ต้นทุนของเงินทุนสูงขึ้นทำให้โซลูชันการเงินแบบก้าวหน้ากลายเป็นสิ่งจำเป็น

ยุคดอกเบี้ยต่ำที่กินเวลายาวนานนับทศวรรษสิ้นสุดลงอย่างกะทันหันส่งผลให้ตลาดผันผวนหนัก และพิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอัตราดอกเบี้ยเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อผลการดำเนินงานของตลาดทุน นักลงทุนถูกบีบให้ต้องปรับมูลค่าและเป้าหมายด้านการเติบโตในช่วงปีที่ผ่านมา และจำเป็นต้องประเมินว่าต้นทุนเฉลี่ยของกิจการที่สูงขึ้นในเชิงโครงสร้างจะส่งผลต่อกลยุทธ์การจัดพอร์ตการลงทุนของตัวเองอย่างไรบ้างในระยะยาว

อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี หลังจากปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนหุ้นเกิดคำถามมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ว่า การทำสงครามกับเงินเฟ้อพุ่งสูงอย่างต่อเนื่องจะส่งผลต่อรายได้ของบริษัทต่างๆ และการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับโลกอย่างไรบ้าง

จากการศึกษาครั้งใหม่ที่ดำเนินการโดย EquitiesFirst และจัดทำโดย Institutional Investor นักลงทุนเกือบสองในสามมองว่าภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยเป็นปัจจัยทางเศรษฐกิจระดับมหภาคที่จะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของตลาดหุ้นมากที่สุดในช่วง 18 เดือนข้างหน้า สิ่งที่ผู้ตอบแบบสำรวจเห็นพ้องต้องกันคือ อัตราดอกเบี้ยขึ้นมาถึงหรือใกล้จุดสูงสุดแล้ว แต่ก็อาจจะยังมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้

ถึงแม้ว่าตลาดจะคาดหวังให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว แต่หน่วยงานกำหนดนโยบายในสหรัฐฯ และยุโรปได้ออกมาเตือนว่า อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มว่าจะยังคงสูงอยู่ อย่างน้อยก็จนถึงปี 2024 เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อยังสูงกว่ากรอบเป้าหมายที่ตั้งไว้[1]

ที่มาของรูปภาพ: https://equitiesfirst.com/int/ii-partnership/

ยิ่งอัตราดอกเบี้ยสูงนานเท่าไหร่ ผู้กู้ทั้งครัวเรือนและภาคธุรกิจจะรู้สึกกดดันจากต้นทุนสินเชื่อที่สูงขึ้น นอกจากนี้ สินเชื่อยังเกิดภาวะตึงตัวเพิ่มขึ้นด้วยในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากผู้ให้กู้ระมัดระวังตัวมากขึ้น เพื่อเตรียมรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยและต้องการรักษาสภาพคล่องของตัวเอง โดยนับตั้งแต่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม 2022 เป็นต้นมา เงินฝากก็ไหลออกจากธนาคารของสหรัฐฯ แล้วว่า 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ[2]

การผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้น

การศึกษาของ EquitiesFirst ซึ่งสอบถามความคิดเห็นของผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านการลงทุนประมาณ 300 ราย จากบริษัทบริหารจัดการสินทรัพย์ มูลนิธิ กองทุนบำเหน็จบำนาญ และกองทุนการกุศล แสดงให้เห็นว่าต้นทุนเฉลี่ยของกิจการที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้นักลงทุนได้รับแรงกดดันตามไปด้วย

ที่จริงแล้ว สิ่งนี้อาจจะทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างที่ตลาดคาดการณ์มาตลอด ต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นักวิเคราะห์ของ Deutsche Bank ได้ออกมาแย้งว่ากระแสการผิดนัดชำระหนี้ใกล้จะเกิดขึ้นเต็มที ยิ่งปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและมาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น ทำให้ยุครุ่งเรืองของการให้สินเชื่อที่กินเวลามานานถึงสองทศวรรษและขับเคลื่อนด้วยดอกเบี้ยต่ำ สิ้นสุดลงแล้ว[3] การผิดนัดชำระหนี้ของพันธบัตรผลตอบแทนสูงของสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็น 2.1% จากเดิม 1.1% ในปีที่ผ่านมา ส่วนการผิดนัดชำระหนี้สินเชื่อเพิ่มขึ้นจาก 1.4% ในปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 3.1% โดยธนาคารเพื่อการลงทุนมองว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็น 9% และ 11.3% ตามลำดับ[4]

ในยุคที่อัตราดอกเบี้ยต่ำใกล้ศูนย์นั้น แม้แต่บริษัทที่การเงินตึงตัวก็ยังสามารถระดมทุนผ่านการกู้ยืมและขายหุ้นเพื่อให้กิจการดำเนินต่อไปได้ แต่ว่าในปัจจุบัน บริษัทเหล่านี้ รวมถึงบริษัทที่การเงินค่อนข้างดีแต่ต้องพึ่งพาการกู้ยืมอย่างมาก อาจจะไม่สามารถหาเงินมาชำระหนี้ที่ใกล้ครบกำหนดได้ ดังนั้น จำนวนบริษัทในสหรัฐฯ ที่ยื่นขอสถานะล้มละลายจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว[5]

ในขณะเดียวกัน ตลาดที่อยู่อาศัยก็อาจจะเป็นอีกภาคธุรกิจหนึ่งที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการที่ต้นทุนของกิจการพุ่งขึ้น โดยแหล่งข่าวบอกมาว่า ราคาบ้านจะตกลงมาถึง 10-15% ในปีนี้[6] การที่สินเชื่อบ้านมีต้นทุนสูงขึ้นไม่เพียงทำให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ประสบปัญหาในการชำระเหนี้ แต่ยังเหลือรายได้ไปใช้จ่ายกับสิ่งอื่นๆ น้อยลง

ปัจจัยทั้งหมดนี้ล้วนแต่ส่งผลร้ายต่อตลาดการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากโพสิชันที่ใช้เลเวอเรจ (leveraged position) จำเป็นต้องปิดอย่างรวดเร็ว ทำให้นักลงทุนต้องคิดหนักสำหรับการลงทุนในช่วงครึ่งปีที่เหลือของปี 2023

นักลงทุนที่ยังคงเลือกลงทุนในตลาดหุ้นยังต้องแบกรับต้นทุนมาร์จิ้นสูงขึ้นและความผันผวนต่อเนื่อง ส่วนนักลงทุนที่ต้องการทำกำไรจากส่วนต่างราคาก็พบว่าการเข้าถึงเงินทุนเพื่อนำมาซื้อหุ้นนั้น ทำได้ยากขึ้น

รับมือกับปัญหาเงินทุนฝืดเคือง

เนื่องจากผู้ให้กู้ยืมแบบดั้งเดิมถอนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้กู้ยืมจำนวนมากหันไปพึ่งสินเชื่อส่วนบุคคลจากสถาบันที่ไม่ใช่ธนาคารเช่น ผู้บริหารจัดการสินทรัพย์หรือกองทุนบำเหน็จบำนาญ

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นักลงทุนหันไปลงทุนในหุ้นนอกตลาดกันมากขึ้น ดังนั้นสินเชื่อส่วนบุคคลจึงกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มสินทรัพย์ที่มีอัตราการเติบโตเร็วที่สุด สินทรัพย์ภายใต้การจัดการประเภทสินเชื่อทั่วโลก เพิ่มขึ้นจาก 342 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2011 มาเป็น 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่ผ่านมา[7] และคาดว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2027

ในบรรดาสินเชื่อส่วนบุคคลหลายประเภทนั้น สินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันเหมาะกับความผันผวนและสภาพตลาดที่ไม่แน่นอนในปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง เพราะปกติแล้วสินเชื่อประเภทนี้จะมีต้นทุนต่ำกว่าการกู้ยืมแบบไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ทั้งยังมีความยืดหยุ่น เพราะสามารถใช้หลักทรัพย์ได้เกือบทุกประเภทมาเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อได้ ตั้งแต่หุ้น คริปโต ไปจนถึงอสังหาริมทรัพย์

ถึงแม้ว่าสินเชื่อจะต้องจัดโครงสร้างอย่างรอบคอบ แต่ความเสี่ยงโดยทั่วไปจะถูกจำกัดโดยอาศัยความสามารถของผู้ออกสินเชื่อในการเรียกหลักประกัน ทำให้สามารถเสนอเงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยที่เหนือกว่าคู่แข่งได้

EquitiesFirst มีประวัติยาวนานถึง 20 ปีในการมอบสินเชื่อประเภทดังกล่าว ซึ่งเราเรียกว่า ‘เงินทุนก้าวหน้า (progressive capital)’ เราเป็นพันธมิตรของผู้ถือหุ้นระยะยาว และเสนอสินเชื่อต้นทุนต่ำที่มีความยืดหยุ่น เพื่อช่วยให้นักลงทุนสามารถคว้าโอกาสใหม่ๆ ได้อย่างทันท่วงที โดยที่ยังคงได้รับประโยชน์จากส่วนต่างของราคาหลักทรัพย์

นักลงทุนในตราสารทุนยังไม่ได้รับคำตอบที่แน่ชัดสำหรับคำถามสำคัญ แต่นักลงทุนที่ตัดสินใจได้อย่างแน่วแน่ท่ามกลางความไม่แน่นอนและเต็มใจใช้ประโยชน์จากสินเชื่อรูปแบบใหม่จะสามารถคว้าโอกาสที่มาถึงได้อย่างแน่นอน


[1] https://finance.yahoo.com/news/fed-minutes-rate-cuts-2023-inflation-risk-focus-194814712.html

[2] https://www.euromoney.com/article/2bm0pk1mqx9ldd1tym39c/banking/bank-deposit-flight-and-the-us-money-market-fund-supremacy

[3] https://finance.yahoo.com/news/credit-crunch-spark-wave-corporate-221558407.html

[4] https://finance.yahoo.com/news/credit-crunch-spark-wave-corporate-221558407.html

[5] https://www.ft.com/content/7f45d897-5312-40bd-abff-039ef31c9e50

[6] https://finance.yahoo.com/news/2023-housing-correction-could-largest-165335648.html

[7] MAS, citing Preqin Pro: https://www.mas.gov.sg/news/speeches/2023/private-credit-the-next-key-driver-of-growth-in-private-markets

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ

ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้รับประกันผลตอบแทนในอนาคต และไม่มีการรับประกันหรือรับรองผลตอบแทนของแต่ละบุคคล

เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ได้รับการรับรอง นักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายอื่น ๆ กำหนดเท่านั้น และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นเนื้อหาที่มีลักษณะทั่วไปและไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์หรือความต้องการทางการเงินที่เฉพาะเจาะจงใด ๆ มุมมองและความคิดเห็นที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นโดยบุคคลที่ภายนอก และอาจไม่ได้สะท้อนมุมมองและความคิดเห็นของ EquitiesFirst นอกจากนี้ EquitiesFirst ไม่ได้ตรวจสอบหรือยืนยันข้อมูลที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ด้วยตนเอง และไม่ได้รับรองว่าข้อมูลดังกล่าวถูกต้องหรือสมบูรณ์ ความคิดเห็นและข้อมูลในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขาย (หรือการชักชวนให้ซื้อ) หลักทรัพย์ การลงทุน หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินใด ๆ (“ข้อเสนอ”) ข้อเสนอใด ๆ ดังกล่าวจะต้องดำเนินการผ่านการเสนอขายที่เกี่ยวข้องหรือเอกสารอื่น ๆ ที่มีการระบุข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เป็นสาระสำคัญไว้อย่างชัดเจนเท่านั้น ข้อมูลใด ๆ ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการแนะนำ การจูงใจ การเชิญชวน การโน้มน้าว การส่งเสริมการขาย หรือเป็นข้อเสนอให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์การลงทุนใด ๆ จาก Equities First Holdings, LLC หรือบริษัทย่อยของ Equities First Holdings, LLC (เรียกรวมกันว่า ” EquitiesFirst”) และไม่ควรตีความในทางใดทางหนึ่งว่าเอกสารฉบับนี้เป็นการแนะนำด้านการลงทุน กฎหมาย หรือภาษี รวมถึงการแนะนำ การอ้างอิง หรือการรับรองจาก EquitiesFirst ท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

เอกสารฉบับนี้ประกอบด้วยทรัพย์สินทางปัญญาของ EquitiesFirst ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงโลโก้ต่าง ๆ  และเครื่องหมายการค้าอื่น ๆ ทั้งที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียน ตลอดจนเครื่องหมายบริการที่เกี่ยวข้องตามลำดับ EquitiesFirst ขอสงวนสิทธิ์ทั้งหมดในทรัพย์สินทางปัญญาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่าย เผยแพร่ ทำซ้ำ หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้รับสามารถส่งต่อเนื้อหาทั้งหมดหรือบางส่วนของเอกสารฉบับนี้ไปยังผู้อื่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่ายให้แก่บุคคลในประเทศใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดกฎหมายหรือระเบียบอื่นใดที่เกี่ยวข้อง

EquitiesFirst ไม่รับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับเอกสารฉบับนี้ และขอปฏิเสธอย่างชัดแจ้งต่อการรับประกันโดยนัยใด ๆ ภายใต้กฎหมาย ท่านรับทราบว่า EquitiesFirst จะไม่ต้องรับผิดในทุกกรณี สำหรับความเสียหายทั้งทางตรง ทางอ้อม ที่เป็นกรณีพิเศษ ที่เป็นผลสืบเนื่อง โดยไม่เจตนา หรือที่เป็นการลงโทษ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการสูญเสียผลประโยชน์หรือการสูญเสียโอกาสใด ๆ แม้ว่า EquitiesFirst จะรับทราบถึงความเป็นไปได้ของความเสียหายดังกล่าวก็ตาม

EquitiesFirst ได้จัดทำคำแถลงการเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจบังคับใช้ในเขตอำนาจศาลที่ระบุไว้

ประเทศออสเตรเลีย: Equities First Holdings (Australia) Pty Ltd (หมายเลขทะเบียนบริษัท: 142 644 399) เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตบริการทางการเงินของประเทศออสเตรเลีย (หมายเลข AFSL: 387079) สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด

ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีไว้สำหรับบุคคลที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียและจัดเป็นลูกค้าสำหรับการค้าส่ง (Wholesale Client) ตามที่ระบุในมาตรา 761G แห่งพระราชบัญญัติบริษัท ค.ศ. 2001 (Corporations Act 2001)เท่านั้นการเผยแพร่ข้อมูลให้บุคคลอื่นใดที่มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดข้างต้นอาจมีข้อจำกัดตามกฎหมาย ทั้งนี้ บุคคลใดที่มีข้อมูลดังกล่าวในครอบครองควรเสาะหาคำแนะนำและทำความเข้าใจข้อจำกัดดังกล่าว เนื้อหาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น  และไม่ควรตีความว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อเสนอ การจูงใจ หรือคำแนะนำในการซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลในลักษณะทั่วไป และไม่ใช่คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินส่วนบุคคล คำแนะนำใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้เป็นคำแนะนำทั่วไปเท่านั้น และจัดทำขึ้นโดยไม่ได้คำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์หรือความต้องการทางการเงินของผู้ลงทุน ก่อนดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ ท่านควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าว และลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ และความต้องการทางการเงินของท่านท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเอง และอ่านคำแถลงการเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง หรือเอกสารข้อเสนออื่น ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

เขตบริหารพิเศษฮ่องกง: Equities First Holdings Hong Kong Limitedได้รับใบอนุญาตภายใต้กฎหมายผู้ให้กู้ยืมในฮ่องกง (หมายเลขใบอนุญาตผู้ให้กู้เลขที่ 1681/2023)และดำเนินธุรกิจด้านการจัดการกับหลักทรัพย์ (ใบอนุญาตประเภทที่ 1)ภายใต้กฎหมายการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกง (“SFO”) (หมายเลข CEเลขที่ BFJ407)เอกสารฉบับนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกงนอกจากนี้เอกสารฉบับนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเสนอการขายหลักทรัพย์ หรือชักจูงให้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่จัดการหรือจัดหาโดย Equities First Holdings Hong Kong Limitedแต่จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้ SFOเท่านั้นเอกสารฉบับนี้ไม่ได้ส่งถึงบุคคลหรือองค์กรที่จะทำให้ข้อเสนอหรือคำเชิญชวนดังกล่าวผิดกฎหมายหรือถูกต้องห้าม

ประเทศเกาหลี: เอกสารข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งมีความรู้และประสบการณ์เพียงพอต่อการทำธุรกรรมการจัดหาเงินทุนหลักทรัพย์เป็นการเฉพาะเจาะจง และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่ตรงตามข้อกำหนดข้างต้น

สหราชอาณาจักร: Equities First (London) Limited ได้รับการรับรองและควบคุมในสหราชอาณาจักรโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (” FCA”) ในสหราชอาณาจักร เอกสารฉบับนี้ได้แจกจ่ายให้แก่บุคคลที่มีลักษณะเป็นไปตามมาตรา 19(5) (นักลงทุนมืออาชีพ) และมาตรา 42(2) (บริษัทที่มีมูลค่าสุทธิสูง สมาคมอิสระ ฯลฯ) ในส่วนที่ 4 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่องบริการทางการเงินและตลาด ค.ศ. 2000 (การสนับสนุนทางการเงิน) คำสั่ง ค.ศ. 2005 (“FPO”) เท่านั้น และกิจกรรมการลงทุนใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอนี้จะใช้ได้เฉพาะกับบุคคลดังกล่าวและมีเพียงแค่บุคคลดังกล่าวเท่านั้นที่จะสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวได้ บุคคลที่ไม่มีประสบการณ์ระดับมืออาชีพในการลงทุน หรือบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามมาตรา 49 ของ FPO ไม่ควรใช้เอกสารนี้ เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้หน่วยงานที่ให้การกำกับการให้บริการด้านการลงทุนและผลิตภัณฑ์ทางการเงินในพื้นที่ภาคพื้นยุโรป (MiFID) เท่านั้น