ความเชื่อมั่นในเชิงบวกที่เพิ่งเกิดขึ้นสำหรับเงินดอลลาร์ออสเตรเลียมีความหมายอย่างไรต่อธุรกิจในประเทศ

29 พฤศจิกายน 2567

การคาดการณ์ทิศทางของตลาดเงินตราเป็นเรื่องที่ยากและมักน่าคับข้องใจ อีกทั้งแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเริ่มผันผวนหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ด้วยการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีความยืดหยุ่น เช่น การหาเงินทุนโดยใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ธุรกิจจึงตอบสนองได้อย่างว่องไวต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปและหาทางป้องกันความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม ขณะที่นักลงทุนสามารถปรับพอร์ตการลงทุนให้สมดุลได้ตามความจำเป็น

การคาดการณ์เกี่ยวกับการเพิ่มภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของนายโดนัลด์ ทรัมป์ จะทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ส่วนใหญ่ในเดือนพฤศจิกายน ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียในเดือนกันยายน ซึ่งดูเหมือนใกล้ทะลุระดับ 0.70 ดอลลาร์สหรัฐกลับร่วงลงไปที่ 0.65 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ในวันที่ 19 พฤศจิกายน

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียยังคงทรงตัวหลังการประชุม เนื่องจากธนาคารกลางออสเตรเลียระบุว่ามีแนวโน้มที่จะตรึงจุดยืนนโยบายการเงินที่เข้มงวดในปัจจุบัน เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคง “สูงเกินไป”

อัตราแลกเปลี่ยนของเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่น ๆ ได้รับการกำหนดโดยอัตราดอกเบี้ยเป็นหลักแม้ว่าธนาคารกลางออสเตรเลียยังไม่เจริญรอยตามธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการเริ่มรอบการผ่อนคลายนโยบายการเงิน แต่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่สอง ในเดือนพฤศจิกายนทำให้อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมข้ามคืนของธนาคารกลางสหรัฐฯ อยู่ที่ระดับ 4.50%-4.75% ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางออสเตรเลียยังคงต่ำกว่าอยู่ที่ 4.35%

สถานการณ์นี้ถือว่าเกิดขึ้นยากในประวัติศาสตร์และส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียค่อนข้างถูกลง ด้วยเหตุนี้ผู้ส่งออกมีความสามารถในการแข่งขันในระดับนานาชาติมากขึ้น และกำไรเพิ่มขึ้นในแง่ของดอลลาร์ออสเตรเลีย แต่ในทางกลับกันการนำเข้ามีราคาสูงขึ้นในสกุลเงินท้องถิ่นซึ่งส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อ

สถานการณ์นี้นับเป็นการเปลี่ยนแปลงจากทศวรรษก่อนที่เกิดการระบาดใหญ่ ช่วงปี 2553 โดยส่วนใหญ่ธนาคารกลางออสเตรเลียกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้วอื่น ๆ อย่างมาก เนื่องจากสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และยุโรปคงอัตราดอกเบี้ยใกล้ศูนย์หลังวิกฤตการเงินโลกในปี 2551 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านการส่งออก[1]

ในช่วงเวลานั้น ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าเกินกว่าที่แบบจำลองคาดการณ์ไว้ว่าเหมาะสม ส่งผลให้เกิดการกดดันเงินเฟ้อในออสเตรเลียและค่าแรงที่เพิ่มสูงขึ้น[2] ในทางกลับกัน ในช่วงฟื้นตัวจากการระบาดใหญ่และหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในยูเครน นโยบายการเงินของออสเตรเลียผ่อนคลายมากกว่าเขตเศรษฐกิจคู่แข่ง แม้ว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะพุ่งสูงขึ้นในปี 2564-2565 ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียกลับไม่ได้แข็งค่าขึ้นมากนัก

ปัจจุบัน เมื่อธนาคารกลางออสเตรเลียมุ่งมั่นที่จะควบคุมเงินเฟ้อ ขณะที่สหรัฐฯ กำลังผ่อนคลายนโยบายการเงิน อัตราดอกเบี้ยของออสเตรเลียอาจยังเพิ่มขึ้นต่อเมื่อเทียบกับของสหรัฐฯ ซึ่งอาจนำไปสู่การแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในปี 2568

ในเดือนตุลาคม ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นักลงทุนสถาบันได้ละทิ้งมุมมองเชิงลบต่อค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียที่ตนเองยึดมั่นมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2566[3] ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นนี้เกิดจากความคาดหวังว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียจะหลีกเลี่ยงการลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเฟ้อรวมถึงความหวังว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย

ธนาคารกลางออสเตรเลียได้เน้นถึงความเสี่ยงหลัก 3 ประการที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและค่าเงินของออสเตรเลีย ได้แก่ “การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” ด้านนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ขนาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนที่แตกต่างจากที่คาดการณ์และความเสี่ยงทั่วไปของการเติบโตที่ไม่ยั่งยืนของหนี้รัฐบาล

แม้ขณะนี้ความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยจะลดลง แต่บางส่วนยังคงมองในแง่ดีเกี่ยวกับแนวโน้มของค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย ตัวอย่างเช่น Morgan Stanley คาดการณ์ไว้ว่าค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียจะเป็นหนึ่งในสกุลเงินหลักที่มีผลงานดีที่สุดในปี 2568 โดยเพิ่มขึ้นเป็น 0.72 ดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปี 2568[4] นักกลยุทธ์ของธนาคารดังกล่าวอธิบายว่า แม้ว่าภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นอาจเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตแต่ก็ชดเชยด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ซึ่งช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลก

ในทางกลับกัน ธนาคาร NAB ไม่ได้มีมุมมองในลักษณะเดียวกัน ธนาคารออสเตรเลียเคยคาดการณ์ว่าค่าเงินจะขึ้นไปถึง 0.71 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 แต่หลังจากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ธนาคาร NAB ระบุว่าไม่คิดว่าค่าเงินจะทะลุระดับ 0.70 ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้จนกว่าจะถึงอย่างน้อยปี 2569

ผลกระทบต่อธุรกิจ

การแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียมีผลกระทบหลายประการต่อธุรกิจในออสเตรเลีย การส่งออกที่กำหนดราคาเป็นดอลลาร์ออสเตรเลียจะสูญเสียความสามารถในการแข่งขันส่งผลให้ความต้องการลดลง ในทางกลับกัน การส่งออกส่วนใหญ่ของออสเตรเลียเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่กำหนดราคาเป็นดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอาจทำให้รายได้ลดลงในแง่ของดอลลาร์ออสเตรเลีย แม้ว่าบริษัทใหญ่หลายแห่งมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินในส่วนรายได้

ในขณะเดียวกัน บริษัทที่ให้บริการตลาดภายในประเทศจะได้ประโยชน์จากกำลังการซื้อวัตถุดิบในราคาที่ถูกลงจากต่างประเทศ ธุรกิจออสเตรเลียที่จำหน่ายสินค้าตั้งแต่รถยนต์นำเข้าไปจนถึงยารักษาโรคอาจได้รับประโยชน์ในลักษณะนี้

สุดท้ายนี้ ทิศทางของค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียจะขึ้นอยู่กับตัวแปรหลายประการซึ่งแปรผันไปตามประสิทธิภาพของกลุ่มเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้วอื่น ๆ และการจัดการนโยบายการเงินของประเทศ

แนวโน้มมีทีท่าจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหากธนาคารกลางสหรัฐฯ ลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างรวดเร็ว ธนาคารกลางออสเตรเลียยังคงยึดมั่นในจุดยืนการควบคุมเงินเฟ้อ เศรษฐกิจจีนกลับมาฟื้นตัวและความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจมหภาคและภูมิรัฐศาสตร์ที่ดีขึ้น น่าสังเกตว่าช่วงที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งสูงครั้งใหญ่ครั้งล่าสุดช่วยผลักดันค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียให้ทะลุ 1.10 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2554[5]

ไม่ว่าคุณจะมีมุมมองอย่างไรเกี่ยวกับทิศทางของค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า การจัดหาเงินทุนโดยใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณเข้าถึงแหล่งทุนที่มีความยืดหยุ่นเพื่อเปลี่ยนความเชื่อมั่นของคุณให้กลายเป็นการดำเนินการได้


[1] https://www.afr.com/policy/economy/why-the-rba-has-a-massive-public-education-job-to-do-20241002-p5kf70

[2] https://www.afr.com/policy/economy/erratic-aussie-dollar-a-factor-in-the-rba-s-missed-inflation-targets-20241023-p5kkjk

[3] https://www.bloomberg.com/news/articles/2024-10-14/asset-managers-ramp-up-bullish-bets-on-aussie-to-most-since-2021

[4] https://www.poundsterlinglive.com/aud/21111-australian-dollar-should-be-a-top-pick-next-year-says-morgan-stanley

[5] https://www.smh.com.au/business/the-economy/aussie-dollar-marks-40-years-of-resilience-and-china-reliance-20231212-p5eqt1.html

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ

ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้รับประกันผลตอบแทนในอนาคต และไม่มีการรับประกันหรือรับรองผลตอบแทนของแต่ละบุคคล

เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ได้รับการรับรอง นักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายอื่น ๆ กำหนดเท่านั้น และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นเนื้อหาที่มีลักษณะทั่วไปและไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์หรือความต้องการทางการเงินที่เฉพาะเจาะจงใด ๆ มุมมองและความคิดเห็นที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นโดยบุคคลที่ภายนอก และอาจไม่ได้สะท้อนมุมมองและความคิดเห็นของ EquitiesFirst นอกจากนี้ EquitiesFirst ไม่ได้ตรวจสอบหรือยืนยันข้อมูลที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ด้วยตนเอง และไม่ได้รับรองว่าข้อมูลดังกล่าวถูกต้องหรือสมบูรณ์ ความคิดเห็นและข้อมูลในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขาย (หรือการชักชวนให้ซื้อ) หลักทรัพย์ การลงทุน หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินใด ๆ (“ข้อเสนอ”) ข้อเสนอใด ๆ ดังกล่าวจะต้องดำเนินการผ่านการเสนอขายที่เกี่ยวข้องหรือเอกสารอื่น ๆ ที่มีการระบุข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เป็นสาระสำคัญไว้อย่างชัดเจนเท่านั้น ข้อมูลใด ๆ ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการแนะนำ การจูงใจ การเชิญชวน การโน้มน้าว การส่งเสริมการขาย หรือเป็นข้อเสนอให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์การลงทุนใด ๆ จาก Equities First Holdings, LLC หรือบริษัทย่อยของ Equities First Holdings, LLC (เรียกรวมกันว่า ” EquitiesFirst”) และไม่ควรตีความในทางใดทางหนึ่งว่าเอกสารฉบับนี้เป็นการแนะนำด้านการลงทุน กฎหมาย หรือภาษี รวมถึงการแนะนำ การอ้างอิง หรือการรับรองจาก EquitiesFirst ท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

เอกสารฉบับนี้ประกอบด้วยทรัพย์สินทางปัญญาของ EquitiesFirst ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงโลโก้ต่าง ๆ  และเครื่องหมายการค้าอื่น ๆ ทั้งที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียน ตลอดจนเครื่องหมายบริการที่เกี่ยวข้องตามลำดับ EquitiesFirst ขอสงวนสิทธิ์ทั้งหมดในทรัพย์สินทางปัญญาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่าย เผยแพร่ ทำซ้ำ หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้รับสามารถส่งต่อเนื้อหาทั้งหมดหรือบางส่วนของเอกสารฉบับนี้ไปยังผู้อื่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่ายให้แก่บุคคลในประเทศใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดกฎหมายหรือระเบียบอื่นใดที่เกี่ยวข้อง

EquitiesFirst ไม่รับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับเอกสารฉบับนี้ และขอปฏิเสธอย่างชัดแจ้งต่อการรับประกันโดยนัยใด ๆ ภายใต้กฎหมาย ท่านรับทราบว่า EquitiesFirst จะไม่ต้องรับผิดในทุกกรณี สำหรับความเสียหายทั้งทางตรง ทางอ้อม ที่เป็นกรณีพิเศษ ที่เป็นผลสืบเนื่อง โดยไม่เจตนา หรือที่เป็นการลงโทษ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการสูญเสียผลประโยชน์หรือการสูญเสียโอกาสใด ๆ แม้ว่า EquitiesFirst จะรับทราบถึงความเป็นไปได้ของความเสียหายดังกล่าวก็ตาม

EquitiesFirst ได้จัดทำคำแถลงการเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจบังคับใช้ในเขตอำนาจศาลที่ระบุไว้

ประเทศออสเตรเลีย: Equities First Holdings (Australia) Pty Ltd (หมายเลขทะเบียนบริษัท: 142 644 399) เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตบริการทางการเงินของประเทศออสเตรเลีย (หมายเลข AFSL: 387079) สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด

ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีไว้สำหรับบุคคลที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียและจัดเป็นลูกค้าสำหรับการค้าส่ง (Wholesale Client) ตามที่ระบุในมาตรา 761G แห่งพระราชบัญญัติบริษัท ค.ศ. 2001 (Corporations Act 2001)เท่านั้นการเผยแพร่ข้อมูลให้บุคคลอื่นใดที่มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดข้างต้นอาจมีข้อจำกัดตามกฎหมาย ทั้งนี้ บุคคลใดที่มีข้อมูลดังกล่าวในครอบครองควรเสาะหาคำแนะนำและทำความเข้าใจข้อจำกัดดังกล่าว เนื้อหาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น  และไม่ควรตีความว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อเสนอ การจูงใจ หรือคำแนะนำในการซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลในลักษณะทั่วไป และไม่ใช่คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินส่วนบุคคล คำแนะนำใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้เป็นคำแนะนำทั่วไปเท่านั้น และจัดทำขึ้นโดยไม่ได้คำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์หรือความต้องการทางการเงินของผู้ลงทุน ก่อนดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ ท่านควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าว และลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ และความต้องการทางการเงินของท่านท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเอง และอ่านคำแถลงการเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง หรือเอกสารข้อเสนออื่น ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

ดูไบ: Equities First Holdings Hong Kong Ltd (สำนักงานตัวแทน DIFC) ตั้งอยู่ที่ Gate Precinct Building 4, 6th Floor, Office 7, Dubai International Financial Centre (เลขทะเบียนพาณิชย์ CL7354) อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Dubai Financial Services Authority (“DFSA”) ในฐานะสำนักงานตัวแทน (เลขที่อ้างอิงบริษัทของ DFSA: F008752) สงวนลิขสิทธิ์ ข้อมูลที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อการใช้งานโดยทั่วไป หากมีเนื้อหาส่วนใดที่อาจเข้าใจว่าเป็นคำแนะนำ ให้ถือว่าคำแนะนำใดที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้เป็นเพียงคำแนะนำโดยทั่วไป ไม่ได้จัดทำขึ้นโดยพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน ความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือตามความต้องการของคุณ

เนื้อหาสาระที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นการให้คำแนะนำทางการเงิน อีกทั้งไม่ถือเป็นการเสนอหรือเชิญชวนหรือแนะนำให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินแต่อย่างใด ข้อมูลที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อการใช้งานโดยทั่วไป คำแนะนำใดที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้เป็นเพียงคำแนะนำโดยทั่วไป ไม่ได้จัดทำขึ้นโดยพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน ความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือตามความต้องการของคุณ ดังนั้นก่อนดำเนินการตามข้อมูลเหล่านี้ คุณควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลที่ให้ไว้ ตลอดจนลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องตามวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน และความต้องการของคุณ หากคุณไม่เข้าใจเนื้อหาในเอกสารฉบับนี้ โปรดขอคำปรึกษาจากที่ปรึกษาทางการเงินที่ได้รับอนุญาต

เอกสารฉบับนี้เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินซึ่งไม่อยู่ภายใต้ข้อบังคับใดหรือไม่จำเป็นต้องได้รับอนุมัติจาก DFSA และ DFSA ไม่มีหน้าที่ในการตรวจสอบหรือยืนยันเอกสารใดอันเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินนี้ อีกทั้ง DFSA ไม่ได้เป็นผู้อนุมัติเอกสารฉบับนี้หรือเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้อง รวมถึงไม่ได้ดำเนินมาตรการใดเพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ และไม่รับผิดชอบต่อข้อมูลดังกล่าว

เขตบริหารพิเศษฮ่องกง: Equities First Holdings Hong Kong Limitedได้รับใบอนุญาตภายใต้กฎหมายผู้ให้กู้ยืมในฮ่องกง (หมายเลขใบอนุญาตผู้ให้กู้เลขที่ 1659/2024)และดำเนินธุรกิจด้านการจัดการกับหลักทรัพย์ (ใบอนุญาตประเภทที่ 1)ภายใต้กฎหมายการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกง (“SFO”) (หมายเลข CEเลขที่ BFJ407)เอกสารฉบับนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกงนอกจากนี้เอกสารฉบับนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเสนอการขายหลักทรัพย์ หรือชักจูงให้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่จัดการหรือจัดหาโดย Equities First Holdings Hong Kong Limitedแต่จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้ SFOเท่านั้นเอกสารฉบับนี้ไม่ได้ส่งถึงบุคคลหรือองค์กรที่จะทำให้ข้อเสนอหรือคำเชิญชวนดังกล่าวผิดกฎหมายหรือถูกต้องห้าม

ประเทศเกาหลี: เอกสารข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งมีความรู้และประสบการณ์เพียงพอต่อการทำธุรกรรมการจัดหาเงินทุนหลักทรัพย์เป็นการเฉพาะเจาะจง และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่ตรงตามข้อกำหนดข้างต้น

สหราชอาณาจักร: Equities First (London) Limited ได้รับการรับรองและควบคุมในสหราชอาณาจักรโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (” FCA”) ในสหราชอาณาจักร เอกสารฉบับนี้ได้แจกจ่ายให้แก่บุคคลที่มีลักษณะเป็นไปตามมาตรา 19(5) (นักลงทุนมืออาชีพ) และมาตรา 42(2) (บริษัทที่มีมูลค่าสุทธิสูง สมาคมอิสระ ฯลฯ) ในส่วนที่ 4 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่องบริการทางการเงินและตลาด ค.ศ. 2000 (การสนับสนุนทางการเงิน) คำสั่ง ค.ศ. 2005 (“FPO”) เท่านั้น และกิจกรรมการลงทุนใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอนี้จะใช้ได้เฉพาะกับบุคคลดังกล่าวและมีเพียงแค่บุคคลดังกล่าวเท่านั้นที่จะสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวได้ บุคคลที่ไม่มีประสบการณ์ระดับมืออาชีพในการลงทุน หรือบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามมาตรา 49 ของ FPO ไม่ควรใช้เอกสารนี้ เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้หน่วยงานที่ให้การกำกับการให้บริการด้านการลงทุนและผลิตภัณฑ์ทางการเงินในพื้นที่ภาคพื้นยุโรป (MiFID) เท่านั้น