ยุคหาเงินง่ายสิ้นสุดลงแล้วนักลงทุนจึงหันมาสนใจโซลูชันการเงินแบบก้าวหน้า

ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเริ่มหันมาใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัวในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ธนาคารกลางของหลายประเทศกำหนดอัตราดอกเบี้ยใกล้ศูนย์มาเกือบ 15 ปี เดิมทีก็เพื่อพยุงเศรษฐกิจหลังจากเกิดวิกฤติการเงินในปี 2008 ตามมาด้วยการรับมือกับการระบาดของโควิด-19 แต่ว่าก่อนจะเกิดยุคแห่งมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงเวลาดังกล่าว อัตราดอกเบี้ยในประเทศกำลังพัฒนาในฝั่งตะวันตกก็มีแนวโน้มลดต่ำลงมาตั้งแต่ทศวรรษ 1980 แล้ว[1]

โดยมีปัจจัยเชิงโครงสร้างหลายอย่างที่มีบทบาททำให้อัตราดอกเบี้ยลดลงในระยะยาว อย่างแรกคืออัตราการเติบโตของประเทศตะวันตกชะลอตัวลง ส่งผลให้ความต้องการเงินลงทุนลดลง แม้แต่ในตอนที่มีการขยายสินเชื่อโดยอาศัยเงินออมของประชากรที่กำลังเข้าสู่วัยสูงอายุในประเทศร่ำรวย และกลุ่มชนชั้นกลางผู้มั่งคั่ง (Mass Affluent) ในประเทศเอเชียที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็วมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ นโยบายทางการเงินยังได้รับความเชื่อถือมากขึ้น ธนาคารกลางทั่วโลกได้รับอิสระมากขึ้นและต้องดูแลให้เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำเพื่อตอบสนองต่อภาวะเงินเฟ้อสูงในช่วงปี 1970 ที่ลุกลามมาจนถึงช่วงต้นทศวรรษที่ 1980 สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดความคาดหวังว่าภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยจะยังต่ำอยู่อย่างนั้น รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นว่านโยบายทางการเงินจะควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับต่ำตามความคาดหวัง ในขณะเดียวกัน โลกาภิวัตน์และการส่งออกสินค้าจากจีนก็ทำให้สินค้าทั่วโลกมีราคาลดลง

ทว่าในปี 2022 ราคาพลังงานและอาหารที่พุ่งขึ้นสูง บวกกับปัญหาคอขวดในการผลิต (supply bottlenecks) และอุปสงค์ที่ฟื้นตัวหลังจากการระบาดใหญ่ ทำให้ภาวะเงินเฟ้อกลับมาอีกครั้ง

เพื่อรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น ธนาคารกลางสหรัฐฯ จึงปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยมาอยู่ในระดับที่สูงสุดในรอบ 22 ปี จากตัวเลขเมื่อเดือนกรกฎาคม 2023[2]

เนื่องจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลกระทบต่อบริษัทธุรกิจและผู้บริโภคก่อน ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาสักพักกว่าที่ภาคส่วนอื่นๆ ในเศรษฐกิจจะรับรู้ผลกระทบอย่างเต็มที่ เราอาจจะได้เห็นการผิดนัดชำระหนี้องค์กรและหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัย รวมทั้งเกิดแรงกดดันต่อรายได้และผลกำไรของธุรกิจ

สำหรับนักลงทุนแล้ว ผลกระทบของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยยิ่งรุนแรงขึ้นเนื่องจากธนาคารยอมรับความเสี่ยงได้น้อยลง[3] จากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ตลอดจนวิกฤติความเชื่อมั่นของผู้บริโภคซึ่งส่งผลต่ออุตสาหกรรมเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคารในสหรัฐ[4] และยุโรป[5] เพิ่มความเข้มงวดให้กับมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อ ถึงแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยพุ่งสูงจะทำให้ความต้องการเงินลดลงก็ตาม

แล้วจากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้น

ผู้คนมีความคิดเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับทิศทางของอัตราดอกเบี้ย ถึงแม้ว่าในที่สุดภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐฯ[6] ยุโรป[7] และประเทศอื่นๆ จะมีแนวโน้มลดลงแล้ว แต่ผู้มีอำนาจกำหนดนโยบายได้ออกมาเตือนว่ายังเป็นต้องคงอัตราดอกเบี้ยสูงไว้อีกระยะหนึ่ง[8] และเป็นไปได้ยากที่อัตราดอกเบี้ยจะกลับมาต่ำใกล้ศูนย์อีกครั้งในอนาคตอันใกล้

เหตุผลอย่างหนึ่งเป็นเพราะ แม้ว่าภาวะเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงแล้ว แต่ก็อาจจะไม่ได้กลับมาต่ำเหมือนในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมาเนื่องจากโลกาภิวัฒน์เสื่อมถอยลง ประกอบกับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในจีนและตลาดเกิดใหม่อื่นๆ

ยิ่งไปกว่านั้น เรายังอาจจะได้เห็นความต้องการเงินทุนเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจากการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน การต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศต้องใช้เงินลงทุนหลายล้านล้านดอลลาร์ต่อปีภายในปี 2030 ดังนั้น ความต้องการสินเชื่อจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในขณะที่สถาบันให้กู้ยืมแบบเก่าตัดสินใจไม่ลงมาเล่นในภาคส่วนธุรกิจนี้

ยิ่งไปกว่านั้น นโยบายทางการเงินอาจจะมีความน่าเชื่อถือน้อยลง เนื่องจากไม่สามารถทำให้เงินเฟ้อลดต่ำลงได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นการคาดการณ์ว่าภาวะเงินเฟ้อจะยังคงอยู่จึงอาจจะเป็นสิ่งพิสูจน์ว่า อัตราดอกเบี้ยที่ส่วนหนึ่งตั้งอยู่บนความคาดหวังและเป็นมาตรการจำเป็นนั้น จะปรับสูงขึ้นอีกและคงอยู่อย่างนั้นไปอีกนานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ

จึงดูเหมือนว่ายุคของการหาเงินง่ายๆ จะมาถึงจุดสิ้นสุดแล้วอย่างแน่นอน

สินเชื่อภาคเอกชนจะช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นส่งผลให้วิกฤติสินเชื่อตึงตัว (Credit Crunch) ยิ่งทวีความรุนแรง ดังนั้น[9] สินเชื่อภาคเอกชนจึงกลายเป็นแหล่งเงินทุนที่สำคัญมากขึ้นในการขยายธุรกิจอย่างยั่งยืนและหาเงินทุนสำหรับใช้ในการลงทุน ในบรรดาสินเชื่อประเภทต่างๆ สินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันได้รับความนิยมอย่างยิ่ง อีกทั้งยังเป็นแหล่งสร้างสภาพคล่องที่มีความเสถียรทั้งสำหรับบริษัทและบุคคลทั่วไป

EquitiesFirst มีประสบการณ์ถึง 20 ปีในการให้สินเชื่อแบบก้าวหน้าในลักษณะดังกล่าว ซึ่งออกแบบมาเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของสินเชื่อแบบดั้งเดิม สินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันจาก EquitiesFirst เป็นข้อตกลงการขายและการซื้อคืนระยะยาวที่ไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับวัตถุประสงค์การนำเงินไปใช้ อีกทั้งยังกำหนดอัตราดอกเบี้ยย่อมเยา เมื่อสิ้นสุดระยะสัญญา EquitiesFirst จะคืนหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ดิจิทัลให้กับนักลงทุนในจำนวนเท่าเดิม ไม่ว่าราคาของหลักทรัพย์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ตาม

เนื่องจากเป็นการทำสัญญาแบบไม่มีสิทธิไล่เบี้ย (Non- Recourse) ความสูญเสียสูงสุดที่เกิดขึ้นกับนักลงทุนจะไม่เกินไปกว่าหุ้นที่โอนให้กับเราในตอนแรกเท่านั้น

นอกจากนี้ เรายังเป็นบริษัทเอกชน หมายความว่า เราไม่ได้พึ่งเงินทุนหรือสินเชื่อจากภายนอกที่จะถูกถอนออกไปในช่วงที่เศรษฐกิจเกิดวิกฤติ และไม่ได้จัดการเงินทุนจากนักลงทุนภายนอกด้วย

ที่สำคัญคือ เรายังพยายามจำกัดความเสี่ยงด้วยกระบวนการที่ใช้เทคโนโลยีซับซ้อนมากขึ้นในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และการบริหารความเสี่ยง  

ไม่เพียงเท่านั้น เรายังลงทุนในขีดความสามารถด้านการวิจัยของบริษัท เพื่อจะได้คว้าและใช้ประโยชน์จากทุกโอกาสอย่างเต็มที่ รวมถึงจัดการหลักประกันด้วยความรอบคอบ โดยเราจะอนุมัติสินเชื่อที่ใช้หุ้นเป็นหลักประกันหลังจากวิเคราะห์พื้นฐานและสัญญาณทางเทคนิคของหุ้นอย่างละเอียดแล้วเท่านั้น อีกประการหนึ่ง เรายังมีพอร์ตการลงทุนที่กระจายความเสี่ยงในภาคธุรกิจและภูมิภาคต่างๆ เพื่อบรรเทาความเสี่ยงในตลาดด้วย

เรามองว่าทุกข้อตกลงเป็นโอกาสในการสะสมหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ในระยะยาว และหลีกเลี่ยงการใช้กลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงและใช้เลเวอเรจสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่เคยสร้างปัญหาอย่างมากให้กับธนาคารเอกชนและลูกค้าในอดีต และอาจจะยังคงก่อปัญหาให้กับองค์กรเหล่านี้ในยุคสมัยที่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะยาว


[1] https://blogs.deloitte.co.uk/mondaybriefing/2023/02/a-higher-new-normal-for-interest-rates.html

[2] https://www.nbcnews.com/business/economy/interest-rate-hike-july-2023-how-much-higher-federal-reserve-rcna96210

[3] https://www.spglobal.com/marketintelligence/en/news-insights/latest-news-headlines/european-loan-growth-cools-as-banks-tighten-lending-standards-71731259

[4] https://www.cnbc.com/2020/08/03/banks-say-they-are-tightening-lending-standards-even-as-demand-for-money-falls.html

[5] https://www.spglobal.com/marketintelligence/en/news-insights/latest-news-headlines/european-loan-growth-cools-as-banks-tighten-lending-standards-71731259

[6] https://apnews.com/article/inflation-prices-interest-rates-economy-federal-reserve-53d93610b5ccaacd097853593f29bc26

[7] https://www.ft.com/content/5dfccc86-f490-4841-9397-7ef399edef57

[8] https://www.cnbc.com/2023/07/26/low-fed-interest-rates-reshaped-the-us-economy-heres-whats-next.html

[9] https://www.reuters.com/business/finance/credit-squeeze-biggest-threat-economic-outlook-asset-managers-2023-04-19/

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ

ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้รับประกันผลตอบแทนในอนาคต และไม่มีการรับประกันหรือรับรองผลตอบแทนของแต่ละบุคคล

เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ได้รับการรับรอง นักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายอื่น ๆ กำหนดเท่านั้น และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นเนื้อหาที่มีลักษณะทั่วไปและไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์หรือความต้องการทางการเงินที่เฉพาะเจาะจงใด ๆ มุมมองและความคิดเห็นที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นโดยบุคคลที่ภายนอก และอาจไม่ได้สะท้อนมุมมองและความคิดเห็นของ EquitiesFirst นอกจากนี้ EquitiesFirst ไม่ได้ตรวจสอบหรือยืนยันข้อมูลที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ด้วยตนเอง และไม่ได้รับรองว่าข้อมูลดังกล่าวถูกต้องหรือสมบูรณ์ ความคิดเห็นและข้อมูลในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขาย (หรือการชักชวนให้ซื้อ) หลักทรัพย์ การลงทุน หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินใด ๆ (“ข้อเสนอ”) ข้อเสนอใด ๆ ดังกล่าวจะต้องดำเนินการผ่านการเสนอขายที่เกี่ยวข้องหรือเอกสารอื่น ๆ ที่มีการระบุข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เป็นสาระสำคัญไว้อย่างชัดเจนเท่านั้น ข้อมูลใด ๆ ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการแนะนำ การจูงใจ การเชิญชวน การโน้มน้าว การส่งเสริมการขาย หรือเป็นข้อเสนอให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์การลงทุนใด ๆ จาก Equities First Holdings, LLC หรือบริษัทย่อยของ Equities First Holdings, LLC (เรียกรวมกันว่า ” EquitiesFirst”) และไม่ควรตีความในทางใดทางหนึ่งว่าเอกสารฉบับนี้เป็นการแนะนำด้านการลงทุน กฎหมาย หรือภาษี รวมถึงการแนะนำ การอ้างอิง หรือการรับรองจาก EquitiesFirst ท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

เอกสารฉบับนี้ประกอบด้วยทรัพย์สินทางปัญญาของ EquitiesFirst ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงโลโก้ต่าง ๆ  และเครื่องหมายการค้าอื่น ๆ ทั้งที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียน ตลอดจนเครื่องหมายบริการที่เกี่ยวข้องตามลำดับ EquitiesFirst ขอสงวนสิทธิ์ทั้งหมดในทรัพย์สินทางปัญญาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่าย เผยแพร่ ทำซ้ำ หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้รับสามารถส่งต่อเนื้อหาทั้งหมดหรือบางส่วนของเอกสารฉบับนี้ไปยังผู้อื่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่ายให้แก่บุคคลในประเทศใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดกฎหมายหรือระเบียบอื่นใดที่เกี่ยวข้อง

EquitiesFirst ไม่รับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับเอกสารฉบับนี้ และขอปฏิเสธอย่างชัดแจ้งต่อการรับประกันโดยนัยใด ๆ ภายใต้กฎหมาย ท่านรับทราบว่า EquitiesFirst จะไม่ต้องรับผิดในทุกกรณี สำหรับความเสียหายทั้งทางตรง ทางอ้อม ที่เป็นกรณีพิเศษ ที่เป็นผลสืบเนื่อง โดยไม่เจตนา หรือที่เป็นการลงโทษ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการสูญเสียผลประโยชน์หรือการสูญเสียโอกาสใด ๆ แม้ว่า EquitiesFirst จะรับทราบถึงความเป็นไปได้ของความเสียหายดังกล่าวก็ตาม

EquitiesFirst ได้จัดทำคำแถลงการเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจบังคับใช้ในเขตอำนาจศาลที่ระบุไว้

ประเทศออสเตรเลีย: Equities First Holdings (Australia) Pty Ltd (หมายเลขทะเบียนบริษัท: 142 644 399) เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตบริการทางการเงินของประเทศออสเตรเลีย (หมายเลข AFSL: 387079) สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด

ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีไว้สำหรับบุคคลที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียและจัดเป็นลูกค้าสำหรับการค้าส่ง (Wholesale Client) ตามที่ระบุในมาตรา 761G แห่งพระราชบัญญัติบริษัท ค.ศ. 2001 (Corporations Act 2001)เท่านั้นการเผยแพร่ข้อมูลให้บุคคลอื่นใดที่มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดข้างต้นอาจมีข้อจำกัดตามกฎหมาย ทั้งนี้ บุคคลใดที่มีข้อมูลดังกล่าวในครอบครองควรเสาะหาคำแนะนำและทำความเข้าใจข้อจำกัดดังกล่าว เนื้อหาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น  และไม่ควรตีความว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อเสนอ การจูงใจ หรือคำแนะนำในการซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลในลักษณะทั่วไป และไม่ใช่คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินส่วนบุคคล คำแนะนำใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้เป็นคำแนะนำทั่วไปเท่านั้น และจัดทำขึ้นโดยไม่ได้คำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์หรือความต้องการทางการเงินของผู้ลงทุน ก่อนดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ ท่านควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าว และลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ และความต้องการทางการเงินของท่านท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเอง และอ่านคำแถลงการเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง หรือเอกสารข้อเสนออื่น ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

เขตบริหารพิเศษฮ่องกง: Equities First Holdings Hong Kong Limitedได้รับใบอนุญาตภายใต้กฎหมายผู้ให้กู้ยืมในฮ่องกง (หมายเลขใบอนุญาตผู้ให้กู้เลขที่ 1681/2023)และดำเนินธุรกิจด้านการจัดการกับหลักทรัพย์ (ใบอนุญาตประเภทที่ 1)ภายใต้กฎหมายการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกง (“SFO”) (หมายเลข CEเลขที่ BFJ407)เอกสารฉบับนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกงนอกจากนี้เอกสารฉบับนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเสนอการขายหลักทรัพย์ หรือชักจูงให้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่จัดการหรือจัดหาโดย Equities First Holdings Hong Kong Limitedแต่จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้ SFOเท่านั้นเอกสารฉบับนี้ไม่ได้ส่งถึงบุคคลหรือองค์กรที่จะทำให้ข้อเสนอหรือคำเชิญชวนดังกล่าวผิดกฎหมายหรือถูกต้องห้าม

ประเทศเกาหลี: เอกสารข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งมีความรู้และประสบการณ์เพียงพอต่อการทำธุรกรรมการจัดหาเงินทุนหลักทรัพย์เป็นการเฉพาะเจาะจง และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่ตรงตามข้อกำหนดข้างต้น

สหราชอาณาจักร: Equities First (London) Limited ได้รับการรับรองและควบคุมในสหราชอาณาจักรโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (” FCA”) ในสหราชอาณาจักร เอกสารฉบับนี้ได้แจกจ่ายให้แก่บุคคลที่มีลักษณะเป็นไปตามมาตรา 19(5) (นักลงทุนมืออาชีพ) และมาตรา 42(2) (บริษัทที่มีมูลค่าสุทธิสูง สมาคมอิสระ ฯลฯ) ในส่วนที่ 4 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่องบริการทางการเงินและตลาด ค.ศ. 2000 (การสนับสนุนทางการเงิน) คำสั่ง ค.ศ. 2005 (“FPO”) เท่านั้น และกิจกรรมการลงทุนใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอนี้จะใช้ได้เฉพาะกับบุคคลดังกล่าวและมีเพียงแค่บุคคลดังกล่าวเท่านั้นที่จะสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวได้ บุคคลที่ไม่มีประสบการณ์ระดับมืออาชีพในการลงทุน หรือบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามมาตรา 49 ของ FPO ไม่ควรใช้เอกสารนี้ เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้หน่วยงานที่ให้การกำกับการให้บริการด้านการลงทุนและผลิตภัณฑ์ทางการเงินในพื้นที่ภาคพื้นยุโรป (MiFID) เท่านั้น