แม้ว่าตลาดจะไม่แน่นอนแต่คริปโตเคอร์เรนซีกำลังจะถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย

แม้ว่าตลาดคริปโตเคอร์เรนซีจะมีความไม่แน่นอน ทว่าสถาบันทางการเงินกลับใช้บล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลกันมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด Citi Securities Services ได้เผยแพร่ผลการสำรวจที่เผยว่า ปัจจุบันสถาบันการเงินเกือบสามในสี่กำลังดำเนินการแผนงานที่เกี่ยวข้องกับคริปโต จากเดิม 47% ในปี 2022[1]

นอกจากนี้ยังปรากฏว่าสถาบันการเงินขนาดใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า ในท้ายที่สุดสินทรัพย์ทั้งหมดจะถูกแปลงเป็นโทเค็น และบล็อกเชนจะเป็นรากฐานให้กับโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินในอนาคต

ประโยชน์ของสิ่งที่ Larry Fink ซีอีโอของ BlackRock เรียกว่า “ตลาดรุ่นใหม่” ได้แก่ สภาพคล่อง ประสิทธิภาพการดำเนินงาน และความสามารถในการเข้าถึงดีขึ้น [2]

บริษัทที่มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันมีจำนวนเพิ่มขึ้นและกล่าวถึงโอกาสของการแปลงสินทรัพย์ให้อยู่ในรูปแบบโทเค็นที่มีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้แก่ AllianceBernstein,[3] Bank of America,[4] BlackRock,[5] BNY Mellon,[6] Boston Consulting Group (BCG),[7] Citi, Goldman Sachs, HSBC, JP Morgan, Northern Trust[8] และ PwC ตัวอย่างเช่น BCG คาดการณ์ว่าสินทรัพย์ประมาณ 16 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐที่ส่วนใหญ่อยู่ในภาวะขาดสภาพคล่อง จะถูกแปลงเป็นโทเค็นภายในปี 2030[9] ในขณะที่ Northern Trust และ HSBC ประมาณการณ์ว่าสินทรัพย์ทางการเงินถึง 10% จะถูกแปลงเป็นโทเค็นภายในปีดังกล่าว

ทิศทางทางการเงินเปลี่ยนแปลงไป

การแปลงสินทรัพย์จริงมาเป็นโทเค็นคาดว่าจะส่งผลต่อตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างมาก เพราะจริงๆ แล้วมูลค่าตลาดโดยรวมของคริปโตเคอร์เรนซีในปัจจุบันอยู่ที่ราวๆ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ถือเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับมูลค่าโดยประมาณของหลักทรัพย์ในตลาดทุนโลก ซึ่งอยู่ที่ 230 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกที่มีมูลค่า 300 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

นั่นจึงหมายถึงการพลิกผันครั้งใหญ่ของสินทรัพย์ดิจิทัลบางประเภท สินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันเป็นวิธีที่น่าสนใจอย่างยิ่งหากต้องการเงินทุนไปลงทุนในโอกาสเหล่านี้

อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ว่ากระแสการแปลงสินทรัพย์เป็นดิจิทัลที่ไม่มีทางหยุดยั้งนี้จะเป็นแรงหนุนหรือทำลายคริปโตเคอร์เรนซีที่มีอยู่ในปัจจุบันกันแน่

คำตอบอาจอยู่ตรงกลางสำหรับคริปโตเคอร์เรนซีที่ปลอดภัย มีเสถียรภาพ มีประสิทธิภาพ ใช้ประโยชน์ได้จริง และมั่นคง ซึ่งจะได้ประโยชน์จากความเชื่อมั่นและความแพร่หลายของสินทรัพย์ดิจิทัล ส่วนคริปโตเคอร์เรนซีที่ไม่ได้รับความนิยมเท่าจะล้มหายตายจากไปเอง เช่นเดียวกับสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับบริษัทอินเทอร์เน็ตหลังจากฟองสบู่ดอทคอมแตก

สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนอีกอย่างหนึ่งก็คือ กลโกงหลอกลวงและการแฮ็กยังคงระบาดในอุตสาหกรรมการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้อย่างแพร่หลาย นอกเสียจากว่าจะมีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย น่าเชื่อถือ และถูกต้องตามกฎระเบียบในลักษณะเดียวกันกับตลาดการเงินและตลาดทุนที่มีเสถียรภาพ

พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ สินทรัพย์ดิจิทัลจะไม่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่งหลาย หากไม่มี การคุ้มครองและโครงสร้างพื้นฐานจากหน่วยงานกำกับดูแลและสถาบันการเงิน

ถึงแม้ว่า DeFi จะมีบทบาทสำคัญในการพิสูจน์ความเป็นไปได้ในการสร้างและกระจายบริการทางการเงินด้วยวิธีใหม่ แต่เป็นไปได้ยากที่จะมีการกระจายศูนย์อย่างเต็มรูปแบบในอนาคต และสถาบันการเงินจะมีบทบาทหลักในการเผยแพร่ระบบที่ขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชนไปในวงกว้าง

ดังนั้น นักลงทุนที่ต้องการลงทุนในโอกาสต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนผ่านจากโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินมาเป็นเทคโนโลยีบล็อกเชน สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของสถาบันที่มีหน้าที่รับผิดชอบด้านนี้และเป็นผู้นำอุตสาหกรรม รวมถึงตลาดคริปโตเคอร์เรนซีและสินทรัพย์ดิจิทัล

ทะลายการหยุดชะงักของกฎระเบียบสหรัฐฯ

ผลการสำรวจของ Citi ชี้ให้เห็นว่า หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดที่ฉุดรั้งวิสัยทัศน์ด้านนี้ รวมทั้งการนำสินทรัพย์ดิจิทัลไปใช้อย่างแพร่หลายในอีกสามปีข้างหน้าคือ ความไม่แน่นอนของกฎระเบียบ ทั้งในแง่ของการกำกับดูแล กฎหมาย และความเสี่ยง[10]

บางที อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดนั้นอยู่ในสหรัฐฯ [11]เนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลยังไม่ให้ความชัดเจนใดๆ เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ตรงกันข้ามกับยุโรป[12]และเอเชีย[13]ที่มีแนวทางชัดเจนแล้ว

นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกายังชะลอการตัดสินใจเกี่ยวกับ[14] การออกใบอนุญาตให้กับกองทุน ETF ที่เชื่อมโยงกับบิตคอยน์แบบสปอตอย่างกองทุนของ Blackrock and Fidelity แต่กองทุน ETF แบบสปอตสำหรับบิตคอยน์กองแรกของยุโรป[15] เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนสิงหาคม

ที่น่าสังเกตก็คือ สหรัฐฯ มีกองทุน ETF ที่เกี่ยวกับคริปโตและบล็อกเชนหลายกองทุน ซึ่งติดอันดับท็อป 15 ของกองทุน ETF ที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในปีนี้[16] ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่สหรัฐฯ ออกใบอนุญาตให้กับกองทุน ETF ที่เชื่อมโยงกับบิตคอย์ เป็นไปได้ว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก

ข้อแตกต่างระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศพัฒนาอื่นๆ คาดว่าจะหายไปในไม่ช้า เพราะยิ่งสหรัฐฯ ล่าช้า ก็จะยิ่งผลักให้บริษัทและผู้สร้างนวัตกรรมออกไปนอกประเทศ[17] พอผู้คนลืมการล่มสลายของ FTX และคริปโตที่เกิดขึ้นไม่นานมานี้ไป หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ ก็จะพบว่าประเทศอื่นๆ ในโลกกำลังเดินหน้าโดยทิ้งสหรัฐฯ ไว้ข้างหลัง เมื่อถึงตอนนั้น เป็นไปได้ว่าสหรัฐฯ จะเปลี่ยนท่าที

แน่นอนว่า ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่มีความสำคัญต่อการนำคริปโตไปใช้อย่างแพร่หลาย เช่น การมีความรู้มากขึ้น การใช้งานร่วมกันได้ดีขึ้น โครงสร้างพื้นฐานที่ดีกว่าเดิม และความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งสุดท้ายแล้ว สิ่งเหล่านี้จะเข้าที่เข้าทางและสร้างสภาพแวดล้อมให้คริปโตกลายเป็นสกุลเงินกระแสหลัก

ตอบรับกระแสคริปโตด้วยสินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน

สำหรับตอนนี้ บางคนแย้งว่า แม้ว่าคริปโตจะอยู่มานานถึง 14 ปี แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระยะ “ตั้งไข่” คริปโตจำเป็นจะต้องได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายเสียก่อน จึงจะมีความสามารถมากพอที่จะรองรับกรณีการใช้งานที่น่าสนใจ เช่น เพิ่มประสิทธิภาพให้กับการชำระเงินระหว่างประเทศ ไปจนถึงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในโลกเสมือน

นักลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนจากมุมมองเกี่ยวกับการเปลี่ยนทิศทางการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐฯ ในปัจจุบัน และอนาคตของตลาดคริปโตเคอร์เรนซีโดยรวมในอนาคต สามารถพิจารณาขอสินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันได้ โดยสามารถใช้คริปโตหรือตราสารทุนของตัวเองเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อขอเงินทุนไปสร้างสภาพคล่อง และลงทุนหรือกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตโดยไม่เสียโอกาสในการรับผลตอบแทนเมื่อสินทรัพย์เหล่านั้นมีราคาสูงขึ้นในอนาคต

ดังนั้น สินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันจึงเป็นวิธีการที่สะดวก มีประสิทธิภาพ และยืดหยุ่น ช่วยให้นักลงทุนคว้าโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการพยากรณ์ว่าคริปโตยังอยู่ในระยะเริ่มแรกจริงๆ หรือไม่


[1] https://www.citibank.com/mss/docs/Citi_Securities_Services_Evolution_2023.pdf

[2] https://www.forbes.com/sites/davidbirch/2023/03/01/larry-fink-says-tokens-are-the-next-generation-for-markets/?sh=75e61e347bb1

[3] https://www.coindesk.com/business/2023/06/20/tokenization-could-be-a-5t-opportunity-led-by-stablecoins-and-cbdcs-bernstein/

[4] https://cryptonews.com/news/bank-of-america-forecasts-transformative-role-of-tokenization-finance.htm

[5] https://www.forbes.com/sites/roomykhan/2023/06/29/asset-tokenization-a-trillion-dollar-market-opportunity-jp-morgan-blackrock-and-goldman-think-so/?sh=40bf7cd64ff0

[6] https://cryptoslate.com/bny-mellon-focusing-on-digital-assets-sans-crypto-calls-tokenization-next-wave-of-securitization/

[7] https://www.bcg.com/publications/2022/relevance-of-on-chain-asset-tokenization

[8] https://www.ledgerinsights.com/hsbc-northern-trust-tokenized-by-2030/

[9] https://documents.addx.co/relevance_of_onchain_asset_tokenization_in_crypto_winter.pdf

[10] https://www.citibank.com/mss/docs/Citi_Securities_Services_Evolution_2023.pdf

[11] https://www.bloomberg.com/news/articles/2023-05-02/coinbase-international-exchange-launches-as-tensions-with-us-regulators-grow

[12] https://www.ogier.com/news-and-insights/insights/the-worlds-first-comprehensive-crypto-laws-have-been-approved-by-eu-parliament/#:~:text=To%20address%20this%20issue%2C%20the,into%20effect%20in%20July%202024.

[13] https://www.bloomberg.com/news/articles/2023-08-04/asia-s-crypto-regulatory-clarity-contrasts-with-disarray-in-us

[14] https://cointelegraph.com/news/bitcoin-etf-approval-2024

[15] https://finance.yahoo.com/news/first-spot-bitcoin-etf-europe-043122981.html#:~:text=Jacobi%20Asset%20Management%2C%20headquartered%20in,years%20after%20receiving%20initial%20approval.

[16] https://cryptopotato.com/this-figure-proves-us-is-lightyears-ahead-of-europe-on-crypto-adoption/

[17] https://www.nytimes.com/2023/06/07/technology/crypto-firms-start-looking-abroad-as-us-cracks-down.html

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ

ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้รับประกันผลตอบแทนในอนาคต และไม่มีการรับประกันหรือรับรองผลตอบแทนของแต่ละบุคคล

เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ได้รับการรับรอง นักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายอื่น ๆ กำหนดเท่านั้น และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นเนื้อหาที่มีลักษณะทั่วไปและไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์หรือความต้องการทางการเงินที่เฉพาะเจาะจงใด ๆ มุมมองและความคิดเห็นที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นโดยบุคคลที่ภายนอก และอาจไม่ได้สะท้อนมุมมองและความคิดเห็นของ EquitiesFirst นอกจากนี้ EquitiesFirst ไม่ได้ตรวจสอบหรือยืนยันข้อมูลที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ด้วยตนเอง และไม่ได้รับรองว่าข้อมูลดังกล่าวถูกต้องหรือสมบูรณ์ ความคิดเห็นและข้อมูลในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขาย (หรือการชักชวนให้ซื้อ) หลักทรัพย์ การลงทุน หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินใด ๆ (“ข้อเสนอ”) ข้อเสนอใด ๆ ดังกล่าวจะต้องดำเนินการผ่านการเสนอขายที่เกี่ยวข้องหรือเอกสารอื่น ๆ ที่มีการระบุข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เป็นสาระสำคัญไว้อย่างชัดเจนเท่านั้น ข้อมูลใด ๆ ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการแนะนำ การจูงใจ การเชิญชวน การโน้มน้าว การส่งเสริมการขาย หรือเป็นข้อเสนอให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์การลงทุนใด ๆ จาก Equities First Holdings, LLC หรือบริษัทย่อยของ Equities First Holdings, LLC (เรียกรวมกันว่า ” EquitiesFirst”) และไม่ควรตีความในทางใดทางหนึ่งว่าเอกสารฉบับนี้เป็นการแนะนำด้านการลงทุน กฎหมาย หรือภาษี รวมถึงการแนะนำ การอ้างอิง หรือการรับรองจาก EquitiesFirst ท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

เอกสารฉบับนี้ประกอบด้วยทรัพย์สินทางปัญญาของ EquitiesFirst ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงโลโก้ต่าง ๆ  และเครื่องหมายการค้าอื่น ๆ ทั้งที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียน ตลอดจนเครื่องหมายบริการที่เกี่ยวข้องตามลำดับ EquitiesFirst ขอสงวนสิทธิ์ทั้งหมดในทรัพย์สินทางปัญญาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่าย เผยแพร่ ทำซ้ำ หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้รับสามารถส่งต่อเนื้อหาทั้งหมดหรือบางส่วนของเอกสารฉบับนี้ไปยังผู้อื่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่ายให้แก่บุคคลในประเทศใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดกฎหมายหรือระเบียบอื่นใดที่เกี่ยวข้อง

EquitiesFirst ไม่รับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับเอกสารฉบับนี้ และขอปฏิเสธอย่างชัดแจ้งต่อการรับประกันโดยนัยใด ๆ ภายใต้กฎหมาย ท่านรับทราบว่า EquitiesFirst จะไม่ต้องรับผิดในทุกกรณี สำหรับความเสียหายทั้งทางตรง ทางอ้อม ที่เป็นกรณีพิเศษ ที่เป็นผลสืบเนื่อง โดยไม่เจตนา หรือที่เป็นการลงโทษ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการสูญเสียผลประโยชน์หรือการสูญเสียโอกาสใด ๆ แม้ว่า EquitiesFirst จะรับทราบถึงความเป็นไปได้ของความเสียหายดังกล่าวก็ตาม

EquitiesFirst ได้จัดทำคำแถลงการเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจบังคับใช้ในเขตอำนาจศาลที่ระบุไว้

ประเทศออสเตรเลีย: Equities First Holdings (Australia) Pty Ltd (หมายเลขทะเบียนบริษัท: 142 644 399) เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตบริการทางการเงินของประเทศออสเตรเลีย (หมายเลข AFSL: 387079) สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด

ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีไว้สำหรับบุคคลที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียและจัดเป็นลูกค้าสำหรับการค้าส่ง (Wholesale Client) ตามที่ระบุในมาตรา 761G แห่งพระราชบัญญัติบริษัท ค.ศ. 2001 (Corporations Act 2001)เท่านั้นการเผยแพร่ข้อมูลให้บุคคลอื่นใดที่มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดข้างต้นอาจมีข้อจำกัดตามกฎหมาย ทั้งนี้ บุคคลใดที่มีข้อมูลดังกล่าวในครอบครองควรเสาะหาคำแนะนำและทำความเข้าใจข้อจำกัดดังกล่าว เนื้อหาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น  และไม่ควรตีความว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อเสนอ การจูงใจ หรือคำแนะนำในการซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลในลักษณะทั่วไป และไม่ใช่คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินส่วนบุคคล คำแนะนำใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้เป็นคำแนะนำทั่วไปเท่านั้น และจัดทำขึ้นโดยไม่ได้คำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์หรือความต้องการทางการเงินของผู้ลงทุน ก่อนดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ ท่านควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าว และลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ และความต้องการทางการเงินของท่านท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเอง และอ่านคำแถลงการเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง หรือเอกสารข้อเสนออื่น ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

เขตบริหารพิเศษฮ่องกง: Equities First Holdings Hong Kong Limitedได้รับใบอนุญาตภายใต้กฎหมายผู้ให้กู้ยืมในฮ่องกง (หมายเลขใบอนุญาตผู้ให้กู้เลขที่ 1681/2023)และดำเนินธุรกิจด้านการจัดการกับหลักทรัพย์ (ใบอนุญาตประเภทที่ 1)ภายใต้กฎหมายการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกง (“SFO”) (หมายเลข CEเลขที่ BFJ407)เอกสารฉบับนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกงนอกจากนี้เอกสารฉบับนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเสนอการขายหลักทรัพย์ หรือชักจูงให้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่จัดการหรือจัดหาโดย Equities First Holdings Hong Kong Limitedแต่จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้ SFOเท่านั้นเอกสารฉบับนี้ไม่ได้ส่งถึงบุคคลหรือองค์กรที่จะทำให้ข้อเสนอหรือคำเชิญชวนดังกล่าวผิดกฎหมายหรือถูกต้องห้าม

ประเทศเกาหลี: เอกสารข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งมีความรู้และประสบการณ์เพียงพอต่อการทำธุรกรรมการจัดหาเงินทุนหลักทรัพย์เป็นการเฉพาะเจาะจง และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่ตรงตามข้อกำหนดข้างต้น

สหราชอาณาจักร: Equities First (London) Limited ได้รับการรับรองและควบคุมในสหราชอาณาจักรโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (” FCA”) ในสหราชอาณาจักร เอกสารฉบับนี้ได้แจกจ่ายให้แก่บุคคลที่มีลักษณะเป็นไปตามมาตรา 19(5) (นักลงทุนมืออาชีพ) และมาตรา 42(2) (บริษัทที่มีมูลค่าสุทธิสูง สมาคมอิสระ ฯลฯ) ในส่วนที่ 4 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่องบริการทางการเงินและตลาด ค.ศ. 2000 (การสนับสนุนทางการเงิน) คำสั่ง ค.ศ. 2005 (“FPO”) เท่านั้น และกิจกรรมการลงทุนใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอนี้จะใช้ได้เฉพาะกับบุคคลดังกล่าวและมีเพียงแค่บุคคลดังกล่าวเท่านั้นที่จะสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวได้ บุคคลที่ไม่มีประสบการณ์ระดับมืออาชีพในการลงทุน หรือบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามมาตรา 49 ของ FPO ไม่ควรใช้เอกสารนี้ เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้หน่วยงานที่ให้การกำกับการให้บริการด้านการลงทุนและผลิตภัณฑ์ทางการเงินในพื้นที่ภาคพื้นยุโรป (MiFID) เท่านั้น