ปลดล็อกมูลค่าระยะยาวและเรื่องราวน่าพิศวงของทองแดง
สินทรัพย์ทุกประเภทต่างก็อ่อนไหวต่อความผันผวนในระยะสั้นเมื่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจระดับมหภาคและภูมิศาสตร์การเมืองทำให้นักลงทุนไขว้เขวและหลงลืมที่จะมองภาพรวม
ทองแดง รวมทั้งตลาดสินค้าโภคภัณฑ์โดยรวม ซบเซาลงจากการสูญเสียความเชื่อมั่นที่เกิดจากเงินเฟ้อสูง ความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน และการหยุดชะงักของนโยบาย Zero-Covid ในประเทศจีนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากราคาพุ่งขึ้นสูงสุดจนปิดที่ 11,000 ดอลลาร์ต่อตันในเดือนมีนาคม 2022 ภายในระยะเวลาแค่สี่เดือน ราคาของทองแดงก็ตกลงมามากกว่าหนึ่งในสาม มาอยู่ที่ประมาณ 7,500 ดอลลาร์ต่อตันเมื่อสิ้นสุดไตรมาสสาม[1]
ถึงแม้ว่าจะอยู่ในภาวะขาลง แต่นักวิเคราะห์ บริษัทขุดเหมือง และนักค้าโลหะเน้นย้ำว่า ตลาดทองแดง ซึ่งเป็นโลหะเก่าแก่ที่สุดที่มนุษยชาตินำมาใช้ประโยชน์ อาจจะกลายเป็นหนึ่งในสินค้าที่ขาดแคลนที่สุดเท่าที่เคยมีมา เนื่องจากอุปสงค์อาจจะสูงกว่าอุปทานในช่วงหลายสิบปีต่อจากนี้[2] ถึงแม้ Goldman Sachs จะยอมรับว่าแรงกดดันทางเศรษฐกิจในระยะสั้นจะทำให้ราคาทองแดงตกต่ำในปีนี้ แต่ก็เชื่อว่าราคาจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายในปี 2025 มาอยู่ที่ 15,000 ดอลลาร์ต่อตัน[3]
ไม่ได้สะท้อนความจำเป็นในการเปลี่ยนผ่านพลังงานดั้งเดิมไปสู่พลังงานสะอาด
การที่ราคาทองแดงร่วงลงอย่างหนักไม่ได้สะท้อนบทบาทพื้นฐานของทองแดงในการเปลี่ยนผ่านพลังงานดั้งเดิมไปสู่พลังงานสะอาด ซึ่งจะทำให้อุปทานของทองแดงในระยะยาวเป็นข้อกังวลที่จะสร้างแรงกดดันได้มากกว่าอุปสงค์ที่ลดลงชั่วคราว เพราะหากไม่ได้รับการแก้ไข ช่องว่างในอุปทานทองแดงที่กำลังขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ก็อาจจะทำให้การเปลี่ยนผ่านพลังงานหยุดชะงักลงได้[4]
รัฐบาลและองค์การพลังงานระหว่างประเทศได้แสดงความกังวลว่า อุปทานทองแดง รวมทั้งโลหะและแร่ธาตุอื่นๆ จะไม่เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการในการเปลี่ยนมาใช้ระบบพลังงานที่ต้องพึ่งพาแร่ธาตุอย่างมาก จากเดิมที่ต้องใช้ระบบพลังงานที่ต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงเป็นหลัก[5]
ในบรรดาแร่โลหะประเภทอื่นๆ ลิเธียมและโคบอลต์ได้รับความสนใจมากที่สุด ส่วนทองแดงมักจะถูกมองข้ามอยู่บ่อยครั้ง ทั้งที่มีการนำมาใช้ประโยชน์อย่างมากในยานพาหนะไฟฟ้า โครงสร้างพื้นฐานเพื่อการชาร์จไฟฟ้า แผงโซลาร์เซลล์ กังหันลม และแบตเตอรี่ คุณสมบัตินำไฟฟ้าของทองแดงทำให้โลหะชนิดนี้มีความสำคัญอย่างมากต่อการสร้างประจุไฟฟ้า โลหะชนิดเดียวที่นำไฟฟ้าได้ดีกว่าทองแดงเล็กน้อยคือเงิน ทว่ามีต้นทุนมากกว่าประมาณหนึ่งร้อยเท่า อันดับสามคือทองคำ แต่ประสิทธิภาพในการนำไฟฟ้าน้อยกว่ามาก
ราคาอ่อนแอทำให้การลงทุนน้อยกว่าที่ควรจะเป็น
ราคาทองแดงที่ร่วงลงมาทำให้โครงการทำเหมืองทองแดงที่วางแผนไว้ตกอยู่ในภาวะเสี่ยง เห็นได้จาก Newmont Corp ของสหรัฐที่ชะลอการตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการทำเหมืองทองแดงและทองคำในเปรูออกไปจนถึงปี 2024 และบริษัทอื่นๆ ก็น่าจะตัดสินใจแบบนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบระยะยาวต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก เนื่องจากการเริ่มทำเหมืองใหม่จนพร้อมขุดแร่ได้นั้นต้องใช้เวลาสิบปีขึ้นไป ดังนั้น นี่จะทำให้วิกฤติอุปทานของสินค้าโภคภัณฑ์ที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนมาตลอดหลายปียิ่งรุนแรงขึ้น
ปริมาณสินค้าในคลังทั่วโลกที่มีการติดตามโดยตลาดแลกเปลี่ยนทำสถิติเกือบต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคาดว่าจะลดลงอีก อย่างไรก็ตาม ประเทศจีนเดิมพันกับเทรนด์นี้ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยถือโอกาสตอนที่ราคาทองแดงตกเพิ่มปริมาณการนำเข้าทองแดงมาสำรองไว้ในประเทศ แล้วนำออกมาใช้ตอนราคาทองแดงปรับตัวขึ้นสองเท่าในระหว่างปี 2020 ถึง 2021 ซึ่งส่งผลทำให้รัฐบาล รวมทั้งภาคเอกชนต้องปล่อยทองแดงออกจากคลังเพื่อบรรเทาภาระทางการเงินของธุรกิจ[6]
จีนมองเห็นโอกาส
ปัจจุบันดูเหมือนว่าจีนจะเป็นตลาดเพียงแห่งเดียวที่มองสถานการณ์ของทองแดงในระยะยาว แม้ว่าอุปสงค์ทองแดงในระยะสั้นจะลดลงเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในระดับมหภาคและการซบเซาของภาคธุรกิจอสังริมทรัพย์ที่ต้องแบกรับหนี้จำนวนมหาศาล
นอกจากจะมองว่านี่เป็นโอกาสในการเพิ่มปริมาณทองแดงในคลังตอนที่ทองแดงราคาถูกแล้ว ความต้องการทองแดงของจีนยังเกิดจากการเติบโตของภาคธุรกิจพลังงานสะอาด ตัวอย่างเช่น ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นสองเท่าในเดือนสิงหาคม 2022 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ มูลค่าการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานกริดไฟฟ้ายังกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยนักวิเคราะห์พบว่าอุปสงค์ของทองแดงจากแหล่งใหม่ๆ นั้นสูงกว่าปริมาณอุปสงค์ที่ลดลงไปของปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบเก่าอย่างอสังหาริมทรัพย์เสียอีก
แน่นอนว่า มาตรการควบคุมโควิดอย่างต่อเนื่องของจีนคือหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลเสียต่อราคาทองแดงระหว่างประเทศ นักวิเคราะห์ของ ING คาดว่าอุปสงค์ทองแดงจะฟื้นตัวเมื่อจีนฟื้นจากโควิด[7] นอกจากนี้ นักวิจัยยังได้บันทึกแนวโน้มของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่จะ “ปรับตัวสูงกว่าเป้าหมาย” เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในระดับมหภาค[8] ดังนั้น เมื่อจีนฟื้นตัวและภาวะขาดแคลนทองแดงปรากฏชัดเจนมากขึ้น ราคาก็จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในทิศทางตรงข้ามกับในปัจจุบัน
มองระยะยาว
การจับจังหวะการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ไม่ได้ง่ายไปกว่าการลงทุนในหุ้น แต่นักลงทุนที่มองในระยะยาวจะได้รับประโยชน์จากการที่ตลาดไม่ได้สะท้อนบทบาทของทองแดงในกระแสการเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาด
สินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันจะช่วยให้นักลงทุนเพิ่มสภาพคล่องและใช้ประโยชน์จากภาวะตลาดที่ไม่เป็นไปตามความเป็นจริงเป็นระยะเวลาสั้นๆ อย่างนี้ได้ เนื่องจากทั้งโลกกำลังพยายามปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ผลกระทบของการเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดจะมอบโอกาสการลงทุนในระยะยาวในสินทรัพย์หลายกลุ่ม
สำหรับทองแดงนั้น S&P Global คาดว่ากระแสการเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดจะทำให้อุปสงค์ทองแดงเพิ่มขึ้นสองเท่าภายในปี 2035[9] ในขณะที่ BloombergNEF เชื่อว่า แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะทำให้อุปสงค์ของทองแดง “ชะลอตัว” ลงแต่ปริมาณการบริโภคที่คาดการณ์ไว้จนถึงปี 2040 ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ได้รับผลกระทบ[10]
[1] https://www.lme.com/en/metals/non-ferrous/lme-copper#Price+graphs
[2] https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-09-21/copper-prices-fall-despite-signs-of-looming-crucial-metal-shortage#xj4y7vzkg
[3] https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-07-12/goldman-cuts-copper-outlook-as-energy-crisis-threatens-demand#xj4y7vzkg
[4] https://ihsmarkit.com/Info/0722/futureofcopper.html
[5] https://www.iea.org/reports/the-role-of-critical-minerals-in-clean-energy-transitions/the-state-of-play
[6] https://www.reuters.com/markets/commodities/copper-price-slump-brings-chinese-buyers-out-force-2022-09-27/
[7] https://think.ing.com/articles/copper-in-a-soft-patch-but-should-rally-once-china-recovers-from-covid
[8] https://www.nber.org/papers/w1121
[9] https://ihsmarkit.com/Info/0722/futureofcopper.html
[10] https://about.bnef.com/blog/coppers-miners-eye-ma-as-clean-energy-drives-supply-gap/
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ
ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้รับประกันผลตอบแทนในอนาคต และไม่มีการรับประกันหรือรับรองผลตอบแทนของแต่ละบุคคล
เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ได้รับการรับรอง นักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายอื่น ๆ กำหนดเท่านั้น และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นเนื้อหาที่มีลักษณะทั่วไปและไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์หรือความต้องการทางการเงินที่เฉพาะเจาะจงใด ๆ มุมมองและความคิดเห็นที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นโดยบุคคลที่ภายนอก และอาจไม่ได้สะท้อนมุมมองและความคิดเห็นของ EquitiesFirst นอกจากนี้ EquitiesFirst ไม่ได้ตรวจสอบหรือยืนยันข้อมูลที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ด้วยตนเอง และไม่ได้รับรองว่าข้อมูลดังกล่าวถูกต้องหรือสมบูรณ์ ความคิดเห็นและข้อมูลในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขาย (หรือการชักชวนให้ซื้อ) หลักทรัพย์ การลงทุน หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินใด ๆ (“ข้อเสนอ”) ข้อเสนอใด ๆ ดังกล่าวจะต้องดำเนินการผ่านการเสนอขายที่เกี่ยวข้องหรือเอกสารอื่น ๆ ที่มีการระบุข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เป็นสาระสำคัญไว้อย่างชัดเจนเท่านั้น ข้อมูลใด ๆ ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการแนะนำ การจูงใจ การเชิญชวน การโน้มน้าว การส่งเสริมการขาย หรือเป็นข้อเสนอให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์การลงทุนใด ๆ จาก Equities First Holdings, LLC หรือบริษัทย่อยของ Equities First Holdings, LLC (เรียกรวมกันว่า ” EquitiesFirst”) และไม่ควรตีความในทางใดทางหนึ่งว่าเอกสารฉบับนี้เป็นการแนะนำด้านการลงทุน กฎหมาย หรือภาษี รวมถึงการแนะนำ การอ้างอิง หรือการรับรองจาก EquitiesFirst ท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน
เอกสารฉบับนี้ประกอบด้วยทรัพย์สินทางปัญญาของ EquitiesFirst ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงโลโก้ต่าง ๆ และเครื่องหมายการค้าอื่น ๆ ทั้งที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียน ตลอดจนเครื่องหมายบริการที่เกี่ยวข้องตามลำดับ EquitiesFirst ขอสงวนสิทธิ์ทั้งหมดในทรัพย์สินทางปัญญาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่าย เผยแพร่ ทำซ้ำ หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้รับสามารถส่งต่อเนื้อหาทั้งหมดหรือบางส่วนของเอกสารฉบับนี้ไปยังผู้อื่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่ายให้แก่บุคคลในประเทศใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดกฎหมายหรือระเบียบอื่นใดที่เกี่ยวข้อง
EquitiesFirst ไม่รับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับเอกสารฉบับนี้ และขอปฏิเสธอย่างชัดแจ้งต่อการรับประกันโดยนัยใด ๆ ภายใต้กฎหมาย ท่านรับทราบว่า EquitiesFirst จะไม่ต้องรับผิดในทุกกรณี สำหรับความเสียหายทั้งทางตรง ทางอ้อม ที่เป็นกรณีพิเศษ ที่เป็นผลสืบเนื่อง โดยไม่เจตนา หรือที่เป็นการลงโทษ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการสูญเสียผลประโยชน์หรือการสูญเสียโอกาสใด ๆ แม้ว่า EquitiesFirst จะรับทราบถึงความเป็นไปได้ของความเสียหายดังกล่าวก็ตาม
EquitiesFirst ได้จัดทำคำแถลงการเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจบังคับใช้ในเขตอำนาจศาลที่ระบุไว้
ประเทศออสเตรเลีย: Equities First Holdings (Australia) Pty Ltd (หมายเลขทะเบียนบริษัท: 142 644 399) เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตบริการทางการเงินของประเทศออสเตรเลีย (หมายเลข AFSL: 387079) สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด
ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีไว้สำหรับบุคคลที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียและจัดเป็นลูกค้าสำหรับการค้าส่ง (Wholesale Client) ตามที่ระบุในมาตรา 761G แห่งพระราชบัญญัติบริษัท ค.ศ. 2001 (Corporations Act 2001)เท่านั้นการเผยแพร่ข้อมูลให้บุคคลอื่นใดที่มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดข้างต้นอาจมีข้อจำกัดตามกฎหมาย ทั้งนี้ บุคคลใดที่มีข้อมูลดังกล่าวในครอบครองควรเสาะหาคำแนะนำและทำความเข้าใจข้อจำกัดดังกล่าว เนื้อหาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรตีความว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อเสนอ การจูงใจ หรือคำแนะนำในการซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลในลักษณะทั่วไป และไม่ใช่คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินส่วนบุคคล คำแนะนำใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้เป็นคำแนะนำทั่วไปเท่านั้น และจัดทำขึ้นโดยไม่ได้คำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์หรือความต้องการทางการเงินของผู้ลงทุน ก่อนดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ ท่านควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าว และลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ และความต้องการทางการเงินของท่านท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเอง และอ่านคำแถลงการเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง หรือเอกสารข้อเสนออื่น ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน
ดูไบ: Equities First Holdings Hong Kong Ltd (สำนักงานตัวแทน DIFC) ตั้งอยู่ที่ Gate Precinct Building 4, 6th Floor, Office 7, Dubai International Financial Centre (เลขทะเบียนพาณิชย์ CL7354) อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Dubai Financial Services Authority (“DFSA”) ในฐานะสำนักงานตัวแทน (เลขที่อ้างอิงบริษัทของ DFSA: F008752) สงวนลิขสิทธิ์ ข้อมูลที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อการใช้งานโดยทั่วไป หากมีเนื้อหาส่วนใดที่อาจเข้าใจว่าเป็นคำแนะนำ ให้ถือว่าคำแนะนำใดที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้เป็นเพียงคำแนะนำโดยทั่วไป ไม่ได้จัดทำขึ้นโดยพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน ความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือตามความต้องการของคุณ
เนื้อหาสาระที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นการให้คำแนะนำทางการเงิน อีกทั้งไม่ถือเป็นการเสนอหรือเชิญชวนหรือแนะนำให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินแต่อย่างใด ข้อมูลที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อการใช้งานโดยทั่วไป คำแนะนำใดที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้เป็นเพียงคำแนะนำโดยทั่วไป ไม่ได้จัดทำขึ้นโดยพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน ความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือตามความต้องการของคุณ ดังนั้นก่อนดำเนินการตามข้อมูลเหล่านี้ คุณควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลที่ให้ไว้ ตลอดจนลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องตามวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน และความต้องการของคุณ หากคุณไม่เข้าใจเนื้อหาในเอกสารฉบับนี้ โปรดขอคำปรึกษาจากที่ปรึกษาทางการเงินที่ได้รับอนุญาต
เอกสารฉบับนี้เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินซึ่งไม่อยู่ภายใต้ข้อบังคับใดหรือไม่จำเป็นต้องได้รับอนุมัติจาก DFSA และ DFSA ไม่มีหน้าที่ในการตรวจสอบหรือยืนยันเอกสารใดอันเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินนี้ อีกทั้ง DFSA ไม่ได้เป็นผู้อนุมัติเอกสารฉบับนี้หรือเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้อง รวมถึงไม่ได้ดำเนินมาตรการใดเพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ และไม่รับผิดชอบต่อข้อมูลดังกล่าว
เขตบริหารพิเศษฮ่องกง: Equities First Holdings Hong Kong Limitedได้รับใบอนุญาตภายใต้กฎหมายผู้ให้กู้ยืมในฮ่องกง (หมายเลขใบอนุญาตผู้ให้กู้เลขที่ 1659/2024)และดำเนินธุรกิจด้านการจัดการกับหลักทรัพย์ (ใบอนุญาตประเภทที่ 1)ภายใต้กฎหมายการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกง (“SFO”) (หมายเลข CEเลขที่ BFJ407)เอกสารฉบับนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกงนอกจากนี้เอกสารฉบับนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเสนอการขายหลักทรัพย์ หรือชักจูงให้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่จัดการหรือจัดหาโดย Equities First Holdings Hong Kong Limitedแต่จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้ SFOเท่านั้นเอกสารฉบับนี้ไม่ได้ส่งถึงบุคคลหรือองค์กรที่จะทำให้ข้อเสนอหรือคำเชิญชวนดังกล่าวผิดกฎหมายหรือถูกต้องห้าม
ประเทศเกาหลี: เอกสารข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งมีความรู้และประสบการณ์เพียงพอต่อการทำธุรกรรมการจัดหาเงินทุนหลักทรัพย์เป็นการเฉพาะเจาะจง และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่ตรงตามข้อกำหนดข้างต้น
สหราชอาณาจักร: Equities First (London) Limited ได้รับการรับรองและควบคุมในสหราชอาณาจักรโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (” FCA”) ในสหราชอาณาจักร เอกสารฉบับนี้ได้แจกจ่ายให้แก่บุคคลที่มีลักษณะเป็นไปตามมาตรา 19(5) (นักลงทุนมืออาชีพ) และมาตรา 42(2) (บริษัทที่มีมูลค่าสุทธิสูง สมาคมอิสระ ฯลฯ) ในส่วนที่ 4 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่องบริการทางการเงินและตลาด ค.ศ. 2000 (การสนับสนุนทางการเงิน) คำสั่ง ค.ศ. 2005 (“FPO”) เท่านั้น และกิจกรรมการลงทุนใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอนี้จะใช้ได้เฉพาะกับบุคคลดังกล่าวและมีเพียงแค่บุคคลดังกล่าวเท่านั้นที่จะสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวได้ บุคคลที่ไม่มีประสบการณ์ระดับมืออาชีพในการลงทุน หรือบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามมาตรา 49 ของ FPO ไม่ควรใช้เอกสารนี้ เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้หน่วยงานที่ให้การกำกับการให้บริการด้านการลงทุนและผลิตภัณฑ์ทางการเงินในพื้นที่ภาคพื้นยุโรป (MiFID) เท่านั้น