สินทรัพย์นอกตลาดคือหัวใจหลักของการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน

สินทรัพย์นอกตลาด หรือสินทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ กำลังขับเคลื่อนการลงทุนส่วนใหญ่ในเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับการต่อสู้กับวิกฤติสภาพอากาศ

จากรายงานของ BloombergNEF การลงทุนใหม่ๆ ในภาคธุรกิจพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกเพิ่มขึ้น 13% ในปี 2022 โดยมูลค่าปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 532 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[1] ตราสารหนี้นอกตลาดและการลงทุนในภาคเอกชนรวมกันแล้วคิดเป็นสัดส่วน 93% โดยอยู่ในรูปของสินเชื่อแบบใช้สินทรัพย์ค้ำประกันและโครงการโซลาร์ขนาดเล็ก ในทางตรงกันข้าม การลงทุนในสินทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดรวมกันแล้วคิดเป็นสัดส่วนแค่ 3.3% เท่านั้น[2]

พูดง่ายๆ ก็คือสินทรัพย์นอกตลาดมอบเส้นทางที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็วที่สุดให้แก่นักลงทุนที่ต้องการโอกาสสร้างผลตอบแทนจากภาคธุรกิจพลังงานหมุนเวียน รวมทั้งช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ไม่เพียงเท่านั้น สินทรัพย์นอกตลาดยังมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการมอบเงินทุนให้กับธุรกิจระยะเริ่มต้นที่กำลังคิดค้นแนวทางแก้ไขปัญหาสภาพอากาศ เพราะช่วยให้นักลงทุนได้สังเกตการดำเนินงานของโปรเจ็กต์อย่างใกล้ชิด ซึ่งโปรเจ็กต์เหล่านี้ไม่เพียงช่วยปกป้องเราในอนาคต แต่ยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนอย่างงามในระยะยาวด้วย

การวิเคราะห์สถานการณ์โดย International Energy Agency ได้ข้อสรุปว่า หากต้องการให้เป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ทั่วโลกสำเร็จภายในปี 2050 การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเกือบครึ่งหนึ่งจะต้องมาจากเทคโนโลยีที่ยังไม่ได้นำไปปรับใช้กันอย่างแพร่งหลายในเชิงพาณิชย์ เทคโนโลยีเหล่านี้จำนวนมากอยู่ระหว่างการพัฒนาโดยบริษัทต่างๆ ที่ยังถือเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ไม่ใช่บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และยังไม่สามารถทำกำไรได้ ซึ่งแหล่งเงินทุนหลักของบริษัทเหล่านี้ก็คือตราสารทุนและตราสารหนี้นอกตลาดนั่นเอง

ที่มาของรูปภาพ: https://privatebank.jpmorgan.com/gl/en/insights/investing/the-energy-transition-is-ramping-up-investors-should-take-note

โอกาสครั้งสำคัญ

การเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดคาดว่าจะต้องใช้เงินทุนตั้งแต่ 119-194 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2050[3] ดังนั้น สินทรัพย์นอกตลาดจึงต้องยกระดับตัวเองขึ้นไปอีกเพื่อให้ตรงกับความต้องการลงทุนด้านสภาพอากาศที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ

ตราสารหนี้นอกตลาดกำลังเร่งเข้ามาปิดช่องว่างตรงนี้ เมื่อไม่นานมานี้ Blackstone บริษัทจัดการการลงทุนทางเลือกชั้นนำ ได้ปิดดีลกองทุนตราสารหนี้นอกตลาดเพื่อการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมีมูลค่ากว่า 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[4] ไม่เพียงเท่านั้น BlackRock ยังซื้อกิจการ Kreos Capital หนึ่งในผู้ปล่อยสินเชื่อรายใหญ่ที่สุดของยุโรปที่อนุมัติเงินทุนให้แก่ธุรกิจสตาร์ทอัพและบริษัทที่มีอัตราการเติบโตสูง[5]

นอกจากนี้ บริษัทการลงทุนระดับโลกอย่าง KKR & Co ก็ซื้อสินเชื่อพลังงานแสงอาทิตย์มูลค่า 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่อนุมัติให้กับธุรกิจสตาร์ทอัพในสหรัฐอเมริกาอย่าง SunPower Corp. ซึ่งนำเสนอโซลูชันที่ช่วยให้เจ้าของบ้านติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายล่วงหน้าจำนวนมหาศาล[6]

ส่วน Ares Management Corp. และ Copenhagen Infrastructure Partners ก็เพิ่งเปิดตัวกองทุนตราสารหนี้นอกตลาดขนาดใหญ่ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นภาคธุรกิจพลังงานหมุนเวียน

ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น เพราะ S&P Global ยังรายงานว่าผู้ให้บริการตราสารหนี้นอกตลาดยังจับมือกับธนาคารหลายแห่งเพื่อออกสินเชื่อให้กับโปรเจ็กต์เกี่ยวกับพลังงานหมุนเวียน รวมถึงโปรเจ็กต์พลังงานน้ำขนาดใหญ่บนชายฝั่งอ่าวของสหรัฐอเมริกาที่ประสบปัญหาในการขอสินเชื่อเนื่องจากธนาคารชะลอการปล่อยกู้ ตราสารหนี้นอกตลาดเข้ามารับความเสี่ยงบางอย่างที่สถาบันการเงินแบบดั้งเดิมลังเลที่จะแบกรับในสถานการณ์ตลาดปัจจุบัน ทำให้โปรเจ็กต์เหล่านี้มีความสามารถในการสร้างกำไรจนเพียงพอที่จะดึงดูดแหล่งเงินทุนอื่น ๆ จากผู้ให้สินเชื่อกระแสหลัก และดำเนินงานได้อย่างมั่นคงในที่สุด[7]

จับกระแสการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนด้วยสินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน

การลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาดที่มีเป้าหมายในการส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานจะได้รับประโยชน์จากแรงหนุนที่สำคัญสองประการ

ประการแรกคือปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ปัจจุบัน พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมถูกกว่าพลังงานฟอสซิลแล้วในหลายๆ ส่วนของโลก ซึ่งค่าใช้จ่ายที่ลดลงอย่างต่อเนื่องนี้นี้จะช่วยให้เทคโนโลยีที่มีพลังเปลี่ยนโลกอย่างกรีนไฮโดรเจนมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่จะอยู่รอดจนนำมาใช้ได้จริง

ประการที่สองคือ ผลจากการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพอากาศมองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น รัฐบาลของประเทศใหญ่ๆ จึงอาจจะหันมาใช้กฎหมายที่เข้มงวดมากขึ้นและเสนอรางวัลจูงใจมากกว่าเดิมเพื่อเร่งให้เกิดการเปลี่ยนมาใช้แหล่งพลังงานที่สะอาดมากขึ้น ตัวอย่างเช่น เมื่อปีที่แล้วประธานาธิบดี Biden ได้ประกาศใช้กฎหมายลดเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมอบสิ่งจูงใจให้กับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและบริษัทพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ ในช่วงหลายสิบปีนับจากนี้

บุคคลธรรมดาเองก็สามารถเข้าถึงตราสารหนี้ภาคเอกชนรูปแบบใหม่ๆ ได้เช่นกัน เพื่อสมัครขอสินเชื่อสำหรับการติดตั้งระบบพลังงงานหมุนเวียนขนาดเล็ก แล้วร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เพื่อบรรเทาผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ตัวอย่างเช่น ในคู่มือของ SunPower เจ้าของบ้านและธุรกิจสามารถขอสินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันของ EquitiesFirst เพื่อนำเงินทุนที่ได้ไปติดตั้งแผงโซลาเซลล์ที่จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนและประหยัดค่าไฟฟ้าได้

หากมองในมุมกว้างกว่านั้น สินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันยังเป็นทางเลือกที่สะดวกและยืดหยุ่นสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการนำตราสารทุนหรือคริปโตที่ถือครองอยู่มาใช้เป็นหลักประกันในการเข้าถึงเงินทุนสร้างสภาพคล่อง เพื่อคว้าโอกาสลงทุนกับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่กำลังมาแรง โดยที่จะยังคงได้รับผลกำไรในกรณีที่สินทรัพย์เหล่านั้นมีราคาสูงขึ้น

ในบรรดาโอกาสเหล่านี้ สิ่งที่น่าสังเกตก็คือ การลงทุนในยานพาหนะไฟฟ้าเมื่อปีที่แล้วเกือบจะเทียบเท่ากับการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนเลยทีเดียว ส่วนเทคโนโลยีการกักเก็บพลังงานก็ดูเหมือนจะมีอัตราส่วนการลงทุนเติบโตขึ้นอย่างมาก เพราะหนึ่งในอุปสรรคสำคัญของการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้อย่างแพร่หลายก็คือปัญหาการกักเก็บพลังงาน

จริงๆ แล้วการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานเป็นแนวคิดการลงทุนที่สำคัญมาก เพราะไม่ใช่แค่ส่งผลขยายไปยังทุกภาคธุรกิจในระบบเศรษฐกิจ แต่ยังได้รับประโยชน์จากกฎหมายและสภาพการณ์ของตลาดที่เอื้ออำนวยด้วย ในช่วงเวลาที่สถาบันการเงินแบบเก่าไม่กล้าปล่อยสินเชื่อให้กับโครงการเหล่านี้ สินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันจึงเป็นวิธีการที่น่าสนใจอย่างยิ่งในการส่งเสริมให้การเปลี่ยนแปลงนี้เดินหน้าต่อไป


[1] https://about.bnef.com/new-energy-outlook-series/

[2] https://www.alliancebernstein.com/n-europe/en-gb/institutions/insights/investment-insights/how-private-assets-can-empower-the-energy-transition.html

[3] https://about.bnef.com/new-energy-outlook-series/

[4] https://www.blackstone.com/news/press/blackstone-closes-record-energy-transition-private-credit-fund-at-over-7-billion/

[5] https://www.blackrock.com/corporate/newsroom/press-releases/article/corporate-one/press-releases/blackrock-to-acquire-kreos-capital

[6] https://www.spglobal.com/marketintelligence/en/news-insights/latest-news-headlines/private-credit-eyes-renewable-energy-ops-permira-direct-lending-fund-hits-8364-4-2b-76171377

[7] https://www.spglobal.com/marketintelligence/en/news-insights/latest-news-headlines/private-credit-eyes-renewable-energy-ops-permira-direct-lending-fund-hits-8364-4-2b-76171377

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ

ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้รับประกันผลตอบแทนในอนาคต และไม่มีการรับประกันหรือรับรองผลตอบแทนของแต่ละบุคคล

เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ได้รับการรับรอง นักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายอื่น ๆ กำหนดเท่านั้น และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นเนื้อหาที่มีลักษณะทั่วไปและไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์หรือความต้องการทางการเงินที่เฉพาะเจาะจงใด ๆ มุมมองและความคิดเห็นที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นโดยบุคคลที่ภายนอก และอาจไม่ได้สะท้อนมุมมองและความคิดเห็นของ EquitiesFirst นอกจากนี้ EquitiesFirst ไม่ได้ตรวจสอบหรือยืนยันข้อมูลที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ด้วยตนเอง และไม่ได้รับรองว่าข้อมูลดังกล่าวถูกต้องหรือสมบูรณ์ ความคิดเห็นและข้อมูลในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขาย (หรือการชักชวนให้ซื้อ) หลักทรัพย์ การลงทุน หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินใด ๆ (“ข้อเสนอ”) ข้อเสนอใด ๆ ดังกล่าวจะต้องดำเนินการผ่านการเสนอขายที่เกี่ยวข้องหรือเอกสารอื่น ๆ ที่มีการระบุข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เป็นสาระสำคัญไว้อย่างชัดเจนเท่านั้น ข้อมูลใด ๆ ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการแนะนำ การจูงใจ การเชิญชวน การโน้มน้าว การส่งเสริมการขาย หรือเป็นข้อเสนอให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์การลงทุนใด ๆ จาก Equities First Holdings, LLC หรือบริษัทย่อยของ Equities First Holdings, LLC (เรียกรวมกันว่า ” EquitiesFirst”) และไม่ควรตีความในทางใดทางหนึ่งว่าเอกสารฉบับนี้เป็นการแนะนำด้านการลงทุน กฎหมาย หรือภาษี รวมถึงการแนะนำ การอ้างอิง หรือการรับรองจาก EquitiesFirst ท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

เอกสารฉบับนี้ประกอบด้วยทรัพย์สินทางปัญญาของ EquitiesFirst ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงโลโก้ต่าง ๆ  และเครื่องหมายการค้าอื่น ๆ ทั้งที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียน ตลอดจนเครื่องหมายบริการที่เกี่ยวข้องตามลำดับ EquitiesFirst ขอสงวนสิทธิ์ทั้งหมดในทรัพย์สินทางปัญญาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่าย เผยแพร่ ทำซ้ำ หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้รับสามารถส่งต่อเนื้อหาทั้งหมดหรือบางส่วนของเอกสารฉบับนี้ไปยังผู้อื่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่ายให้แก่บุคคลในประเทศใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดกฎหมายหรือระเบียบอื่นใดที่เกี่ยวข้อง

EquitiesFirst ไม่รับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับเอกสารฉบับนี้ และขอปฏิเสธอย่างชัดแจ้งต่อการรับประกันโดยนัยใด ๆ ภายใต้กฎหมาย ท่านรับทราบว่า EquitiesFirst จะไม่ต้องรับผิดในทุกกรณี สำหรับความเสียหายทั้งทางตรง ทางอ้อม ที่เป็นกรณีพิเศษ ที่เป็นผลสืบเนื่อง โดยไม่เจตนา หรือที่เป็นการลงโทษ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการสูญเสียผลประโยชน์หรือการสูญเสียโอกาสใด ๆ แม้ว่า EquitiesFirst จะรับทราบถึงความเป็นไปได้ของความเสียหายดังกล่าวก็ตาม

EquitiesFirst ได้จัดทำคำแถลงการเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจบังคับใช้ในเขตอำนาจศาลที่ระบุไว้

ประเทศออสเตรเลีย: Equities First Holdings (Australia) Pty Ltd (หมายเลขทะเบียนบริษัท: 142 644 399) เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตบริการทางการเงินของประเทศออสเตรเลีย (หมายเลข AFSL: 387079) สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด

ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีไว้สำหรับบุคคลที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียและจัดเป็นลูกค้าสำหรับการค้าส่ง (Wholesale Client) ตามที่ระบุในมาตรา 761G แห่งพระราชบัญญัติบริษัท ค.ศ. 2001 (Corporations Act 2001)เท่านั้นการเผยแพร่ข้อมูลให้บุคคลอื่นใดที่มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดข้างต้นอาจมีข้อจำกัดตามกฎหมาย ทั้งนี้ บุคคลใดที่มีข้อมูลดังกล่าวในครอบครองควรเสาะหาคำแนะนำและทำความเข้าใจข้อจำกัดดังกล่าว เนื้อหาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น  และไม่ควรตีความว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อเสนอ การจูงใจ หรือคำแนะนำในการซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลในลักษณะทั่วไป และไม่ใช่คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินส่วนบุคคล คำแนะนำใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้เป็นคำแนะนำทั่วไปเท่านั้น และจัดทำขึ้นโดยไม่ได้คำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์หรือความต้องการทางการเงินของผู้ลงทุน ก่อนดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ ท่านควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าว และลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ และความต้องการทางการเงินของท่านท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเอง และอ่านคำแถลงการเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง หรือเอกสารข้อเสนออื่น ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

เขตบริหารพิเศษฮ่องกง: Equities First Holdings Hong Kong Limitedได้รับใบอนุญาตภายใต้กฎหมายผู้ให้กู้ยืมในฮ่องกง (หมายเลขใบอนุญาตผู้ให้กู้เลขที่ 1681/2023)และดำเนินธุรกิจด้านการจัดการกับหลักทรัพย์ (ใบอนุญาตประเภทที่ 1)ภายใต้กฎหมายการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกง (“SFO”) (หมายเลข CEเลขที่ BFJ407)เอกสารฉบับนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกงนอกจากนี้เอกสารฉบับนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเสนอการขายหลักทรัพย์ หรือชักจูงให้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่จัดการหรือจัดหาโดย Equities First Holdings Hong Kong Limitedแต่จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้ SFOเท่านั้นเอกสารฉบับนี้ไม่ได้ส่งถึงบุคคลหรือองค์กรที่จะทำให้ข้อเสนอหรือคำเชิญชวนดังกล่าวผิดกฎหมายหรือถูกต้องห้าม

ประเทศเกาหลี: เอกสารข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งมีความรู้และประสบการณ์เพียงพอต่อการทำธุรกรรมการจัดหาเงินทุนหลักทรัพย์เป็นการเฉพาะเจาะจง และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่ตรงตามข้อกำหนดข้างต้น

สหราชอาณาจักร: Equities First (London) Limited ได้รับการรับรองและควบคุมในสหราชอาณาจักรโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (” FCA”) ในสหราชอาณาจักร เอกสารฉบับนี้ได้แจกจ่ายให้แก่บุคคลที่มีลักษณะเป็นไปตามมาตรา 19(5) (นักลงทุนมืออาชีพ) และมาตรา 42(2) (บริษัทที่มีมูลค่าสุทธิสูง สมาคมอิสระ ฯลฯ) ในส่วนที่ 4 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่องบริการทางการเงินและตลาด ค.ศ. 2000 (การสนับสนุนทางการเงิน) คำสั่ง ค.ศ. 2005 (“FPO”) เท่านั้น และกิจกรรมการลงทุนใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอนี้จะใช้ได้เฉพาะกับบุคคลดังกล่าวและมีเพียงแค่บุคคลดังกล่าวเท่านั้นที่จะสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวได้ บุคคลที่ไม่มีประสบการณ์ระดับมืออาชีพในการลงทุน หรือบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามมาตรา 49 ของ FPO ไม่ควรใช้เอกสารนี้ เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้หน่วยงานที่ให้การกำกับการให้บริการด้านการลงทุนและผลิตภัณฑ์ทางการเงินในพื้นที่ภาคพื้นยุโรป (MiFID) เท่านั้น