวรรษ โดยเพิ่มจากเพียง 6 เปอร์เซ็นต์เป็น 21 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ยังคงแข็งแรง แม้จะเผชิญความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์[1]
เมื่อมองถึงอนาคตข้างหน้า เอเชียมีแนวโน้มที่จะเป็นผู้นำการเติบโตของความมั่งคั่งภาคเอกชนของโลก จากแรงขับเคลื่อนของการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว ชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้น ความเชื่อมโยงทางการค้าที่ลึกซึ้งขึ้น และการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่ออุดช่องว่างด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ประเมินว่ามีมูลค่าราว 1.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ซึ่งก่อให้เกิดโอกาสทางธุรกิจและรายได้จำนวนมากทั่วทั้งภูมิภาค[2],[3]
แม้แต่ความเป็นไปได้ของการแยกส่วนทางการค้าที่เกิดจากการขึ้นภาษีของสหรัฐอเมริกาที่รุนแรงขึ้น ก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งการเติบโตของเอเชียได้ จนถึงขณะนี้ อันที่จริงแล้ว เศรษฐกิจเกิดใหม่ขนาดใหญ่หลายประเทศ เช่น จีน อินเดีย และบราซิล ยังแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นที่น่าประหลาดใจ[4]
จากผลสำรวจ Global Trade Pulse ล่าสุดของ HSBC พบว่าธุรกิจทั่วโลกมากถึง 88 เปอร์เซ็นต์ยังคงมีความเชื่อมั่นต่อการเติบโตของการค้าโลก[5]
แม้แรงกดดันที่เกี่ยวข้องกับภาษีจะเริ่มผ่อนคลายลงบ้าง แต่การเข้าถึงสภาพคล่องกลับมีความสำคัญมากกว่าที่เคย โซลูชันทางการเงินรูปแบบใหม่ รวมถึงสินเชื่อนอกภาคธนาคาร สามารถช่วยให้ผู้นำธุรกิจในเอเชียคงความคล่องตัวและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาวะโลกได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงที่วัฏจักรการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลกอาจใกล้สิ้นสุดลง[6]
แรงขับเคลื่อนความมั่งคั่งที่หลากหลาย
กลุ่มเศรษฐีของเอเชียที่เพิ่มจำนวนขึ้นกำลังสร้างความมั่งคั่งผ่านช่องทางที่หลากหลาย
แม้เศรษฐกิจโดยรวมจะเผชิญภาวะชะลอตัวที่ขับเคลื่อนโดยภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่มีบุคคลเกือบ 1,500 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้น 31 เปอร์เซ็นต์ภายในเวลาเพียงหนึ่งปี ได้ติดอันดับในรายชื่อ China Rich List ล่าสุดของ Hurun โดยแต่ละรายมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิสูงกว่า 5 พันล้านหยวน ปัจจัยหนุนมาจากภาวะตลาดขาขึ้นในวงกว้าง และการเติบโตของ “ภาคเศรษฐกิจใหม่” ตั้งแต่เทคโนโลยีชีวภาพไปจนถึงการผลิตอัจฉริยะ[7]
ภาคการส่งออกของจีนยังคงสวนทางกับเสียงกังขา และช่วยให้จีนบันทึกดุลการค้าสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2568[8] บริษัทจีนได้กระจายฐานการผลิตไปยังหลายประเทศ ขณะเดียวกันก็ยังคงควบคุมเครือข่ายซัพพลายเชนไว้ได้[9] ข้อมูลล่าสุดชี้ว่าสินค้าจีนจำนวนมากได้รับการเปลี่ยนเส้นทางผ่านเวียดนาม โดยบริษัทที่จีนและฮ่องกงเป็นเจ้าของคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในตัวอย่างหนึ่ง[10]
ในทางตรงกันข้าม การขยายตัวของอินเดียตั้งอยู่บนการผสมผสานที่หาได้ยากของโครงสร้างประชากร นโยบายภาครัฐ และแหล่งผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีต้นทุนต่ำขนาดใหญ่ ด้วยอายุมัธยฐานเพียง 29 ปี ชนชั้นผู้บริโภคที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 205,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่พลิกโฉมประเทศ โดยครอบคลุมตั้งแต่โครงข่ายโลจิสติกส์ พลังงานสะอาด ไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลแบบสาธารณะ อินเดียกำลังสร้างความมั่งคั่งใหม่ในอัตราที่รวดเร็ว[11]
บทบาทของอินเดียในฐานะศูนย์กลาง Global Capability Center หรือ GCC ของโลกก็เร่งความเร็วขึ้นเช่นกัน PwC ประเมินว่ามูลค่าที่สร้างโดย GCC ในอินเดีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทที่ให้บริการเอาท์ซอร์ส เช่น งานบัญชีหรือการพัฒนาซอฟต์แวร์ สำหรับบริษัทแม่ จะเติบโตเฉลี่ยราว 12 เปอร์เซ็นต์ต่อปีในช่วงสี่ปีข้างหน้า[12] ระบบนิเวศนี้ไม่เพียงสนับสนุนการดำเนินงานของบรรษัทข้ามชาติเท่านั้น แต่ยังสร้างกลุ่มผู้บริหารเทคโนโลยีและผู้ก่อตั้งในประเทศรุ่นใหม่ที่มีฐานลูกค้าทั่วโลก ปัจจุบันอินเดียมีครัวเรือนที่เป็นเศรษฐีราว 871,700 ครัวเรือนในปี 2568 ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์จากปี 2564[13]
ในเกาหลี ไต้หวัน และญี่ปุ่น การแข่งขันระดับโลกเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI กำลังก่อให้เกิดกลุ่ม “เงินใหม่” ในรูปแบบที่แตกต่าง ซึ่งนำโดยผู้จัดหาชิ้นส่วนในห่วงโซ่สารกึ่งตัวนำและฮาร์ดแวร์
เช่น บริษัทเกาหลีใต้คาดว่าจะใช้จ่ายราว 65 ล้านล้านวอน (ประมาณ 4.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI และศูนย์ข้อมูลภายในปี 2570 ซึ่งจะยิ่งตอกย้ำบทบาทของเกาหลีในฐานะผู้มีบทบาทสำคัญในการขยายโครงสร้าง AI ของโลก[14]
UBS ประเมินว่าญี่ปุ่นมีเศรษฐีเงินดอลลาร์สหรัฐราว 2.83 ล้านคน เกาหลีใต้ประมาณ 1.3 ล้านคน และไต้หวันเกือบ 800,000 คน[15] กลุ่มเอเชียตะวันออกนี้ไม่ได้รวมเฉพาะผู้บริหารของผู้ผลิตชิปรายใหญ่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ก่อตั้งและผู้ถือหุ้นยุคแรกในบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ ซัพพลายเออร์วัสดุ และบริษัทออกแบบเฉพาะทางที่ฝังตัวอยู่ลึกในห่วงโซ่อุปทาน AI
ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นจะผลักดันความต้องการแหล่งเงินทุนและการลงทุนทางเลือก ซึ่งเป็นด้านที่เอเชียในอดีตยังตามหลังสหรัฐอเมริกาและยุโรป ผู้ให้กู้ประเภทนี้มีบทบาทครอบงำการปล่อยสินเชื่อในสหรัฐอเมริกา (โดยคิดเป็น 67 เปอร์เซ็นต์ของแหล่งเงินทุนด้านสินเชื่อในภูมิภาค) และในยุโรป (44 เปอร์เซ็นต์) ขณะที่ในเอเชียแปซิฟิก การปล่อยสินเชื่อยังคงถูกครอบงำโดยภาคธนาคารเป็นหลัก คิดเป็นสัดส่วนราว 80 เปอร์เซ็นต์[16]
สินเชื่อภาคเอกชนยังคงเป็นพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับการใช้ประโยชน์มากนักในเอเชีย อย่างไรก็ตาม การมีส่วนร่วมของผู้ให้กู้นอกภาคธนาคารมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการคาดว่าจะเติบโตจาก 5.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 เป็น 9.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2570 ตามรายงานอุตสาหกรรมในเดือนพฤศจิกายน[17]
สินเชื่อนอกภาคธนาคารส่วนใหญ่จะไหลไปยังบริษัทขนาดกลางและธุรกิจผู้ประกอบการในภาคเทคโนโลยี การค้า และ AI ขณะที่บริษัทเหล่านี้มองหาแหล่งเงินทุนทางเลือกนอกเหนือจากสินเชื่อธนาคารแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจัดหาเงินทุนโดยมีหุ้นหนุนหลังสามารถช่วยให้ผู้ประกอบการปลดล็อกสภาพคล่องจากการถือครองหุ้นจดทะเบียนได้ โดยไม่ต้องละทิ้งศักยภาพในระยะยาว ทำให้สามารถนำเงินไปลงทุนในธุรกิจใหม่ เชื่อมช่องว่างด้านเวลาในการระดมทุนซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อพึ่งพาสินเชื่อธนาคาร และยังคงรักษาความเป็นเจ้าของกิจการไว้ได้
การเร่งความเร็วขึ้นของการสร้างความมั่งคั่งในเอเชียและภูมิทัศน์ทางการเงินที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งสัญญาณถึงทศวรรษแห่งการเปลี่ยนผ่านที่กำลังจะมาถึง ซึ่งสินเชื่อภาคเอกชนและการจัดหาเงินทุนทางเลือกจะกลายเป็นกลไกสำคัญในการปลดล็อกการเติบโตและขับเคลื่อนนวัตกรรมทั่วทั้งภูมิภาค
[1] https://www.uob.com.sg/assets/web-resources/private/pdfs/our-insights/the-asia-generational-wealth-report/asia-generational-wealth-report-2025.pdf
[2] https://altrata.com/reports/world-ultra-wealth-report-2025
[3] https://www.adb.org/news/asia-infrastructure-needs-exceed-17-trillion-year-double-previous-estimates
[4] https://www.reuters.com/world/china/most-emerging-nations-can-realign-trade-weather-us-tariffs-report-finds-2025-11-13/
[5] https://www.business.hsbc.com/-/media/media/global/pdf/articles/hsbc-global-trade-pulse-survey-factsheet-november-2025.pdf
[6] https://www.reuters.com/markets/rates-bonds/global-central-bank-easing-cycle-is-over-2025-12-10/
[7] https://www.scmp.com/business/article/3330544/rich-list-chinas-billionaire-count-hits-record-stock-markets-surge
[8] https://www.scmp.com/economy/economic-indicators/article/3335551/chinas-exports-rebound-november-after-trade-war-thaw
[9] https://www.spglobal.com/ratings/en/regulatory/article/asean-rides-the-china-wave-amid-us-trade-tensions-s101655293
[10] https://siai.org/review/2025/11/202511284156
[11] https://www.bloomberg.com/news/newsletters/2025-06-12/india-s-second-infrastructure-wave-could-draw-205-billion-modi-s-third-term
[12] https://www.pwc.in/press-releases/2025/india-gccs-set-to-generate-value-at-11-12-cagr-between-fy25-29.html
[13] https://www.fortuneindia.com/india/india-has-871-lakh-millionaire-households-up-90-from-2021-mercedes-benz-hurun-india-wealth-report-2025/126746
[14] https://koreajoongangdaily.joins.com/news/2024-09-26/national/politics/Korean-companies-pledge-to-invest-65-trillion-won-at-presidential-AI-committees-inaugural-meeting/2142881
[15] https://www.ubs.com/global/en/wealthmanagement/insights/global-wealth-report.html
[16] https://www.aima.org/asset/687D58D0%2DB317%2D47FC%2DAF68533C85A8A3B9/
[17] https://www.simmons-simmons.com/en/about-us/news/report-highlights-asia-pacific-s-growing-global-private-credit-market
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ
ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้รับประกันผลตอบแทนในอนาคต และไม่มีการรับประกันหรือรับรองผลตอบแทนของแต่ละบุคคล
เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ได้รับการรับรอง นักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายอื่น ๆ กำหนดเท่านั้น และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นเนื้อหาที่มีลักษณะทั่วไปและไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์หรือความต้องการทางการเงินที่เฉพาะเจาะจงใด ๆ มุมมองและความคิดเห็นที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นโดยบุคคลที่ภายนอก และอาจไม่ได้สะท้อนมุมมองและความคิดเห็นของ EquitiesFirst นอกจากนี้ EquitiesFirst ไม่ได้ตรวจสอบหรือยืนยันข้อมูลที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ด้วยตนเอง และไม่ได้รับรองว่าข้อมูลดังกล่าวถูกต้องหรือสมบูรณ์ ความคิดเห็นและข้อมูลในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขาย (หรือการชักชวนให้ซื้อ) หลักทรัพย์ การลงทุน หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินใด ๆ (“ข้อเสนอ”) ข้อเสนอใด ๆ ดังกล่าวจะต้องดำเนินการผ่านการเสนอขายที่เกี่ยวข้องหรือเอกสารอื่น ๆ ที่มีการระบุข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เป็นสาระสำคัญไว้อย่างชัดเจนเท่านั้น ข้อมูลใด ๆ ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการแนะนำ การจูงใจ การเชิญชวน การโน้มน้าว การส่งเสริมการขาย หรือเป็นข้อเสนอให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์การลงทุนใด ๆ จาก Equities First Holdings, LLC หรือบริษัทย่อยของ Equities First Holdings, LLC (เรียกรวมกันว่า ” EquitiesFirst”) และไม่ควรตีความในทางใดทางหนึ่งว่าเอกสารฉบับนี้เป็นการแนะนำด้านการลงทุน กฎหมาย หรือภาษี รวมถึงการแนะนำ การอ้างอิง หรือการรับรองจาก EquitiesFirst ท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน
เอกสารฉบับนี้ประกอบด้วยทรัพย์สินทางปัญญาของ EquitiesFirst ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงโลโก้ต่าง ๆ และเครื่องหมายการค้าอื่น ๆ ทั้งที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียน ตลอดจนเครื่องหมายบริการที่เกี่ยวข้องตามลำดับ EquitiesFirst ขอสงวนสิทธิ์ทั้งหมดในทรัพย์สินทางปัญญาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่าย เผยแพร่ ทำซ้ำ หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้รับสามารถส่งต่อเนื้อหาทั้งหมดหรือบางส่วนของเอกสารฉบับนี้ไปยังผู้อื่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่ายให้แก่บุคคลในประเทศใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดกฎหมายหรือระเบียบอื่นใดที่เกี่ยวข้อง
EquitiesFirst ไม่รับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับเอกสารฉบับนี้ และขอปฏิเสธอย่างชัดแจ้งต่อการรับประกันโดยนัยใด ๆ ภายใต้กฎหมาย ท่านรับทราบว่า EquitiesFirst จะไม่ต้องรับผิดในทุกกรณี สำหรับความเสียหายทั้งทางตรง ทางอ้อม ที่เป็นกรณีพิเศษ ที่เป็นผลสืบเนื่อง โดยไม่เจตนา หรือที่เป็นการลงโทษ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการสูญเสียผลประโยชน์หรือการสูญเสียโอกาสใด ๆ แม้ว่า EquitiesFirst จะรับทราบถึงความเป็นไปได้ของความเสียหายดังกล่าวก็ตาม
EquitiesFirst ได้จัดทำคำแถลงการเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจบังคับใช้ในเขตอำนาจศาลที่ระบุไว้
ประเทศออสเตรเลีย: Equities First Holdings (Australia) Pty Ltd (หมายเลขทะเบียนบริษัท: 142 644 399) เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตบริการทางการเงินของประเทศออสเตรเลีย (หมายเลข AFSL: 387079) สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด
ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีไว้สำหรับบุคคลที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียและจัดเป็นลูกค้าสำหรับการค้าส่ง (Wholesale Client) ตามที่ระบุในมาตรา 761G แห่งพระราชบัญญัติบริษัท ค.ศ. 2001 (Corporations Act 2001)เท่านั้นการเผยแพร่ข้อมูลให้บุคคลอื่นใดที่มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดข้างต้นอาจมีข้อจำกัดตามกฎหมาย ทั้งนี้ บุคคลใดที่มีข้อมูลดังกล่าวในครอบครองควรเสาะหาคำแนะนำและทำความเข้าใจข้อจำกัดดังกล่าว เนื้อหาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรตีความว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อเสนอ การจูงใจ หรือคำแนะนำในการซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลในลักษณะทั่วไป และไม่ใช่คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินส่วนบุคคล คำแนะนำใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้เป็นคำแนะนำทั่วไปเท่านั้น และจัดทำขึ้นโดยไม่ได้คำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์หรือความต้องการทางการเงินของผู้ลงทุน ก่อนดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ ท่านควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าว และลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ และความต้องการทางการเงินของท่านท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเอง และอ่านคำแถลงการเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง หรือเอกสารข้อเสนออื่น ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน
การคาดการณ์มิใช่การรับประกันผลลัพธ์ และไม่ควรยึดถือเป็นข้อยุติในการตัดสินใจ ข้อมูลนี้อ้างอิงจากมุมมองของบริษัท Equities First Holdings (Australia) Pty Ltd ณ วันที่เผยแพร่เอกสารฉบับนี้
ดูไบ: Equities First Holdings Hong Kong Ltd (สำนักงานตัวแทน DIFC) ตั้งอยู่ที่ Gate Precinct Building 4, 6th Floor, Office 7, Dubai International Financial Centre (เลขทะเบียนพาณิชย์ CL7354) อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Dubai Financial Services Authority (“DFSA”) ในฐานะสำนักงานตัวแทน (เลขที่อ้างอิงบริษัทของ DFSA: F008752) สงวนลิขสิทธิ์ ข้อมูลที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อการใช้งานโดยทั่วไป หากมีเนื้อหาส่วนใดที่อาจเข้าใจว่าเป็นคำแนะนำ ให้ถือว่าคำแนะนำใดที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้เป็นเพียงคำแนะนำโดยทั่วไป ไม่ได้จัดทำขึ้นโดยพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน ความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือตามความต้องการของคุณ
เนื้อหาสาระที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นการให้คำแนะนำทางการเงิน อีกทั้งไม่ถือเป็นการเสนอหรือเชิญชวนหรือแนะนำให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินแต่อย่างใด ข้อมูลที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อการใช้งานโดยทั่วไป คำแนะนำใดที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้เป็นเพียงคำแนะนำโดยทั่วไป ไม่ได้จัดทำขึ้นโดยพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน ความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือตามความต้องการของคุณ ดังนั้นก่อนดำเนินการตามข้อมูลเหล่านี้ คุณควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลที่ให้ไว้ ตลอดจนลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องตามวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน และความต้องการของคุณ หากคุณไม่เข้าใจเนื้อหาในเอกสารฉบับนี้ โปรดขอคำปรึกษาจากที่ปรึกษาทางการเงินที่ได้รับอนุญาต
เอกสารฉบับนี้เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินซึ่งไม่อยู่ภายใต้ข้อบังคับใดหรือไม่จำเป็นต้องได้รับอนุมัติจาก DFSA และ DFSA ไม่มีหน้าที่ในการตรวจสอบหรือยืนยันเอกสารใดอันเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินนี้ อีกทั้ง DFSA ไม่ได้เป็นผู้อนุมัติเอกสารฉบับนี้หรือเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้อง รวมถึงไม่ได้ดำเนินมาตรการใดเพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ และไม่รับผิดชอบต่อข้อมูลดังกล่าว
เขตบริหารพิเศษฮ่องกง: Equities First Holdings Hong Kong Limitedได้รับใบอนุญาตภายใต้กฎหมายผู้ให้กู้ยืมในฮ่องกง (หมายเลขใบอนุญาตผู้ให้กู้เลขที่ 1659/2024)และดำเนินธุรกิจด้านการจัดการกับหลักทรัพย์ (ใบอนุญาตประเภทที่ 1)ภายใต้กฎหมายการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกง (“SFO”) (หมายเลข CEเลขที่ BFJ407)เอกสารฉบับนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกงนอกจากนี้เอกสารฉบับนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเสนอการขายหลักทรัพย์ หรือชักจูงให้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่จัดการหรือจัดหาโดย Equities First Holdings Hong Kong Limitedแต่จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้ SFOเท่านั้นเอกสารฉบับนี้ไม่ได้ส่งถึงบุคคลหรือองค์กรที่จะทำให้ข้อเสนอหรือคำเชิญชวนดังกล่าวผิดกฎหมายหรือถูกต้องห้าม
ประเทศเกาหลี: เอกสารข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งมีความรู้และประสบการณ์เพียงพอต่อการทำธุรกรรมการจัดหาเงินทุนหลักทรัพย์เป็นการเฉพาะเจาะจง และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่ตรงตามข้อกำหนดข้างต้น
สหราชอาณาจักร: Equities First (London) Limited ได้รับการรับรองและควบคุมในสหราชอาณาจักรโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (” FCA”) ในสหราชอาณาจักร เอกสารฉบับนี้ได้แจกจ่ายให้แก่บุคคลที่มีลักษณะเป็นไปตามมาตรา 19(5) (นักลงทุนมืออาชีพ) และมาตรา 42(2) (บริษัทที่มีมูลค่าสุทธิสูง สมาคมอิสระ ฯลฯ) ในส่วนที่ 4 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่องบริการทางการเงินและตลาด ค.ศ. 2000 (การสนับสนุนทางการเงิน) คำสั่ง ค.ศ. 2005 (“FPO”) เท่านั้น และกิจกรรมการลงทุนใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอนี้จะใช้ได้เฉพาะกับบุคคลดังกล่าวและมีเพียงแค่บุคคลดังกล่าวเท่านั้นที่จะสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวได้ บุคคลที่ไม่มีประสบการณ์ระดับมืออาชีพในการลงทุน หรือบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามมาตรา 49 ของ FPO ไม่ควรใช้เอกสารนี้ เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้หน่วยงานที่ให้การกำกับการให้บริการด้านการลงทุนและผลิตภัณฑ์ทางการเงินในพื้นที่ภาคพื้นยุโรป (MiFID) เท่านั้น