เพราะอะไรสำนักงานธุรกิจครอบครัวของเกาหลีจึงนิยมไปก่อตั้งที่สิงคโปร์

แต่ละประเทศที่เป็นศูนย์กลางของสำนักงานธุรกิจครอบครัวในเอเชียเป็นเสมือนประตูสู่ภูมิภาคต่างๆ ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ ตัวอย่างเช่น ฮ่องกงทำหน้าที่เชื่อมโลกกับประเทศจีนแผ่นดินใหญ่เข้าด้วยกัน ส่วนดูไบก็เป็นด่านแรกในการเข้าสู่ตะวันออกกลางและแอฟริกา ทว่าหนึ่งในประเทศที่เติบโตได้อย่างรวดเร็วที่สุดในด้านการจัดการความมั่งคั่งของครอบครัวก็คือสิงคโปร์ เหตุผลเป็นเพราะนโยบายที่เอื้ออำนวยและตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่เหมาะสำหรับการคว้าโอกาสดีๆ ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ดึงดูดให้บริษัทจากทั่วเอเชีย โดยเฉพาะเกาหลีใต้ นิยมมาก่อตั้งบริษัทในประเทศเล็กๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้

ภายในสิ้นปี 2023 มีสำนักงานธุรกิจครอบครัวที่ดำเนินงานให้กับครอบครัวเดียว (SFO) ถึง 1,400 แห่งก่อตั้งในสิงคโปร์[1] โดยหลายแห่งใช้ประโยชน์จากโครงสร้างแบบ Variable Capital Company (VCC) ที่เริ่มนำมาใช้ในสิงคโปร์เมื่อปี 2020 แม้ว่าจะมีข้อกำหนดที่เข้มงวด แต่โครงสร้างของ VCC มอบความได้เปรียบที่สำคัญหลายอย่าง เช่น การจ่ายปันผลแก่ผู้ถือหุ้นแบบได้รับการยกเว้นภาษี[2] และการคุ้มครองความเป็นส่วนตัว เนื่องจากไม่จำเป็นต้องแจ้งทะเบียนรายชื่อสมาชิกของ VCC แก่สาธารณะ[3]

โครงสร้างแบบบ VCC ที่ได้รับความนิยมในหมู่สำนักงานธุรกิจครอบครัวเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของนโยบายส่งเสริมการลงทุนที่ทำให้ประเทศเล็ก ๆ ที่มีพื้นที่เพียงแค่ 700 ตารางกิโลเมตรและมีประชากรเกือบ 6 ล้านคน กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของมหาเศรษฐีหลายล้านคนทั่วโลก มีการคาดการณ์ว่าสิงคโปร์จะมีกระแสเงินทุนไหลเข้าจากบุคคลที่มีความมั่งคั่งสูงเป็นอันดับสามของโลกในปี 2024 ตามหลังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ครองอันดับหนึ่งและสหรัฐอเมริกาในอันดับสอง[4]

สิงคโปร์มีสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่อาศัยสำหรับคนรวย ประเทศแห่งนี้อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรและเต็มไปด้วยต้นไม้ ทั้งยังปลอดภัย สะอาด และมีการบริหารจัดการอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นยังมีโรงเรียนและสถานพยาบาลชั้นยอด นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังมีความมั่นคงทางการเมืองสูงมากเมื่อเทียบกับความแตกแยกทางการเมืองแบบแบ่งขั้วที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในหลายประเทศ 

โอเอซิสแห่งความเงียบสงบ

ในบรรดา 29 ประเทศที่มีรายชื่ออยู่ในการสำรวจครั้งล่าสุดของ Ipsos ที่สอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาทางสังคมและการเมือง สิงคโปร์ครองอันดับหนึ่ง โดย 79% ของพลเมืองเชื่อว่าประเทศของตัวเองเดินมาถูกทางแล้ว เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลก ซึ่งอยู่ที่ 38%[5]

เมื่อเดือนพฤษภาคม 2024 อดีตนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ Lee Hsien Loong ได้ยื่นไม้ต่อให้กับ Lawrence Wong  ผู้ได้รับเลือกให้เป็นทายาททางการเมืองของพรรค การเปลี่ยนผ่านดำเนินไปอย่างราบรื่น ซึ่งสร้างบรรยากาศผ่อนคลายให้กับการเลือกตั้งครั้งใหญ่อื่น ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปลายปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา[6]

บริษัทผู้ให้คำปรึกษา EY ระบุว่าปัญหาที่ส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนของสำนักงานธุรกิจครอบครัวเป็นอันดับหนึ่งคือปัญหาด้านภูมิศาสตร์การเมือง ไม่ใช่เงินเฟ้ออีกต่อไป[7] โดยมีการคาดการณ์ว่านี่จะส่งผลให้ครอบครัวมหาเศรษฐีย้ายสำนักงานลงทุนของตนเองมายังประเทศอย่างสิงคโปร์มากขึ้น

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางการถ่ายโอนความมั่งคั่งจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งทำให้เกิดสำนักงานธุรกิจครอบครัวใหม่ ๆ ขึ้นทั่วโลก[8] ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดของเอเชียเตรียมตัวส่งมอบความมั่งคั่งมูลค่า 2.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 และสำนักงานธุรกิจครอบครัวในสิงคโปร์จะมีบทบาทมากขึ้นในแผนสืบทอดมรดก[9]

ภาพประกอบ 1: โครงสร้างของสำนักงานธุรกิจครอบครัวทั่วไป

Why South Korean family offices are joining the rush to Singapore

ที่มาของรูปภาพ: https://assets.ey.com/content/dam/ey-sites/ey-com/en_gl/topics/family-business/ey-the-asian-family-office.pdf

ความเชื่อมโยงกับเกาหลีใต้

หลายตระกูลในเอเชียกำลังหาทางปรับโครงสร้างความเป็นเจ้าของในธุรกิจต่าง ๆ โดยเปลี่ยนจากโครงสร้างแบบสืบทอดมรดกมาเป็นโครงสร้างแบบถือหุ้นที่มีถิ่นฐานอยู่ในสิงคโปร์โดยใช้ประโยชน์จากโครงสร้างกองทุน VCC ซึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือเกาหลีใต้ ปัจจุบัน สำนักงานธุรกิจครอบครัวในเกาหลีใต้หันมาใช้ประโยชน์จากโครงสร้าง VCC ในสิงคโปร์มากขึ้นเพื่อจะได้เข้าถึงโอกาสมากมายทั่วโลกหรือภายในภูมิภาคอาเซียน หรือแม้แต่ในประเทศของตัวเอง ตัวอย่างเช่น AIP Investment Partners ในเครือบริษัทจัดการทรัพย์สิน AIP ที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงโซล ซึ่งเลือกใช้โครงสร้าง VCC ในสิงคโปร์เพื่อลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพของเกาหลีที่กำลังอยู่ระยะเติบโตร่วมกับสำนักงานธุรกิจครอบครัว[10]

การที่สำนักงานธุรกิจครอบครัวของเกาหลีใต้ย้ายไปยังสิงคโปร์มากขึ้นแสดงให้เห็นว่าธุรกิจต่างๆ ในประเทศนี้ให้ความสนใจในภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น เกาหลีใต้มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับอาเซียนมาตั้งแต่ลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีในปี 2005[11]

ปัจจุบัน อาเซียนเป็นภูมิภาคยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี อีกทั้งยังเป็นคู่ค้าและจุดหมายปลายทางในการลงทุนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของเกาหลีใต้[12] ไม่เพียงเท่านั้น ความสัมพันธ์ดังกล่าวยังมีแนวโน้มว่าจะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นเนื่องจากบริษัทในเกาหลีใต้หันมาใช้อาเซียนเป็นฐานการผลิตเพื่อกระจายความเสี่ยงให้กับห่วงโซ่อุปทาน[13]

หนทางสู่การรักษาความมั่งคั่ง

สถานการณ์ล่าสุดในเกาหลีใต้อาจเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เศรษฐีเกาหลีหันมาสนใจสิงคโปร์มากขึ้น เกาหลีใต้เก็บภาษีมรดกสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก โดยความหวังว่าจะมีการลดอัตราภาษีดังกล่าวสูญสลายไปกับตาหลังการเลือกตั้งของประเทศในเดือนเมษายน 2024 ที่ผ่านมา[14] เมื่อพรรคของประธานาธิบดี Yoon Suk Yeol ที่ต้องการลดอัตราภาษีมรดกแพ้การเลือกตั้งอย่างราบคาบ โดยฝ่ายคู่แข่งในสภาที่ได้รับแรงสนับสนุนอย่างมากในช่วงที่ผ่านมาต้องการให้บรรดาเศรษฐีจ่ายภาษีมากขึ้น

ทายาทของเครือบริษัทยักษ์ใหญ่ที่บริหารงานโดยครอบครัวของเกาหลี อาจจะต้องเสียภาษีเป็นมูลค่ามหาศาลจากการรับมรดก ตัวอย่างเช่น หลังการเสียชีวิตของ Lee Kun-hee ประมุขของตระกูล Samsung ในปี 2020 บรรดาทายาทต้องขายหุ้นบริษัทเป็นมูลค่าประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อนำเงินมาจ่ายภาษีมรดก[15]

อัตราภาษีมรดกสูงเช่นนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เศรษฐีชาวเกาหลีใต้ย้ายสินทรัพย์ของตัวเองออกไปนอกประเทศ และด้วยเหตุนี้ เกาหลีใต้จึงสูญเสียตำแหน่งประเทศที่มีมหาเศรษฐีมากที่สุดเป็นอันดับเจ็ดของโลกในปี 2023[16]

ในแง่ของการลงทุน เกาหลีใต้วางแผนที่จะเก็บภาษีกำไรจากการขายหลักทรัพย์ในปี 2025 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สร้างความกังวลอย่างมาก โดยผู้เฝ้าสังเกตการณ์ทางการเงินชั้นนำของเกาหลีได้ออกมาเตือนว่า หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป นักลงทุนรายย่อยก็อาจจะสูญเสียความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นของประเทศได้[17]

ในทางตรงกันข้าม สิงคโปร์ไม่เรียกเก็บภาษีมรดกหรือภาษีกำไรจากการขายหลักทรัพย์เลย[18] ทั้งยังเรียกเก็บภาษีเงินได้ส่วนบุคคลและภาษีเงินได้ของธุรกิจในอัตราต่ำ เมื่อดูจากเสถียรภาพทางการเงินและนโยบายที่เอื้อต่อการลงทุนแล้ว แผนภาษีนี้ไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมากนักในช่วงระยะเวลาอันใกล้ นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้สิงคโปร์ได้รับความสนใจจากสำนักงานธุรกิจครอบครัวในเกาหลีใต้มากขึ้น

สำหรับตระกูลที่มีการถือหุ้นอย่างกระจุกตัวและต้องการกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุน สินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันจาก EquitiesFirst เป็นเครื่องมือที่แสนสะดวกและคุ้มค่าอย่างยิ่งในการระดมทุนเพื่อนำไปลงทุนในศูนย์กลางด้านการจัดการความมั่งคั่งของโลกอย่างสิงคโปร์


[1] https://citywire.com/asia/news/singapore-s-single-family-office-count-soars-to-1400/a2437714

[2] https://www.iras.gov.sg/media/docs/default-source/e-tax/etaxguides_cit_tax_framework_for_vcc.pdf?sfvrsn=e5af1dc5_20

[3] https://www.simmons-simmons.com/en/publications/ck6q8td091e1l0919ma5e1tgx/singapore-launches-new-fund-vehicle

[4] https://www.henleyglobal.com/newsroom/press-releases/henley-private-wealth-migration-report-2024

[5] https://www.ipsos.com/en/what-worries-world

[6] https://foreignpolicy.com/2024/06/05/singapore-us-uk-government-comparison-elections-citizens-governance-politics/

[7] https://www.ey.com/en_lu/wealth-asset-management/the-future-of-family-offices–a-look-ahead-to-2024

[8] https://assets.ey.com/content/dam/ey-sites/ey-com/en_gl/topics/family-business/ey-the-asian-family-office.pdf

[9] https://www.scmp.com/week-asia/people/article/3253023/crazy-rich-asians-next-generation-and-struggle-make-success-succession

[10] https://www.asianinvestor.net/article/family-offices-embrace-singapores-fund-structure-to-manage-money/494840

[11] https://asean.org/wp-content/uploads/images/2015/October/outreach-document/Edited%20AKFTA.pdf

[12] https://overseas.mofa.go.kr/asean-en/wpge/m_2555/contents.do

[13] https://www.scmp.com/economy/global-economy/article/3200860/south-korea-looks-tap-asean-supply-chains-trade-deficit-china-adds-worries-overreliance

[14] https://www.bnnbloomberg.ca/billionaire-families-lose-hope-for-tax-cut-after-korean-vote-1.2060571

[15] https://www.wsj.com/personal-finance/samsungs-lee-family-sells-about-2-billion-in-shares-to-fund-inheritance-tax-c90adead

[16] https://www.koreaherald.com/view.php?ud=20230615000664

[17] https://www.bloomberg.com/news/articles/2024-06-02/south-korea-s-fss-warns-of-outflows-from-local-stocks-on-new-tax?embedded-checkout=true

[18] https://www.iras.gov.sg/taxes/individual-income-tax/basics-of-individual-income-tax/what-is-taxable-what-is-not/gains-from-sale-of-property-shares-and-financial-instruments

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ

ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้รับประกันผลตอบแทนในอนาคต และไม่มีการรับประกันหรือรับรองผลตอบแทนของแต่ละบุคคล

เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ได้รับการรับรอง นักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายอื่น ๆ กำหนดเท่านั้น และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นเนื้อหาที่มีลักษณะทั่วไปและไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์หรือความต้องการทางการเงินที่เฉพาะเจาะจงใด ๆ มุมมองและความคิดเห็นที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นโดยบุคคลที่ภายนอก และอาจไม่ได้สะท้อนมุมมองและความคิดเห็นของ EquitiesFirst นอกจากนี้ EquitiesFirst ไม่ได้ตรวจสอบหรือยืนยันข้อมูลที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ด้วยตนเอง และไม่ได้รับรองว่าข้อมูลดังกล่าวถูกต้องหรือสมบูรณ์ ความคิดเห็นและข้อมูลในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขาย (หรือการชักชวนให้ซื้อ) หลักทรัพย์ การลงทุน หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินใด ๆ (“ข้อเสนอ”) ข้อเสนอใด ๆ ดังกล่าวจะต้องดำเนินการผ่านการเสนอขายที่เกี่ยวข้องหรือเอกสารอื่น ๆ ที่มีการระบุข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เป็นสาระสำคัญไว้อย่างชัดเจนเท่านั้น ข้อมูลใด ๆ ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการแนะนำ การจูงใจ การเชิญชวน การโน้มน้าว การส่งเสริมการขาย หรือเป็นข้อเสนอให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์การลงทุนใด ๆ จาก Equities First Holdings, LLC หรือบริษัทย่อยของ Equities First Holdings, LLC (เรียกรวมกันว่า ” EquitiesFirst”) และไม่ควรตีความในทางใดทางหนึ่งว่าเอกสารฉบับนี้เป็นการแนะนำด้านการลงทุน กฎหมาย หรือภาษี รวมถึงการแนะนำ การอ้างอิง หรือการรับรองจาก EquitiesFirst ท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

เอกสารฉบับนี้ประกอบด้วยทรัพย์สินทางปัญญาของ EquitiesFirst ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงโลโก้ต่าง ๆ  และเครื่องหมายการค้าอื่น ๆ ทั้งที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียน ตลอดจนเครื่องหมายบริการที่เกี่ยวข้องตามลำดับ EquitiesFirst ขอสงวนสิทธิ์ทั้งหมดในทรัพย์สินทางปัญญาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่าย เผยแพร่ ทำซ้ำ หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้รับสามารถส่งต่อเนื้อหาทั้งหมดหรือบางส่วนของเอกสารฉบับนี้ไปยังผู้อื่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่ายให้แก่บุคคลในประเทศใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดกฎหมายหรือระเบียบอื่นใดที่เกี่ยวข้อง

EquitiesFirst ไม่รับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับเอกสารฉบับนี้ และขอปฏิเสธอย่างชัดแจ้งต่อการรับประกันโดยนัยใด ๆ ภายใต้กฎหมาย ท่านรับทราบว่า EquitiesFirst จะไม่ต้องรับผิดในทุกกรณี สำหรับความเสียหายทั้งทางตรง ทางอ้อม ที่เป็นกรณีพิเศษ ที่เป็นผลสืบเนื่อง โดยไม่เจตนา หรือที่เป็นการลงโทษ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการสูญเสียผลประโยชน์หรือการสูญเสียโอกาสใด ๆ แม้ว่า EquitiesFirst จะรับทราบถึงความเป็นไปได้ของความเสียหายดังกล่าวก็ตาม

EquitiesFirst ได้จัดทำคำแถลงการเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจบังคับใช้ในเขตอำนาจศาลที่ระบุไว้

ประเทศออสเตรเลีย: Equities First Holdings (Australia) Pty Ltd (หมายเลขทะเบียนบริษัท: 142 644 399) เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตบริการทางการเงินของประเทศออสเตรเลีย (หมายเลข AFSL: 387079) สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด

ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีไว้สำหรับบุคคลที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียและจัดเป็นลูกค้าสำหรับการค้าส่ง (Wholesale Client) ตามที่ระบุในมาตรา 761G แห่งพระราชบัญญัติบริษัท ค.ศ. 2001 (Corporations Act 2001)เท่านั้นการเผยแพร่ข้อมูลให้บุคคลอื่นใดที่มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดข้างต้นอาจมีข้อจำกัดตามกฎหมาย ทั้งนี้ บุคคลใดที่มีข้อมูลดังกล่าวในครอบครองควรเสาะหาคำแนะนำและทำความเข้าใจข้อจำกัดดังกล่าว เนื้อหาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น  และไม่ควรตีความว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อเสนอ การจูงใจ หรือคำแนะนำในการซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลในลักษณะทั่วไป และไม่ใช่คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินส่วนบุคคล คำแนะนำใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้เป็นคำแนะนำทั่วไปเท่านั้น และจัดทำขึ้นโดยไม่ได้คำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์หรือความต้องการทางการเงินของผู้ลงทุน ก่อนดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ ท่านควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าว และลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ และความต้องการทางการเงินของท่านท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเอง และอ่านคำแถลงการเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง หรือเอกสารข้อเสนออื่น ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

ดูไบ: Equities First Holdings Hong Kong Ltd (สำนักงานตัวแทน DIFC) ตั้งอยู่ที่ Gate Precinct Building 4, 6th Floor, Office 7, Dubai International Financial Centre (เลขทะเบียนพาณิชย์ CL7354) อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Dubai Financial Services Authority (“DFSA”) ในฐานะสำนักงานตัวแทน (เลขที่อ้างอิงบริษัทของ DFSA: F008752) สงวนลิขสิทธิ์ ข้อมูลที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อการใช้งานโดยทั่วไป หากมีเนื้อหาส่วนใดที่อาจเข้าใจว่าเป็นคำแนะนำ ให้ถือว่าคำแนะนำใดที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้เป็นเพียงคำแนะนำโดยทั่วไป ไม่ได้จัดทำขึ้นโดยพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน ความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือตามความต้องการของคุณ

เนื้อหาสาระที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นการให้คำแนะนำทางการเงิน อีกทั้งไม่ถือเป็นการเสนอหรือเชิญชวนหรือแนะนำให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินแต่อย่างใด ข้อมูลที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อการใช้งานโดยทั่วไป คำแนะนำใดที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้เป็นเพียงคำแนะนำโดยทั่วไป ไม่ได้จัดทำขึ้นโดยพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน ความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือตามความต้องการของคุณ ดังนั้นก่อนดำเนินการตามข้อมูลเหล่านี้ คุณควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลที่ให้ไว้ ตลอดจนลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องตามวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน และความต้องการของคุณ หากคุณไม่เข้าใจเนื้อหาในเอกสารฉบับนี้ โปรดขอคำปรึกษาจากที่ปรึกษาทางการเงินที่ได้รับอนุญาต

เอกสารฉบับนี้เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินซึ่งไม่อยู่ภายใต้ข้อบังคับใดหรือไม่จำเป็นต้องได้รับอนุมัติจาก DFSA และ DFSA ไม่มีหน้าที่ในการตรวจสอบหรือยืนยันเอกสารใดอันเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินนี้ อีกทั้ง DFSA ไม่ได้เป็นผู้อนุมัติเอกสารฉบับนี้หรือเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้อง รวมถึงไม่ได้ดำเนินมาตรการใดเพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ และไม่รับผิดชอบต่อข้อมูลดังกล่าว

เขตบริหารพิเศษฮ่องกง: Equities First Holdings Hong Kong Limitedได้รับใบอนุญาตภายใต้กฎหมายผู้ให้กู้ยืมในฮ่องกง (หมายเลขใบอนุญาตผู้ให้กู้เลขที่ 1659/2024)และดำเนินธุรกิจด้านการจัดการกับหลักทรัพย์ (ใบอนุญาตประเภทที่ 1)ภายใต้กฎหมายการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกง (“SFO”) (หมายเลข CEเลขที่ BFJ407)เอกสารฉบับนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกงนอกจากนี้เอกสารฉบับนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเสนอการขายหลักทรัพย์ หรือชักจูงให้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่จัดการหรือจัดหาโดย Equities First Holdings Hong Kong Limitedแต่จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้ SFOเท่านั้นเอกสารฉบับนี้ไม่ได้ส่งถึงบุคคลหรือองค์กรที่จะทำให้ข้อเสนอหรือคำเชิญชวนดังกล่าวผิดกฎหมายหรือถูกต้องห้าม

ประเทศเกาหลี: เอกสารข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งมีความรู้และประสบการณ์เพียงพอต่อการทำธุรกรรมการจัดหาเงินทุนหลักทรัพย์เป็นการเฉพาะเจาะจง และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่ตรงตามข้อกำหนดข้างต้น

สหราชอาณาจักร: Equities First (London) Limited ได้รับการรับรองและควบคุมในสหราชอาณาจักรโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (” FCA”) ในสหราชอาณาจักร เอกสารฉบับนี้ได้แจกจ่ายให้แก่บุคคลที่มีลักษณะเป็นไปตามมาตรา 19(5) (นักลงทุนมืออาชีพ) และมาตรา 42(2) (บริษัทที่มีมูลค่าสุทธิสูง สมาคมอิสระ ฯลฯ) ในส่วนที่ 4 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่องบริการทางการเงินและตลาด ค.ศ. 2000 (การสนับสนุนทางการเงิน) คำสั่ง ค.ศ. 2005 (“FPO”) เท่านั้น และกิจกรรมการลงทุนใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอนี้จะใช้ได้เฉพาะกับบุคคลดังกล่าวและมีเพียงแค่บุคคลดังกล่าวเท่านั้นที่จะสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวได้ บุคคลที่ไม่มีประสบการณ์ระดับมืออาชีพในการลงทุน หรือบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามมาตรา 49 ของ FPO ไม่ควรใช้เอกสารนี้ เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้หน่วยงานที่ให้การกำกับการให้บริการด้านการลงทุนและผลิตภัณฑ์ทางการเงินในพื้นที่ภาคพื้นยุโรป (MiFID) เท่านั้น