ลงทุนในหัวใจสำคัญของเอเชียเพื่อสร้างความยืดหยุ่นให้กับห่วงโซ่อุปทาน
ก่อนการระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ข้อกังวลเกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทานที่เด่นชัดที่สุดก็คืออัตราภาษีที่คาดเดาไม่ได้และการขึ้นค่าแรงในประเทศหลักๆ ที่เป็นแหล่งผลิต แต่โรคระบาดครั้งนี้แสดงให้เห็นความเสี่ยงต่อการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานที่ตรงไปตรงมากว่านั้นมาก และในปัจจุบัน สงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมถึงการล็อกดาวน์ในหลายๆ เมืองของจีนก็ทำให้ความเชื่อมั่นในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกยิ่งสั่นคลอนหนัก
การหยุดชะงักทั้งหมดที่เกิดขึ้นส่งผลให้บริษัทต่างๆ หันมาให้ความสำคัญกับความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานกันมากขึ้น แต่ว่าหนทางในการสร้างความยืดหยุ่นนั้นมีหลายวิธี ถึงอย่างนั้น แนวทางที่ได้รับความนิยมมีอยู่ 3 แบบด้วยกัน ได้แก่ การย้ายฐานการผลิตกลับเข้าประเทศ การย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศใกล้เคียง และการกระจายฐานการผลิต
วิธีแรกหรือการย้ายฐานการผลิตกลับเข้าประเทศหมายถึงการยกเลิกฐานการผลิตในต่างประเทศ แล้วนำกลับมายังประเทศของตัวเอง จริงๆ แล้ว บริษัทหลายแห่งในสหรัฐฯ เริ่มย้ายฐานการผลิตกลับมาในประเทศตั้งแต่ก่อนจะเกิดโรคระบาดแล้ว โดยมีจำนวนเพิ่มขึ้นในปี 2019 ซึ่งสาเหตุเกิดจากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนมีความตึงเครียดมากขึ้น[1]
ส่วนการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศใกล้เคียงคือการที่บริษัทย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง ไม่ใช่ย้ายกลับมายังประเทศของตัวเอง ตัวอย่างเช่น บริษัทสหรัฐฯ นิยมย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังเม็กซิโก ตอนแรก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะมีการเพิ่มค่าแรงการผลิตในจีน ทำให้ค่าแรงของจีนสูงกว่าเม็กซิโกในปี 2015[2]รวมถึงมีการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น แต่กระบวนการดังกล่าวเกิดขึ้นเร็วกว่าเดิมหลังจากเกิดการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานครั้งที่ผ่านมา ซึ่งมีสาเหตุมาจากมาตรการรับมือโรคระบาดของจีนและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น
ทำไมการกระจายฐานการผลิตถึงดีกว่า
กลยุทธ์เหล่านี้อาจจะไม่ได้แก้ไขปัญหาทุกอย่าง ผลการศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) พบว่าการกระจายฐานการผลิตให้มากขึ้นเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับห่วงโซ่อุปทาน[3] นักวิจัยของ IMF ไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกฐานการผลิตเดิมและย้ายกลับเข้าประเทศ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก เพราะในที่สุดแล้ว การใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียวไม่ได้ทำให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นมากขึ้นแต่อย่างใด แม้ว่าจะเก็บตะกร้าไว้ใกล้บ้านก็ตาม
การกระจายฐานการผลิตมีข้อดีหลายอย่างสำหรับบริษัทของจีน เพราะบริษัทจะได้รับประโยชน์จากค่าแรงที่มีราคาถูกกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย อีกทั้งยังได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากขึ้นด้วย ตัวอย่างเช่น BBK Electronics ที่ไม่ใช่ยี่ห้อสินค้าประจำบ้าน แต่กลับเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดของโลกนำหน้า Samsung และ Apple เนื่องจากได้รวมหลายแบรนด์เข้าด้วยกัน ทั้ง Oppo, Vivo, OnePlus และ Realme ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในมณฑลกวางตุ้งของจีนที่ได้ชื่อว่าเป็น “โรงงานของโลก” แต่ BKK ก็มีโรงงานกระจายอยู่ทั่วโลก โดยมีการผลิตเพียง 40% เท่านั้นที่เกิดขึ้นในประเทศจีน[4]
บางประเทศได้รับประโยชน์มากกว่าประเทศอื่นๆ จากการที่ธุรกิจต่างๆ หันมากระจายฐานการผลิตกันมากขึ้น โรงงานผลิตหลายแห่งที่ต้องใช้แรงงานจำนวนมากกำลังย้ายออกจากจีนไปยังเวียดนาม โดยมณฑลกวางตุ้งกับเวียดนามมีขนาดประชากรใกล้เคียงกัน รวมทั้งมีนโยบายที่เอื้อประโยชน์ให้กับนักลงทุนต่างประเทศและการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม แต่ข้อแตกต่างที่สำคัญก็คือ ค่าแรงขั้นต่ำในเวียดนามถูกกว่าค่าแรงในมณฑลกวางตุ้งเกือบครึ่ง[5]
แนวทางการจัดหาเงินทุนที่เปลี่ยนแปลงไป
อย่างไรก็ตาม หากบริษัทในเวียดนามและประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ต้องการจะได้รับประโยชน์จากความต้องการกระจายฐานการผลิตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประเทศเหล่านี้ต้องลงทุนในด้านขีดความสามารถ รวมถึงยกระดับทักษะของคนงาน
ส่วนบริษัทของจีนเองก็จำเป็นต้องพยายามยกระดับห่วงโซ่คุณค่าต่อไป เนื่องจากในอนาคตการผลิตจะกระจายไปทั่วภูมิภาคมากขึ้น โดยอาจจะต้องลงทุนเม็ดเงินจำนวนมหาศาลในเทคโนโลยีและทำการฝึกอบรมคนงานที่มีทักษะอยู่แล้ว วิธีนี้จะช่วยให้ผู้ผลิตชาวจีนสามารถย้ายขึ้นไปยังส่วนที่ทำกำไรได้มากขึ้นภายในห่วงโซ่อุปทานโดยไม่ถูกแทนที่
ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นทั่วโลกเร่งให้ธุรกิจต่างๆ กระจายฐานการผลิตภายในห่วงโซ่อุปทานเร็วขึ้น และยังส่งผลให้สภาพคล่องเกิดความท้าทายมากขึ้นด้วย ในสภาพการณ์เหล่านี้ การจัดหาเงินทุนแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันเป็นทางออกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนระยะยาวและผู้ประกอบการที่กำลังมองหาทางเพิ่มเงินทุนหรือลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ โดยไม่จำเป็นต้องขายสินทรัพย์ที่ตัวเองถือครองอยู่ในตลาดออกไป
การทำข้อตกลงการขายและการซื้อคืนกับ EquitiesFirst ช่วยให้ผู้ถือหุ้นระยะยาวสามารถเข้าถึงสภาพคล่องสำหรับนำมาเป็นเงินทุนในโครงการกระจายฐานการผลิตหรือโครงการอื่นๆ โดยที่ยังคงได้รับประโยชน์จากราคาหุ้นที่อาจจะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต เช่นเดียวกับห่วงโซ่อุปทานที่มีความยืดหยุ่น ประโยชน์ที่จะได้รับจากการเป็นเจ้าของหลักทรัพย์และปรัชญาการลงทุนในระยะยาวจะยิ่งเห็นได้ชัดเจนในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวน
[1] https://www.dw.com/en/why-us-companies-are-reshoring-their-business/a-60054515
[2] https://www.supplychaindive.com/news/charts-reshoring-supply-chains/581246/
[3] https://www.reuters.com/business/autos-transportation/diversify-global-supply-chains-dont-dismantle-them-imf-says-2022-04-12/
[4] https://macropolo.org/analysis/supply-chain-diversification-quitting-china-is-hard/
[5] Ibid.
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ
ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้รับประกันผลตอบแทนในอนาคต และไม่มีการรับประกันหรือรับรองผลตอบแทนของแต่ละบุคคล
เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ได้รับการรับรอง นักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายอื่น ๆ กำหนดเท่านั้น และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นเนื้อหาที่มีลักษณะทั่วไปและไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์หรือความต้องการทางการเงินที่เฉพาะเจาะจงใด ๆ มุมมองและความคิดเห็นที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นโดยบุคคลที่ภายนอก และอาจไม่ได้สะท้อนมุมมองและความคิดเห็นของ EquitiesFirst นอกจากนี้ EquitiesFirst ไม่ได้ตรวจสอบหรือยืนยันข้อมูลที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ด้วยตนเอง และไม่ได้รับรองว่าข้อมูลดังกล่าวถูกต้องหรือสมบูรณ์ ความคิดเห็นและข้อมูลในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขาย (หรือการชักชวนให้ซื้อ) หลักทรัพย์ การลงทุน หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินใด ๆ (“ข้อเสนอ”) ข้อเสนอใด ๆ ดังกล่าวจะต้องดำเนินการผ่านการเสนอขายที่เกี่ยวข้องหรือเอกสารอื่น ๆ ที่มีการระบุข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เป็นสาระสำคัญไว้อย่างชัดเจนเท่านั้น ข้อมูลใด ๆ ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการแนะนำ การจูงใจ การเชิญชวน การโน้มน้าว การส่งเสริมการขาย หรือเป็นข้อเสนอให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์การลงทุนใด ๆ จาก Equities First Holdings, LLC หรือบริษัทย่อยของ Equities First Holdings, LLC (เรียกรวมกันว่า ” EquitiesFirst”) และไม่ควรตีความในทางใดทางหนึ่งว่าเอกสารฉบับนี้เป็นการแนะนำด้านการลงทุน กฎหมาย หรือภาษี รวมถึงการแนะนำ การอ้างอิง หรือการรับรองจาก EquitiesFirst ท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน
เอกสารฉบับนี้ประกอบด้วยทรัพย์สินทางปัญญาของ EquitiesFirst ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงโลโก้ต่าง ๆ และเครื่องหมายการค้าอื่น ๆ ทั้งที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียน ตลอดจนเครื่องหมายบริการที่เกี่ยวข้องตามลำดับ EquitiesFirst ขอสงวนสิทธิ์ทั้งหมดในทรัพย์สินทางปัญญาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่าย เผยแพร่ ทำซ้ำ หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้รับสามารถส่งต่อเนื้อหาทั้งหมดหรือบางส่วนของเอกสารฉบับนี้ไปยังผู้อื่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่ายให้แก่บุคคลในประเทศใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดกฎหมายหรือระเบียบอื่นใดที่เกี่ยวข้อง
EquitiesFirst ไม่รับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับเอกสารฉบับนี้ และขอปฏิเสธอย่างชัดแจ้งต่อการรับประกันโดยนัยใด ๆ ภายใต้กฎหมาย ท่านรับทราบว่า EquitiesFirst จะไม่ต้องรับผิดในทุกกรณี สำหรับความเสียหายทั้งทางตรง ทางอ้อม ที่เป็นกรณีพิเศษ ที่เป็นผลสืบเนื่อง โดยไม่เจตนา หรือที่เป็นการลงโทษ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการสูญเสียผลประโยชน์หรือการสูญเสียโอกาสใด ๆ แม้ว่า EquitiesFirst จะรับทราบถึงความเป็นไปได้ของความเสียหายดังกล่าวก็ตาม
EquitiesFirst ได้จัดทำคำแถลงการเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจบังคับใช้ในเขตอำนาจศาลที่ระบุไว้
ประเทศออสเตรเลีย: Equities First Holdings (Australia) Pty Ltd (หมายเลขทะเบียนบริษัท: 142 644 399) เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตบริการทางการเงินของประเทศออสเตรเลีย (หมายเลข AFSL: 387079) สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด
ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีไว้สำหรับบุคคลที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียและจัดเป็นลูกค้าสำหรับการค้าส่ง (Wholesale Client) ตามที่ระบุในมาตรา 761G แห่งพระราชบัญญัติบริษัท ค.ศ. 2001 (Corporations Act 2001)เท่านั้นการเผยแพร่ข้อมูลให้บุคคลอื่นใดที่มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดข้างต้นอาจมีข้อจำกัดตามกฎหมาย ทั้งนี้ บุคคลใดที่มีข้อมูลดังกล่าวในครอบครองควรเสาะหาคำแนะนำและทำความเข้าใจข้อจำกัดดังกล่าว เนื้อหาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรตีความว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อเสนอ การจูงใจ หรือคำแนะนำในการซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลในลักษณะทั่วไป และไม่ใช่คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินส่วนบุคคล คำแนะนำใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้เป็นคำแนะนำทั่วไปเท่านั้น และจัดทำขึ้นโดยไม่ได้คำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์หรือความต้องการทางการเงินของผู้ลงทุน ก่อนดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ ท่านควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าว และลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ และความต้องการทางการเงินของท่านท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเอง และอ่านคำแถลงการเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง หรือเอกสารข้อเสนออื่น ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน
ดูไบ: Equities First Holdings Hong Kong Ltd (สำนักงานตัวแทน DIFC) ตั้งอยู่ที่ Gate Precinct Building 4, 6th Floor, Office 7, Dubai International Financial Centre (เลขทะเบียนพาณิชย์ CL7354) อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Dubai Financial Services Authority (“DFSA”) ในฐานะสำนักงานตัวแทน (เลขที่อ้างอิงบริษัทของ DFSA: F008752) สงวนลิขสิทธิ์ ข้อมูลที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อการใช้งานโดยทั่วไป หากมีเนื้อหาส่วนใดที่อาจเข้าใจว่าเป็นคำแนะนำ ให้ถือว่าคำแนะนำใดที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้เป็นเพียงคำแนะนำโดยทั่วไป ไม่ได้จัดทำขึ้นโดยพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน ความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือตามความต้องการของคุณ
เนื้อหาสาระที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นการให้คำแนะนำทางการเงิน อีกทั้งไม่ถือเป็นการเสนอหรือเชิญชวนหรือแนะนำให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินแต่อย่างใด ข้อมูลที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อการใช้งานโดยทั่วไป คำแนะนำใดที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้เป็นเพียงคำแนะนำโดยทั่วไป ไม่ได้จัดทำขึ้นโดยพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน ความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือตามความต้องการของคุณ ดังนั้นก่อนดำเนินการตามข้อมูลเหล่านี้ คุณควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลที่ให้ไว้ ตลอดจนลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องตามวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน และความต้องการของคุณ หากคุณไม่เข้าใจเนื้อหาในเอกสารฉบับนี้ โปรดขอคำปรึกษาจากที่ปรึกษาทางการเงินที่ได้รับอนุญาต
เอกสารฉบับนี้เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินซึ่งไม่อยู่ภายใต้ข้อบังคับใดหรือไม่จำเป็นต้องได้รับอนุมัติจาก DFSA และ DFSA ไม่มีหน้าที่ในการตรวจสอบหรือยืนยันเอกสารใดอันเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินนี้ อีกทั้ง DFSA ไม่ได้เป็นผู้อนุมัติเอกสารฉบับนี้หรือเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้อง รวมถึงไม่ได้ดำเนินมาตรการใดเพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ และไม่รับผิดชอบต่อข้อมูลดังกล่าว
เขตบริหารพิเศษฮ่องกง: Equities First Holdings Hong Kong Limitedได้รับใบอนุญาตภายใต้กฎหมายผู้ให้กู้ยืมในฮ่องกง (หมายเลขใบอนุญาตผู้ให้กู้เลขที่ 1659/2024)และดำเนินธุรกิจด้านการจัดการกับหลักทรัพย์ (ใบอนุญาตประเภทที่ 1)ภายใต้กฎหมายการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกง (“SFO”) (หมายเลข CEเลขที่ BFJ407)เอกสารฉบับนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกงนอกจากนี้เอกสารฉบับนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเสนอการขายหลักทรัพย์ หรือชักจูงให้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่จัดการหรือจัดหาโดย Equities First Holdings Hong Kong Limitedแต่จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้ SFOเท่านั้นเอกสารฉบับนี้ไม่ได้ส่งถึงบุคคลหรือองค์กรที่จะทำให้ข้อเสนอหรือคำเชิญชวนดังกล่าวผิดกฎหมายหรือถูกต้องห้าม
ประเทศเกาหลี: เอกสารข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งมีความรู้และประสบการณ์เพียงพอต่อการทำธุรกรรมการจัดหาเงินทุนหลักทรัพย์เป็นการเฉพาะเจาะจง และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่ตรงตามข้อกำหนดข้างต้น
สหราชอาณาจักร: Equities First (London) Limited ได้รับการรับรองและควบคุมในสหราชอาณาจักรโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (” FCA”) ในสหราชอาณาจักร เอกสารฉบับนี้ได้แจกจ่ายให้แก่บุคคลที่มีลักษณะเป็นไปตามมาตรา 19(5) (นักลงทุนมืออาชีพ) และมาตรา 42(2) (บริษัทที่มีมูลค่าสุทธิสูง สมาคมอิสระ ฯลฯ) ในส่วนที่ 4 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่องบริการทางการเงินและตลาด ค.ศ. 2000 (การสนับสนุนทางการเงิน) คำสั่ง ค.ศ. 2005 (“FPO”) เท่านั้น และกิจกรรมการลงทุนใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอนี้จะใช้ได้เฉพาะกับบุคคลดังกล่าวและมีเพียงแค่บุคคลดังกล่าวเท่านั้นที่จะสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวได้ บุคคลที่ไม่มีประสบการณ์ระดับมืออาชีพในการลงทุน หรือบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามมาตรา 49 ของ FPO ไม่ควรใช้เอกสารนี้ เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้หน่วยงานที่ให้การกำกับการให้บริการด้านการลงทุนและผลิตภัณฑ์ทางการเงินในพื้นที่ภาคพื้นยุโรป (MiFID) เท่านั้น