สินทรัพย์นอกตลาดคือหัวใจหลักของการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน

สินทรัพย์นอกตลาด หรือสินทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ กำลังขับเคลื่อนการลงทุนส่วนใหญ่ในเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับการต่อสู้กับวิกฤติสภาพอากาศ

จากรายงานของ BloombergNEF การลงทุนใหม่ๆ ในภาคธุรกิจพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกเพิ่มขึ้น 13% ในปี 2022 โดยมูลค่าปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 532 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[1] ตราสารหนี้นอกตลาดและการลงทุนในภาคเอกชนรวมกันแล้วคิดเป็นสัดส่วน 93% โดยอยู่ในรูปของสินเชื่อแบบใช้สินทรัพย์ค้ำประกันและโครงการโซลาร์ขนาดเล็ก ในทางตรงกันข้าม การลงทุนในสินทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดรวมกันแล้วคิดเป็นสัดส่วนแค่ 3.3% เท่านั้น[2]

พูดง่ายๆ ก็คือสินทรัพย์นอกตลาดมอบเส้นทางที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็วที่สุดให้แก่นักลงทุนที่ต้องการโอกาสสร้างผลตอบแทนจากภาคธุรกิจพลังงานหมุนเวียน รวมทั้งช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ไม่เพียงเท่านั้น สินทรัพย์นอกตลาดยังมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการมอบเงินทุนให้กับธุรกิจระยะเริ่มต้นที่กำลังคิดค้นแนวทางแก้ไขปัญหาสภาพอากาศ เพราะช่วยให้นักลงทุนได้สังเกตการดำเนินงานของโปรเจ็กต์อย่างใกล้ชิด ซึ่งโปรเจ็กต์เหล่านี้ไม่เพียงช่วยปกป้องเราในอนาคต แต่ยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนอย่างงามในระยะยาวด้วย

การวิเคราะห์สถานการณ์โดย International Energy Agency ได้ข้อสรุปว่า หากต้องการให้เป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ทั่วโลกสำเร็จภายในปี 2050 การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเกือบครึ่งหนึ่งจะต้องมาจากเทคโนโลยีที่ยังไม่ได้นำไปปรับใช้กันอย่างแพร่งหลายในเชิงพาณิชย์ เทคโนโลยีเหล่านี้จำนวนมากอยู่ระหว่างการพัฒนาโดยบริษัทต่างๆ ที่ยังถือเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ไม่ใช่บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และยังไม่สามารถทำกำไรได้ ซึ่งแหล่งเงินทุนหลักของบริษัทเหล่านี้ก็คือตราสารทุนและตราสารหนี้นอกตลาดนั่นเอง

ที่มาของรูปภาพ: https://privatebank.jpmorgan.com/gl/en/insights/investing/the-energy-transition-is-ramping-up-investors-should-take-note

โอกาสครั้งสำคัญ

การเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดคาดว่าจะต้องใช้เงินทุนตั้งแต่ 119-194 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2050[3] ดังนั้น สินทรัพย์นอกตลาดจึงต้องยกระดับตัวเองขึ้นไปอีกเพื่อให้ตรงกับความต้องการลงทุนด้านสภาพอากาศที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ

ตราสารหนี้นอกตลาดกำลังเร่งเข้ามาปิดช่องว่างตรงนี้ เมื่อไม่นานมานี้ Blackstone บริษัทจัดการการลงทุนทางเลือกชั้นนำ ได้ปิดดีลกองทุนตราสารหนี้นอกตลาดเพื่อการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมีมูลค่ากว่า 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[4] ไม่เพียงเท่านั้น BlackRock ยังซื้อกิจการ Kreos Capital หนึ่งในผู้ปล่อยสินเชื่อรายใหญ่ที่สุดของยุโรปที่อนุมัติเงินทุนให้แก่ธุรกิจสตาร์ทอัพและบริษัทที่มีอัตราการเติบโตสูง[5]

นอกจากนี้ บริษัทการลงทุนระดับโลกอย่าง KKR & Co ก็ซื้อสินเชื่อพลังงานแสงอาทิตย์มูลค่า 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่อนุมัติให้กับธุรกิจสตาร์ทอัพในสหรัฐอเมริกาอย่าง SunPower Corp. ซึ่งนำเสนอโซลูชันที่ช่วยให้เจ้าของบ้านติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายล่วงหน้าจำนวนมหาศาล[6]

ส่วน Ares Management Corp. และ Copenhagen Infrastructure Partners ก็เพิ่งเปิดตัวกองทุนตราสารหนี้นอกตลาดขนาดใหญ่ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นภาคธุรกิจพลังงานหมุนเวียน

ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น เพราะ S&P Global ยังรายงานว่าผู้ให้บริการตราสารหนี้นอกตลาดยังจับมือกับธนาคารหลายแห่งเพื่อออกสินเชื่อให้กับโปรเจ็กต์เกี่ยวกับพลังงานหมุนเวียน รวมถึงโปรเจ็กต์พลังงานน้ำขนาดใหญ่บนชายฝั่งอ่าวของสหรัฐอเมริกาที่ประสบปัญหาในการขอสินเชื่อเนื่องจากธนาคารชะลอการปล่อยกู้ ตราสารหนี้นอกตลาดเข้ามารับความเสี่ยงบางอย่างที่สถาบันการเงินแบบดั้งเดิมลังเลที่จะแบกรับในสถานการณ์ตลาดปัจจุบัน ทำให้โปรเจ็กต์เหล่านี้มีความสามารถในการสร้างกำไรจนเพียงพอที่จะดึงดูดแหล่งเงินทุนอื่น ๆ จากผู้ให้สินเชื่อกระแสหลัก และดำเนินงานได้อย่างมั่นคงในที่สุด[7]

จับกระแสการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนด้วยสินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน

การลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาดที่มีเป้าหมายในการส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานจะได้รับประโยชน์จากแรงหนุนที่สำคัญสองประการ

ประการแรกคือปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ปัจจุบัน พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมถูกกว่าพลังงานฟอสซิลแล้วในหลายๆ ส่วนของโลก ซึ่งค่าใช้จ่ายที่ลดลงอย่างต่อเนื่องนี้นี้จะช่วยให้เทคโนโลยีที่มีพลังเปลี่ยนโลกอย่างกรีนไฮโดรเจนมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่จะอยู่รอดจนนำมาใช้ได้จริง

ประการที่สองคือ ผลจากการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพอากาศมองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น รัฐบาลของประเทศใหญ่ๆ จึงอาจจะหันมาใช้กฎหมายที่เข้มงวดมากขึ้นและเสนอรางวัลจูงใจมากกว่าเดิมเพื่อเร่งให้เกิดการเปลี่ยนมาใช้แหล่งพลังงานที่สะอาดมากขึ้น ตัวอย่างเช่น เมื่อปีที่แล้วประธานาธิบดี Biden ได้ประกาศใช้กฎหมายลดเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมอบสิ่งจูงใจให้กับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและบริษัทพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ ในช่วงหลายสิบปีนับจากนี้

บุคคลธรรมดาเองก็สามารถเข้าถึงตราสารหนี้ภาคเอกชนรูปแบบใหม่ๆ ได้เช่นกัน เพื่อสมัครขอสินเชื่อสำหรับการติดตั้งระบบพลังงงานหมุนเวียนขนาดเล็ก แล้วร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เพื่อบรรเทาผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ตัวอย่างเช่น ในคู่มือของ SunPower เจ้าของบ้านและธุรกิจสามารถขอสินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันของ EquitiesFirst เพื่อนำเงินทุนที่ได้ไปติดตั้งแผงโซลาเซลล์ที่จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนและประหยัดค่าไฟฟ้าได้

หากมองในมุมกว้างกว่านั้น สินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันยังเป็นทางเลือกที่สะดวกและยืดหยุ่นสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการนำตราสารทุนหรือคริปโตที่ถือครองอยู่มาใช้เป็นหลักประกันในการเข้าถึงเงินทุนสร้างสภาพคล่อง เพื่อคว้าโอกาสลงทุนกับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่กำลังมาแรง โดยที่จะยังคงได้รับผลกำไรในกรณีที่สินทรัพย์เหล่านั้นมีราคาสูงขึ้น

ในบรรดาโอกาสเหล่านี้ สิ่งที่น่าสังเกตก็คือ การลงทุนในยานพาหนะไฟฟ้าเมื่อปีที่แล้วเกือบจะเทียบเท่ากับการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนเลยทีเดียว ส่วนเทคโนโลยีการกักเก็บพลังงานก็ดูเหมือนจะมีอัตราส่วนการลงทุนเติบโตขึ้นอย่างมาก เพราะหนึ่งในอุปสรรคสำคัญของการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้อย่างแพร่หลายก็คือปัญหาการกักเก็บพลังงาน

จริงๆ แล้วการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานเป็นแนวคิดการลงทุนที่สำคัญมาก เพราะไม่ใช่แค่ส่งผลขยายไปยังทุกภาคธุรกิจในระบบเศรษฐกิจ แต่ยังได้รับประโยชน์จากกฎหมายและสภาพการณ์ของตลาดที่เอื้ออำนวยด้วย ในช่วงเวลาที่สถาบันการเงินแบบเก่าไม่กล้าปล่อยสินเชื่อให้กับโครงการเหล่านี้ สินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันจึงเป็นวิธีการที่น่าสนใจอย่างยิ่งในการส่งเสริมให้การเปลี่ยนแปลงนี้เดินหน้าต่อไป


[1] https://about.bnef.com/new-energy-outlook-series/

[2] https://www.alliancebernstein.com/n-europe/en-gb/institutions/insights/investment-insights/how-private-assets-can-empower-the-energy-transition.html

[3] https://about.bnef.com/new-energy-outlook-series/

[4] https://www.blackstone.com/news/press/blackstone-closes-record-energy-transition-private-credit-fund-at-over-7-billion/

[5] https://www.blackrock.com/corporate/newsroom/press-releases/article/corporate-one/press-releases/blackrock-to-acquire-kreos-capital

[6] https://www.spglobal.com/marketintelligence/en/news-insights/latest-news-headlines/private-credit-eyes-renewable-energy-ops-permira-direct-lending-fund-hits-8364-4-2b-76171377

[7] https://www.spglobal.com/marketintelligence/en/news-insights/latest-news-headlines/private-credit-eyes-renewable-energy-ops-permira-direct-lending-fund-hits-8364-4-2b-76171377

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ

ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้รับประกันผลตอบแทนในอนาคต และไม่มีการรับประกันหรือรับรองผลตอบแทนของแต่ละบุคคล

เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ได้รับการรับรอง นักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายอื่น ๆ กำหนดเท่านั้น และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นเนื้อหาที่มีลักษณะทั่วไปและไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์หรือความต้องการทางการเงินที่เฉพาะเจาะจงใด ๆ มุมมองและความคิดเห็นที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นโดยบุคคลที่ภายนอก และอาจไม่ได้สะท้อนมุมมองและความคิดเห็นของ EquitiesFirst นอกจากนี้ EquitiesFirst ไม่ได้ตรวจสอบหรือยืนยันข้อมูลที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ด้วยตนเอง และไม่ได้รับรองว่าข้อมูลดังกล่าวถูกต้องหรือสมบูรณ์ ความคิดเห็นและข้อมูลในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขาย (หรือการชักชวนให้ซื้อ) หลักทรัพย์ การลงทุน หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินใด ๆ (“ข้อเสนอ”) ข้อเสนอใด ๆ ดังกล่าวจะต้องดำเนินการผ่านการเสนอขายที่เกี่ยวข้องหรือเอกสารอื่น ๆ ที่มีการระบุข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เป็นสาระสำคัญไว้อย่างชัดเจนเท่านั้น ข้อมูลใด ๆ ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการแนะนำ การจูงใจ การเชิญชวน การโน้มน้าว การส่งเสริมการขาย หรือเป็นข้อเสนอให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์การลงทุนใด ๆ จาก Equities First Holdings, LLC หรือบริษัทย่อยของ Equities First Holdings, LLC (เรียกรวมกันว่า ” EquitiesFirst”) และไม่ควรตีความในทางใดทางหนึ่งว่าเอกสารฉบับนี้เป็นการแนะนำด้านการลงทุน กฎหมาย หรือภาษี รวมถึงการแนะนำ การอ้างอิง หรือการรับรองจาก EquitiesFirst ท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

เอกสารฉบับนี้ประกอบด้วยทรัพย์สินทางปัญญาของ EquitiesFirst ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงโลโก้ต่าง ๆ  และเครื่องหมายการค้าอื่น ๆ ทั้งที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียน ตลอดจนเครื่องหมายบริการที่เกี่ยวข้องตามลำดับ EquitiesFirst ขอสงวนสิทธิ์ทั้งหมดในทรัพย์สินทางปัญญาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่าย เผยแพร่ ทำซ้ำ หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้รับสามารถส่งต่อเนื้อหาทั้งหมดหรือบางส่วนของเอกสารฉบับนี้ไปยังผู้อื่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่ายให้แก่บุคคลในประเทศใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดกฎหมายหรือระเบียบอื่นใดที่เกี่ยวข้อง

EquitiesFirst ไม่รับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับเอกสารฉบับนี้ และขอปฏิเสธอย่างชัดแจ้งต่อการรับประกันโดยนัยใด ๆ ภายใต้กฎหมาย ท่านรับทราบว่า EquitiesFirst จะไม่ต้องรับผิดในทุกกรณี สำหรับความเสียหายทั้งทางตรง ทางอ้อม ที่เป็นกรณีพิเศษ ที่เป็นผลสืบเนื่อง โดยไม่เจตนา หรือที่เป็นการลงโทษ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการสูญเสียผลประโยชน์หรือการสูญเสียโอกาสใด ๆ แม้ว่า EquitiesFirst จะรับทราบถึงความเป็นไปได้ของความเสียหายดังกล่าวก็ตาม

EquitiesFirst ได้จัดทำคำแถลงการเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจบังคับใช้ในเขตอำนาจศาลที่ระบุไว้

ประเทศออสเตรเลีย: Equities First Holdings (Australia) Pty Ltd (หมายเลขทะเบียนบริษัท: 142 644 399) เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตบริการทางการเงินของประเทศออสเตรเลีย (หมายเลข AFSL: 387079) สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด

ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีไว้สำหรับบุคคลที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียและจัดเป็นลูกค้าสำหรับการค้าส่ง (Wholesale Client) ตามที่ระบุในมาตรา 761G แห่งพระราชบัญญัติบริษัท ค.ศ. 2001 (Corporations Act 2001)เท่านั้นการเผยแพร่ข้อมูลให้บุคคลอื่นใดที่มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดข้างต้นอาจมีข้อจำกัดตามกฎหมาย ทั้งนี้ บุคคลใดที่มีข้อมูลดังกล่าวในครอบครองควรเสาะหาคำแนะนำและทำความเข้าใจข้อจำกัดดังกล่าว เนื้อหาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น  และไม่ควรตีความว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อเสนอ การจูงใจ หรือคำแนะนำในการซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลในลักษณะทั่วไป และไม่ใช่คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินส่วนบุคคล คำแนะนำใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้เป็นคำแนะนำทั่วไปเท่านั้น และจัดทำขึ้นโดยไม่ได้คำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์หรือความต้องการทางการเงินของผู้ลงทุน ก่อนดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ ท่านควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าว และลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ และความต้องการทางการเงินของท่านท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเอง และอ่านคำแถลงการเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง หรือเอกสารข้อเสนออื่น ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

ดูไบ: Equities First Holdings Hong Kong Ltd (สำนักงานตัวแทน DIFC) ตั้งอยู่ที่ Gate Precinct Building 4, 6th Floor, Office 7, Dubai International Financial Centre (เลขทะเบียนพาณิชย์ CL7354) อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Dubai Financial Services Authority (“DFSA”) ในฐานะสำนักงานตัวแทน (เลขที่อ้างอิงบริษัทของ DFSA: F008752) สงวนลิขสิทธิ์ ข้อมูลที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อการใช้งานโดยทั่วไป หากมีเนื้อหาส่วนใดที่อาจเข้าใจว่าเป็นคำแนะนำ ให้ถือว่าคำแนะนำใดที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้เป็นเพียงคำแนะนำโดยทั่วไป ไม่ได้จัดทำขึ้นโดยพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน ความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือตามความต้องการของคุณ

เนื้อหาสาระที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นการให้คำแนะนำทางการเงิน อีกทั้งไม่ถือเป็นการเสนอหรือเชิญชวนหรือแนะนำให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินแต่อย่างใด ข้อมูลที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อการใช้งานโดยทั่วไป คำแนะนำใดที่รวมอยู่ในเอกสารฉบับนี้เป็นเพียงคำแนะนำโดยทั่วไป ไม่ได้จัดทำขึ้นโดยพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน ความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือตามความต้องการของคุณ ดังนั้นก่อนดำเนินการตามข้อมูลเหล่านี้ คุณควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลที่ให้ไว้ ตลอดจนลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องตามวัตถุประสงค์ สถานการณ์ทางการเงิน และความต้องการของคุณ หากคุณไม่เข้าใจเนื้อหาในเอกสารฉบับนี้ โปรดขอคำปรึกษาจากที่ปรึกษาทางการเงินที่ได้รับอนุญาต

เอกสารฉบับนี้เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินซึ่งไม่อยู่ภายใต้ข้อบังคับใดหรือไม่จำเป็นต้องได้รับอนุมัติจาก DFSA และ DFSA ไม่มีหน้าที่ในการตรวจสอบหรือยืนยันเอกสารใดอันเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินนี้ อีกทั้ง DFSA ไม่ได้เป็นผู้อนุมัติเอกสารฉบับนี้หรือเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้อง รวมถึงไม่ได้ดำเนินมาตรการใดเพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ และไม่รับผิดชอบต่อข้อมูลดังกล่าว

เขตบริหารพิเศษฮ่องกง: Equities First Holdings Hong Kong Limitedได้รับใบอนุญาตภายใต้กฎหมายผู้ให้กู้ยืมในฮ่องกง (หมายเลขใบอนุญาตผู้ให้กู้เลขที่ 1659/2024)และดำเนินธุรกิจด้านการจัดการกับหลักทรัพย์ (ใบอนุญาตประเภทที่ 1)ภายใต้กฎหมายการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกง (“SFO”) (หมายเลข CEเลขที่ BFJ407)เอกสารฉบับนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกงนอกจากนี้เอกสารฉบับนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเสนอการขายหลักทรัพย์ หรือชักจูงให้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่จัดการหรือจัดหาโดย Equities First Holdings Hong Kong Limitedแต่จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้ SFOเท่านั้นเอกสารฉบับนี้ไม่ได้ส่งถึงบุคคลหรือองค์กรที่จะทำให้ข้อเสนอหรือคำเชิญชวนดังกล่าวผิดกฎหมายหรือถูกต้องห้าม

ประเทศเกาหลี: เอกสารข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งมีความรู้และประสบการณ์เพียงพอต่อการทำธุรกรรมการจัดหาเงินทุนหลักทรัพย์เป็นการเฉพาะเจาะจง และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่ตรงตามข้อกำหนดข้างต้น

สหราชอาณาจักร: Equities First (London) Limited ได้รับการรับรองและควบคุมในสหราชอาณาจักรโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (” FCA”) ในสหราชอาณาจักร เอกสารฉบับนี้ได้แจกจ่ายให้แก่บุคคลที่มีลักษณะเป็นไปตามมาตรา 19(5) (นักลงทุนมืออาชีพ) และมาตรา 42(2) (บริษัทที่มีมูลค่าสุทธิสูง สมาคมอิสระ ฯลฯ) ในส่วนที่ 4 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่องบริการทางการเงินและตลาด ค.ศ. 2000 (การสนับสนุนทางการเงิน) คำสั่ง ค.ศ. 2005 (“FPO”) เท่านั้น และกิจกรรมการลงทุนใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอนี้จะใช้ได้เฉพาะกับบุคคลดังกล่าวและมีเพียงแค่บุคคลดังกล่าวเท่านั้นที่จะสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวได้ บุคคลที่ไม่มีประสบการณ์ระดับมืออาชีพในการลงทุน หรือบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามมาตรา 49 ของ FPO ไม่ควรใช้เอกสารนี้ เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้หน่วยงานที่ให้การกำกับการให้บริการด้านการลงทุนและผลิตภัณฑ์ทางการเงินในพื้นที่ภาคพื้นยุโรป (MiFID) เท่านั้น