บทบาทของการเรียกหลักประกันเพิ่มในช่วงตลาดขาลง

ปัจจัยด้านเศรษฐกิจมหภาคที่ทำให้ตลาดอยู่ในภาวะขาลงในปัจจุบันเป็นสิ่งที่ทุกคนเห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งได้แก่ เงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และความไม่แน่นอนทางภูมิศาสตร์การเมือง แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ไม่ได้รับความสนใจมากเท่า หนึ่งในปัจจัยที่ใหญ่ที่สุดคือสินเชื่อแบบใช้หลักประกัน

หนี้มาร์จิ้น (Margin debt) หมายถึงเงินที่นักลงทุนกู้ยืมไปซื้อหุ้น ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นหลักประกันให้กับสินเชื่อนั้นๆ นี่คือเทคนิคที่สร้างผลตอบแทน (และการขาดทุน) ได้หลายเท่าเพราะช่วยให้นักลงทุนเปิดโพสิชันที่ใหญ่กว่าเงินทุนที่นักลงทุนมีอยู่ในมือ ข้อสังเกตคือระดับหนี้มาร์จินที่เพิ่มขึ้นเป็นตัวชี้วัดที่แม่นยำอย่างมากว่าตลาดกำลังอยู่ในภาวะฟองสบู่ จึงถือเป็นตัวชี้วัดล่วงหน้าว่าจะเกิดฟองสบู่แตกตามมา

การซื้อด้วยมาร์จิ้นยิ่งทำให้ตลาดเปราะบางมากขึ้น

สำหรับนักลงทุนแล้ว ความกลัวว่าจะตกรถนั้นเห็นได้ชัดเจนเป็นพิเศษในช่วงท้ายๆ ของวัฏจักรตลาดกระทิง ทำให้นักลงทุนเต็มใจเสี่ยงมากขึ้นเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนมากขึ้น การซื้อด้วยมาร์จิ้นจึงยิ่งทำให้ราคาสินทรัพย์ในตลาดสูงขึ้นจนทำลายสถิติ แต่เมื่อระดับหนี้มาร์จิ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ตลาดจะเปราะบางมากกว่าเดิม

ในสถานการณ์ดังกล่าว เมื่อเกิดการพลิกผัน เป็นต้นว่ามูลค่าหุ้นที่ซื้อด้วยมาร์จิ้นตกลงเล็กน้อย โบรกเกอร์ก็จะเรียกร้องให้นักลงทุนฝากเงินทุนเข้าบัญชีเทรดมากขึ้นเพื่อชดเชยส่วนที่ยังขาด การเรียกหลักประกันเหล่านี้มักส่งผลให้นักลงทุนต้องขายหุ้นออกไปเพื่อนำเงินทุนมาโปะในบัญชี ซึ่งยิ่งเร่งให้ราคายิ่งตกหนักเร็วขึ้นเนื่องจากความเชื่อมั่นลงน้อยลง

ในบางกรณี หากนักลงทุนไม่สามารถเติมหลักประกันเข้าบัญชี ก็จะถูกบังคับให้ชำระบัญชีอย่างที่เกิดขึ้นในปี 2021 ซึ่งส่งผลให้กองทุนประกันความเสี่ยง Archegos ล่มสลาย สิ่งที่ตามมาหลังมีการบังคับชำระบัญชีจำนวนมาก[1] ก็คือ การแห่เทขาย ซึ่งอาจส่งผลให้พอร์ตการลงทุนและตลาดโดยรวมขาดเสถียรภาพตามมา การล่มสลายของ Long Term Capital Management ในปี 1998 เป็นตัวอย่างสุดคลาสสิกในกรณีนี้

หนี้มาร์จิ้นพุ่งสูงก่อนตลาดล่ม

ทั้งเหตุการณ์ตลาดล่มหลังวิกฤติดอทคอมในปี 2000 และวิกฤติการเงินปี 2008 เกิดขึ้นหลังจากระดับหนี้ในตลาดพุ่งสูง ในครั้งนี้ หนี้มาร์จิ้นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งทำสถิติสูงสุดตลอดกาลมาอยู่ที่ 936,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนตุลาคม 2021 คิดเป็น 95% จากเดือนมีนาคม 2020 เมื่อตลาดได้รับผลกระทบในช่วงสั้นๆ จากการระบาดของโรคโควิด-19 ก่อนจะเริ่มเข้าสู่ภาวะกระทิง[2]

เมื่อดอกเบี้ยสูงขึ้น ต้นทุนในการขอสินเชื่อให้กับโพสิชันเหล่านี้ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน และยิ่งราคาหุ้นร่วงลง ก็จะทำให้มีการเรียกหลักประกันเพิ่มเป็นมูลค่าสูง ข้อมูลล่าสุดจาก Financial Industry Regulatory Authority (FINRA) แสดงให้เห็นว่าหนี้มาร์จิ้นของสหรัฐฯ ลดลง 27% ในเดือนมิถุนายน หลังจากเพิ่มขึ้นสูงสุดในเดือนตุลาคม แต่ถึงแม้ว่าหนี้มาร์จิ้นจะลดลงไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้หายไปไหน หลังจากเหตุการณ์ตลาดล่มสองครั้งที่ผ่านมา ระดับมาร์จิ้นลดลงอย่างน้อย 50% ก่อนที่ S&P 500 จะเริ่มฟื้นตัว[3]

แม้จะไม่มีอะไรมารับประกันว่าตลาดหุ้นจะซ้ำรอยเดิมหรือไม่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2022 แต่นักลงทุนพึงระวังว่ามีโอกาสที่ระดับหนี้มาร์จิ้นอาจจะลดลงอีกเล็กน้อยก่อนที่ตลาดจะเสถียร สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ จุดสูงสุดของตลาดที่วัดได้จากระดับหนี้มาร์จิ้นที่พุ่งสูงอย่างรวดเร็วนั้น ผ่านไปแล้วอย่างแท้จริง

แนวทางสร้างเสถียรภาพ

ในช่วงที่ตลาดผันผวน โดยทั่วไปแล้ว นักลงทุนจะสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าหากมองในระยะยาวและถือโพสิชันเอาไว้ แทนที่จะขายออกแล้วค่อยกลับเข้าตลาดอีกครั้งในภายหลัง ผลจากการศึกษาหลายครั้งแสดงให้เห็นว่า กลยุทธ์ลงทุนแบบตลอดเวลา (Time in market) ให้ผลตอบแทนดีกว่ากลยุทธ์การลงทุนแบบรอจังหวะ (Market timing)[4]

แต่สินเชื่อมาร์จิ้นทั่วไปทำให้การนำกลยุทธ์ดังกล่าวมาใช้เป็นไปได้ยาก เพราะนักลงทุนที่ไม่สามารถเพิ่มมูลค่าหลักประกันได้ทันทีจะเสี่ยงต่อการถูกบังคับชำระบัญชี

ในทางตรงกันข้าม สินเชื่อระยะยาวแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันมอบแหล่งเงินทุนที่เสถียรกว่า ช่วยให้นักลงทุนเพิ่มเงินลงทุนและนำเงินไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ได้โดยไม่เสียโอกาสในการรับผลตอบแทนตอนที่ราคาสินทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต

แนวทางการออกสินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันของ EquitiesFirst จะช่วยปกป้องนักลงทุนที่มิใช่รายย่อย (Accredited investor) นักลงทุนที่มั่งคั่งและประสบการณ์สูง (Sophisticated investor) นักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญสูง (Professional investor) และนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง (Qualified investor) กลุ่มอื่น ๆ (ที่มีความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการทำธุรกรรมจัดหาเงินทุนแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน) จากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นและการถูกบังคับชำระบัญชี โดยการกำหนดเงื่อนไขที่เป็นประโยชน์กับนักลงทุนมากกว่าสินเชื่อมาร์จิ้นแบบปกติ

EquitiesFirst ใช้แนวทางที่รอบคอบในการจัดการความเสี่ยง ทำให้บริษัทอยู่รอดในสภาพตลาดทุกแบบมาตลอด 20 ปี พร้อมทั้งปกป้องผลประโยชน์ของนักลงทุนและตลาดโดยรวม ซึ่งความวางใจที่ได้จากแนวทางดังกล่าวเป็นสิ่งที่มีค่าอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิศาสตร์การเมืองทำให้ทุกอย่างสั่นคลอนตามไปด้วย


[1] https://www.reuters.com/markets/us/bitcoins-flash-crash-crimps-year-end-bulls-2021-12-06

[2] https://www.finra.org/investors/learn-to-invest/advanced-investing/margin-statistics

[3] https://www.nasdaq.com/articles/the-market-could-begin-correcting-when-this-1-thing-happens

[4] https://seekingalpha.com/article/4535147-time-in-the-market-beats-timing-the-market

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ

ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้รับประกันผลตอบแทนในอนาคต และไม่มีการรับประกันหรือรับรองผลตอบแทนของแต่ละบุคคล

เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ได้รับการรับรอง นักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายอื่น ๆ กำหนดเท่านั้น และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นเนื้อหาที่มีลักษณะทั่วไปและไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์หรือความต้องการทางการเงินที่เฉพาะเจาะจงใด ๆ มุมมองและความคิดเห็นที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นโดยบุคคลที่ภายนอก และอาจไม่ได้สะท้อนมุมมองและความคิดเห็นของ EquitiesFirst นอกจากนี้ EquitiesFirst ไม่ได้ตรวจสอบหรือยืนยันข้อมูลที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ด้วยตนเอง และไม่ได้รับรองว่าข้อมูลดังกล่าวถูกต้องหรือสมบูรณ์ ความคิดเห็นและข้อมูลในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขาย (หรือการชักชวนให้ซื้อ) หลักทรัพย์ การลงทุน หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินใด ๆ (“ข้อเสนอ”) ข้อเสนอใด ๆ ดังกล่าวจะต้องดำเนินการผ่านการเสนอขายที่เกี่ยวข้องหรือเอกสารอื่น ๆ ที่มีการระบุข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เป็นสาระสำคัญไว้อย่างชัดเจนเท่านั้น ข้อมูลใด ๆ ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการแนะนำ การจูงใจ การเชิญชวน การโน้มน้าว การส่งเสริมการขาย หรือเป็นข้อเสนอให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์การลงทุนใด ๆ จาก Equities First Holdings, LLC หรือบริษัทย่อยของ Equities First Holdings, LLC (เรียกรวมกันว่า ” EquitiesFirst”) และไม่ควรตีความในทางใดทางหนึ่งว่าเอกสารฉบับนี้เป็นการแนะนำด้านการลงทุน กฎหมาย หรือภาษี รวมถึงการแนะนำ การอ้างอิง หรือการรับรองจาก EquitiesFirst ท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

เอกสารฉบับนี้ประกอบด้วยทรัพย์สินทางปัญญาของ EquitiesFirst ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงโลโก้ต่าง ๆ  และเครื่องหมายการค้าอื่น ๆ ทั้งที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียน ตลอดจนเครื่องหมายบริการที่เกี่ยวข้องตามลำดับ EquitiesFirst ขอสงวนสิทธิ์ทั้งหมดในทรัพย์สินทางปัญญาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่าย เผยแพร่ ทำซ้ำ หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้รับสามารถส่งต่อเนื้อหาทั้งหมดหรือบางส่วนของเอกสารฉบับนี้ไปยังผู้อื่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่ายให้แก่บุคคลในประเทศใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดกฎหมายหรือระเบียบอื่นใดที่เกี่ยวข้อง

EquitiesFirst ไม่รับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับเอกสารฉบับนี้ และขอปฏิเสธอย่างชัดแจ้งต่อการรับประกันโดยนัยใด ๆ ภายใต้กฎหมาย ท่านรับทราบว่า EquitiesFirst จะไม่ต้องรับผิดในทุกกรณี สำหรับความเสียหายทั้งทางตรง ทางอ้อม ที่เป็นกรณีพิเศษ ที่เป็นผลสืบเนื่อง โดยไม่เจตนา หรือที่เป็นการลงโทษ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการสูญเสียผลประโยชน์หรือการสูญเสียโอกาสใด ๆ แม้ว่า EquitiesFirst จะรับทราบถึงความเป็นไปได้ของความเสียหายดังกล่าวก็ตาม

EquitiesFirst ได้จัดทำคำแถลงการเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจบังคับใช้ในเขตอำนาจศาลที่ระบุไว้

ประเทศออสเตรเลีย: Equities First Holdings (Australia) Pty Ltd (หมายเลขทะเบียนบริษัท: 142 644 399) เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตบริการทางการเงินของประเทศออสเตรเลีย (หมายเลข AFSL: 387079) สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด

ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีไว้สำหรับบุคคลที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียและจัดเป็นลูกค้าสำหรับการค้าส่ง (Wholesale Client) ตามที่ระบุในมาตรา 761G แห่งพระราชบัญญัติบริษัท ค.ศ. 2001 (Corporations Act 2001)เท่านั้นการเผยแพร่ข้อมูลให้บุคคลอื่นใดที่มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดข้างต้นอาจมีข้อจำกัดตามกฎหมาย ทั้งนี้ บุคคลใดที่มีข้อมูลดังกล่าวในครอบครองควรเสาะหาคำแนะนำและทำความเข้าใจข้อจำกัดดังกล่าว เนื้อหาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น  และไม่ควรตีความว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อเสนอ การจูงใจ หรือคำแนะนำในการซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลในลักษณะทั่วไป และไม่ใช่คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินส่วนบุคคล คำแนะนำใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้เป็นคำแนะนำทั่วไปเท่านั้น และจัดทำขึ้นโดยไม่ได้คำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์หรือความต้องการทางการเงินของผู้ลงทุน ก่อนดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ ท่านควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าว และลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ และความต้องการทางการเงินของท่านท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเอง และอ่านคำแถลงการเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง หรือเอกสารข้อเสนออื่น ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

เขตบริหารพิเศษฮ่องกง: Equities First Holdings Hong Kong Limitedได้รับใบอนุญาตภายใต้กฎหมายผู้ให้กู้ยืมในฮ่องกง (หมายเลขใบอนุญาตผู้ให้กู้เลขที่ 1681/2023)และดำเนินธุรกิจด้านการจัดการกับหลักทรัพย์ (ใบอนุญาตประเภทที่ 1)ภายใต้กฎหมายการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกง (“SFO”) (หมายเลข CEเลขที่ BFJ407)เอกสารฉบับนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกงนอกจากนี้เอกสารฉบับนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเสนอการขายหลักทรัพย์ หรือชักจูงให้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่จัดการหรือจัดหาโดย Equities First Holdings Hong Kong Limitedแต่จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้ SFOเท่านั้นเอกสารฉบับนี้ไม่ได้ส่งถึงบุคคลหรือองค์กรที่จะทำให้ข้อเสนอหรือคำเชิญชวนดังกล่าวผิดกฎหมายหรือถูกต้องห้าม

ประเทศเกาหลี: เอกสารข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งมีความรู้และประสบการณ์เพียงพอต่อการทำธุรกรรมการจัดหาเงินทุนหลักทรัพย์เป็นการเฉพาะเจาะจง และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่ตรงตามข้อกำหนดข้างต้น

สหราชอาณาจักร: Equities First (London) Limited ได้รับการรับรองและควบคุมในสหราชอาณาจักรโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (” FCA”) ในสหราชอาณาจักร เอกสารฉบับนี้ได้แจกจ่ายให้แก่บุคคลที่มีลักษณะเป็นไปตามมาตรา 19(5) (นักลงทุนมืออาชีพ) และมาตรา 42(2) (บริษัทที่มีมูลค่าสุทธิสูง สมาคมอิสระ ฯลฯ) ในส่วนที่ 4 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่องบริการทางการเงินและตลาด ค.ศ. 2000 (การสนับสนุนทางการเงิน) คำสั่ง ค.ศ. 2005 (“FPO”) เท่านั้น และกิจกรรมการลงทุนใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอนี้จะใช้ได้เฉพาะกับบุคคลดังกล่าวและมีเพียงแค่บุคคลดังกล่าวเท่านั้นที่จะสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวได้ บุคคลที่ไม่มีประสบการณ์ระดับมืออาชีพในการลงทุน หรือบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามมาตรา 49 ของ FPO ไม่ควรใช้เอกสารนี้ เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้หน่วยงานที่ให้การกำกับการให้บริการด้านการลงทุนและผลิตภัณฑ์ทางการเงินในพื้นที่ภาคพื้นยุโรป (MiFID) เท่านั้น