เงินเฟ้อ เศรษฐกิจถดถอย และการหมุนเวียนภาคธุรกิจในการลงทุน: สร้างพอร์ตการลงทุนให้ตรงกับกระแสโลก
ถึงแม้จะมีสัญญาณว่าภาวะเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวลงหลังจากทำสถิติสูงสุดรอบ 40 ปีไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา[1] แต่นักลงทุนเห็นตรงกันว่าราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้นจะอยู่กับเราไปอีกระยะ ก่อนหน้านี้ไม่นาน Janet Yellen รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ได้ออกมายอมรับว่าเธอคิดผิดที่เคยบอกว่าเงินเฟ้อจะเกิดขึ้น “ไม่นาน”
เพราะ Yellen และนักวิเคราะห์อีกหลายรายคาดไม่ถึงว่าผลกระทบของโควิด 19 ที่เกิดขึ้นกับห่วงโซ่อุปทานจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเพราะผลกระทบต่อเนื่องจากสงครามในยูเครนต่อราคาอาหารและพลังงาน สถานการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้ธนาคารโลกต้องออกมาเตือนว่า โลกกำลังเสี่ยงต่อการเกิด “ภาวะเศรษฐกิจชะงักงันและเงินเฟ้อ” มากขึ้น โดยคำนี้ถูกนำมาใช้ตั้งแต่ยุค 1970 เพื่ออธิบายเศรษฐกิจที่มีภาวะเงินเฟ้อควบคู่ไปกับการเติบโตเป็นลบหรือซบเซา
นี่คือสถานการณ์ที่รอคอยความหวัง ดัชนีราคาจากรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) หลักของสหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่มีความผันผวนเพื่อให้บ่งชี้แรงกดดันต่อราคาได้ชัดเจนขึ้นซึ่งลดลงในเดือนมีนาคมและเมษายนหลังจากทำสถิติสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าเงินเฟ้อจะไต่ระดับเพิ่มขึ้นไปอีกสักพัก และแน่นอนว่าจะต้องสูงกว่า 1.5%-2% ที่กลายเป็นตัวเลขระดับปกติในช่วงที่เกิดโรคระบาดอย่างมาก[2]
ข้อสำคัญก็คือ ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดแรงกดดันด้านราคาอย่างยาวนานไม่ได้มีแค่การฟื้นตัวของการบริโภคหลังจากโรคระบาดและการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานเท่านั้น เพราะยังมีปัจจัยอย่างอื่นประกอบด้วย[3] อย่างแรกคือ การผันกลับของกระแสโลกาภิวัฒน์ท่ามกลางการขึ้นอัตราภาษีและความพยายามในการกระจายความเสี่ยงให้กับห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งทำให้สินค้านำเข้ายิ่งมีราคาแพงมากขึ้น อย่างที่สองคือจำนวนประชากรวัยทำงานในประเทศจีนที่ได้ชื่อว่าเป็นโรงงานผลิตของโลก กำลังลดลงอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2011 เนื่องจากประชากรในประเทศเข้าสู่วัยผู้สูงอายุมากขึ้น[4] ปัจจัยอย่างที่สามคือค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนมาดำเนินงานแบบปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ เนื่องจากโลกต้องการจำกัดการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และสุดท้ายคือการขาดแคลนที่อยู่อาศัยที่กดดันให้ราคายิ่งเพิ่มสูงขึ้น
โอกาสจากเงินเฟ้อ
ปัจจัยเหล่านี้เป็นเสมือนเชื้อเพลิงให้กับภาวะเงินเฟ้อ ทำให้คาดการณ์กันว่าอัตราดอกเบี้ยก็จะปรับเพิ่มขึ้นตามไปด้วย[5] และเพิ่มความเป็นไปได้ในการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยธนาคารกลางของสหรัฐฯ มองว่าโอกาสที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสี่ไตรมาสหน้าสูงกว่า 50% เล็กน้อย[6] นอกจากนี้ 70% ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ตอบแบบสำรวจความคิดเห็นของ Financial Times และ the University of Chicago Booth School of Business บอกว่าจะเกิดเศรษฐกิจถดถอยภายในปี 2023[7]
ทว่าปัจจัยสนับสนุนเงินเฟ้อเหล่านี้ก็เป็นสัญญาณให้นักลงทุนปรับพอร์ตของตัวเองเพื่อรับมือกับโอกาสที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจขาลงมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ตัวอย่าง เช่น การพยายามสร้างความยืดหยุ่นให้กับห่วงโซ่อุปทานและแรงงานจีนที่ลดจำนวนลง อาจเป็นโอกาสให้เวียดนามและประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้ามาแทนที่จีน
ซัพพลายเออร์ในภาคธุรกิจการรักษาพยาบาล รวมถึงเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแรงงาน ก็ได้ประโยชน์จากเทรนด์ประชากรสูงอายุเช่นกัน และถึงแม้ว่าหุ้นพลังงานแบบดั้งเดิมอาจจะให้ผลตอบแทนค่อนข้างดีในปีที่ผ่านมา สวนทางกับหุ้นพลังงานสะอาดและหุ้นเติบโตในภาพรวม แต่นี่อาจจะเปิดโอกาสให้การลงทุนในพลังงานหมุนเวียนกลับมาอยู่ในกระแสอีกครั้ง เนื่องจากมีการกลับมาให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ
ภาคธุรกิจอื่นๆ ที่เดิมถูกมองว่ารับมือกับภาวะเงินเฟ้อได้ดี ได้แก่ บริษัทสาธารณูปโภคที่จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ และบริษัทโลจิสติกส์ที่ให้บริการธุรกิจดังกล่าว ส่วนธนาคาร ผู้ให้สินเชื่อที่พักอาศัย และบริษัทประกันเองก็ได้กำไรจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังอาจจะอยากลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของเอกชนมากขึ้น โดยคาดการณ์ว่าความต้องการใช้อาคารในระยะยาวจะเป็นหลักประกันให้กับเงินเฟ้อได้ แต่ต้องคำนึงด้วยว่า ต้นทุนในการขอสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์อาจจะแพงขึ้น และมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่ตลาดจะปรับฐานราคาบ้านพักอาศัย
มองไกลและมองกว้างมากขึ้น
นอกจากนี้ นักลงทุนสามารถใช้โอกาสนี้พิจารณากระจายความเสี่ยงไปยังภูมิภาคต่างๆ ได้ ข้อสังเกตคือ เศรษฐกิจของสหรัฐฯ มุ่งไปทางไหน ที่อื่นๆ ส่วนใหญ่ในโลกก็มักจะตามไปด้วย ซึ่งธนาคารโลกได้ปรับตัวเลขการเติบโตคาดการณ์โดยคำนึงถึงข้อนี้ อย่างไรก็ตาม มีการคาดว่าเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือจะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2022 และ 2023[8]
ไม่ว่าสถานะของนักลงทุนในตอนนี้จะเป็นอย่างไร แต่การมองในระยะยาวโดยยังคงลงทุนสม่ำเสมอท่ามกลางตลาดขาลง แทนที่จะเทขายแล้วค่อยกลับมายังตลาดอีกครั้งในภายหลัง วิธีนี้มักจะสร้างผลตอบแทนได้อย่างน่าพอใจ[9]
สินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนท่ามกลางสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยที่ยังคงได้รับผลประโยชน์ในอนาคตของหุ้นที่ถืออยู่เดิม นอกจากนี้ การกู้ยืมที่มีค่าใช้จ่ายต่ำและคงที่ก็เป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจไม่น้อยในภาวะเงินเฟ้อ เนื่องจากมูลค่าภาระหนี้ของผู้กู้ยืมตามมูลค่าที่แท้จริง ณ ราคาปัจจุบันจะลดลง
ภาวะเงินเฟ้อในปัจจุบัน รวมถึงการคาดการณ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจถดถอยแน่นอนว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้ความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น แต่ในภาวะที่สินทรัพย์ราคาต่ำกว่าปกติแบบนี้ นักลงทุนที่มีไหวพริบจะค้นหาสินทรัพย์ที่ต่ำกว่ามูลค่าได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะในตลาดหุ้นหรือตลาดอื่นๆ ซึ่งสินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันจะช่วยให้นักลงทุนที่มีประสบการณ์สูงสร้างผลตอบแทนจากโอกาสเหล่านี้ได้
[1] https://www.reuters.com/markets/us/us-faces-unacceptable-levels-inflation-yellen-tells-senators-2022-06-07/
[2] https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-05-13/age-of-inflation-in-us-will-last-much-longer-than-pandemic-spike
[3] https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-05-13/age-of-inflation-in-us-will-last-much-longer-than-pandemic-spike
[4] https://www.chinadaily.com.cn/china/2016-11/21/content_27444998.htm
[5] https://www.reuters.com/markets/us/fed-seen-raising-us-interest-rates-further-battle-hot-inflation-2022-06-10/
[6] https://www.wsj.com/articles/fed-paper-finds-elevated-probability-of-recession-11655900645
[7] https://www.ft.com/content/1bd49ace-b741-455a-8499-a91828d7ad5c
[8] https://www.worldbank.org/en/news/press-release/2022/06/07/stagflation-risk-rises-amid-sharp-slowdown-in-growth-energy-markets
[9] https://www.morganstanley.com/articles/top-5-investor-mistakes
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ
ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้รับประกันผลตอบแทนในอนาคต และไม่มีการรับประกันหรือรับรองผลตอบแทนของแต่ละบุคคล
เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ได้รับการรับรอง นักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายอื่น ๆ กำหนดเท่านั้น และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นเนื้อหาที่มีลักษณะทั่วไปและไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์หรือความต้องการทางการเงินที่เฉพาะเจาะจงใด ๆ มุมมองและความคิดเห็นที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นโดยบุคคลที่ภายนอก และอาจไม่ได้สะท้อนมุมมองและความคิดเห็นของ EquitiesFirst นอกจากนี้ EquitiesFirst ไม่ได้ตรวจสอบหรือยืนยันข้อมูลที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ด้วยตนเอง และไม่ได้รับรองว่าข้อมูลดังกล่าวถูกต้องหรือสมบูรณ์ ความคิดเห็นและข้อมูลในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขาย (หรือการชักชวนให้ซื้อ) หลักทรัพย์ การลงทุน หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินใด ๆ (“ข้อเสนอ”) ข้อเสนอใด ๆ ดังกล่าวจะต้องดำเนินการผ่านการเสนอขายที่เกี่ยวข้องหรือเอกสารอื่น ๆ ที่มีการระบุข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เป็นสาระสำคัญไว้อย่างชัดเจนเท่านั้น ข้อมูลใด ๆ ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการแนะนำ การจูงใจ การเชิญชวน การโน้มน้าว การส่งเสริมการขาย หรือเป็นข้อเสนอให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์การลงทุนใด ๆ จาก Equities First Holdings, LLC หรือบริษัทย่อยของ Equities First Holdings, LLC (เรียกรวมกันว่า ” EquitiesFirst”) และไม่ควรตีความในทางใดทางหนึ่งว่าเอกสารฉบับนี้เป็นการแนะนำด้านการลงทุน กฎหมาย หรือภาษี รวมถึงการแนะนำ การอ้างอิง หรือการรับรองจาก EquitiesFirst ท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน
เอกสารฉบับนี้ประกอบด้วยทรัพย์สินทางปัญญาของ EquitiesFirst ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงโลโก้ต่าง ๆ และเครื่องหมายการค้าอื่น ๆ ทั้งที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียน ตลอดจนเครื่องหมายบริการที่เกี่ยวข้องตามลำดับ EquitiesFirst ขอสงวนสิทธิ์ทั้งหมดในทรัพย์สินทางปัญญาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่าย เผยแพร่ ทำซ้ำ หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้รับสามารถส่งต่อเนื้อหาทั้งหมดหรือบางส่วนของเอกสารฉบับนี้ไปยังผู้อื่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่ายให้แก่บุคคลในประเทศใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดกฎหมายหรือระเบียบอื่นใดที่เกี่ยวข้อง
EquitiesFirst ไม่รับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับเอกสารฉบับนี้ และขอปฏิเสธอย่างชัดแจ้งต่อการรับประกันโดยนัยใด ๆ ภายใต้กฎหมาย ท่านรับทราบว่า EquitiesFirst จะไม่ต้องรับผิดในทุกกรณี สำหรับความเสียหายทั้งทางตรง ทางอ้อม ที่เป็นกรณีพิเศษ ที่เป็นผลสืบเนื่อง โดยไม่เจตนา หรือที่เป็นการลงโทษ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการสูญเสียผลประโยชน์หรือการสูญเสียโอกาสใด ๆ แม้ว่า EquitiesFirst จะรับทราบถึงความเป็นไปได้ของความเสียหายดังกล่าวก็ตาม
EquitiesFirst ได้จัดทำคำแถลงการเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจบังคับใช้ในเขตอำนาจศาลที่ระบุไว้
ประเทศออสเตรเลีย: Equities First Holdings (Australia) Pty Ltd (หมายเลขทะเบียนบริษัท: 142 644 399) เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตบริการทางการเงินของประเทศออสเตรเลีย (หมายเลข AFSL: 387079) สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด
ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีไว้สำหรับบุคคลที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียและจัดเป็นลูกค้าสำหรับการค้าส่ง (Wholesale Client) ตามที่ระบุในมาตรา 761G แห่งพระราชบัญญัติบริษัท ค.ศ. 2001 (Corporations Act 2001)เท่านั้นการเผยแพร่ข้อมูลให้บุคคลอื่นใดที่มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดข้างต้นอาจมีข้อจำกัดตามกฎหมาย ทั้งนี้ บุคคลใดที่มีข้อมูลดังกล่าวในครอบครองควรเสาะหาคำแนะนำและทำความเข้าใจข้อจำกัดดังกล่าว เนื้อหาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรตีความว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อเสนอ การจูงใจ หรือคำแนะนำในการซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลในลักษณะทั่วไป และไม่ใช่คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินส่วนบุคคล คำแนะนำใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้เป็นคำแนะนำทั่วไปเท่านั้น และจัดทำขึ้นโดยไม่ได้คำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์หรือความต้องการทางการเงินของผู้ลงทุน ก่อนดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ ท่านควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าว และลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ และความต้องการทางการเงินของท่านท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเอง และอ่านคำแถลงการเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง หรือเอกสารข้อเสนออื่น ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน
ดูไบ: Equities First Holdings Hong Kong Ltd (สำนักงานตัวแทน DIFC) ตั้งอยู่ที่ Gate Precinct Building 4, 6th Floor, Office 7, Dubai International Financial Centre (เลขทะเบียนพาณิชย์ CL7354) อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Dubai Financial Services Authority (“DFSA”) ในฐานะสำนักงานตัวแทน (เลขที่อ้างอิงบริษัทของ DFSA: F008752) สงวนลิขสิทธิ์ ข้อมูลที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อการใช้งานโดยทั่วไป หากมีเนื้อหาส่วนใดที่อาจเข้าใจว่าเป็นคำแนะนำ ให้ถือว่าคำแนะนำใดที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้เป็นเพียงคำแนะนำโดยทั่วไป ไม่ได้จัดทำขึ้นโดยพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน ความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือตามความต้องการของคุณ
เนื้อหาสาระที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นการให้คำแนะนำทางการเงิน อีกทั้งไม่ถือเป็นการเสนอหรือเชิญชวนหรือแนะนำให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินแต่อย่างใด ข้อมูลที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อการใช้งานโดยทั่วไป คำแนะนำใดที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้เป็นเพียงคำแนะนำโดยทั่วไป ไม่ได้จัดทำขึ้นโดยพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน ความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือตามความต้องการของคุณ ดังนั้นก่อนดำเนินการตามข้อมูลเหล่านี้ คุณควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลที่ให้ไว้ ตลอดจนลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องตามวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน และความต้องการของคุณ หากคุณไม่เข้าใจเนื้อหาในเอกสารฉบับนี้ โปรดขอคำปรึกษาจากที่ปรึกษาทางการเงินที่ได้รับอนุญาต
เอกสารฉบับนี้เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินซึ่งไม่อยู่ภายใต้ข้อบังคับใดหรือไม่จำเป็นต้องได้รับอนุมัติจาก DFSA และ DFSA ไม่มีหน้าที่ในการตรวจสอบหรือยืนยันเอกสารใดอันเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินนี้ อีกทั้ง DFSA ไม่ได้เป็นผู้อนุมัติเอกสารฉบับนี้หรือเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้อง รวมถึงไม่ได้ดำเนินมาตรการใดเพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ และไม่รับผิดชอบต่อข้อมูลดังกล่าว
เขตบริหารพิเศษฮ่องกง: Equities First Holdings Hong Kong Limitedได้รับใบอนุญาตภายใต้กฎหมายผู้ให้กู้ยืมในฮ่องกง (หมายเลขใบอนุญาตผู้ให้กู้เลขที่ 1659/2024)และดำเนินธุรกิจด้านการจัดการกับหลักทรัพย์ (ใบอนุญาตประเภทที่ 1)ภายใต้กฎหมายการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกง (“SFO”) (หมายเลข CEเลขที่ BFJ407)เอกสารฉบับนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกงนอกจากนี้เอกสารฉบับนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเสนอการขายหลักทรัพย์ หรือชักจูงให้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่จัดการหรือจัดหาโดย Equities First Holdings Hong Kong Limitedแต่จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้ SFOเท่านั้นเอกสารฉบับนี้ไม่ได้ส่งถึงบุคคลหรือองค์กรที่จะทำให้ข้อเสนอหรือคำเชิญชวนดังกล่าวผิดกฎหมายหรือถูกต้องห้าม
ประเทศเกาหลี: เอกสารข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งมีความรู้และประสบการณ์เพียงพอต่อการทำธุรกรรมการจัดหาเงินทุนหลักทรัพย์เป็นการเฉพาะเจาะจง และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่ตรงตามข้อกำหนดข้างต้น
สหราชอาณาจักร: Equities First (London) Limited ได้รับการรับรองและควบคุมในสหราชอาณาจักรโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (” FCA”) ในสหราชอาณาจักร เอกสารฉบับนี้ได้แจกจ่ายให้แก่บุคคลที่มีลักษณะเป็นไปตามมาตรา 19(5) (นักลงทุนมืออาชีพ) และมาตรา 42(2) (บริษัทที่มีมูลค่าสุทธิสูง สมาคมอิสระ ฯลฯ) ในส่วนที่ 4 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่องบริการทางการเงินและตลาด ค.ศ. 2000 (การสนับสนุนทางการเงิน) คำสั่ง ค.ศ. 2005 (“FPO”) เท่านั้น และกิจกรรมการลงทุนใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอนี้จะใช้ได้เฉพาะกับบุคคลดังกล่าวและมีเพียงแค่บุคคลดังกล่าวเท่านั้นที่จะสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวได้ บุคคลที่ไม่มีประสบการณ์ระดับมืออาชีพในการลงทุน หรือบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามมาตรา 49 ของ FPO ไม่ควรใช้เอกสารนี้ เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้หน่วยงานที่ให้การกำกับการให้บริการด้านการลงทุนและผลิตภัณฑ์ทางการเงินในพื้นที่ภาคพื้นยุโรป (MiFID) เท่านั้น