ทำไมนักลงทุนถึงคิดว่าจะได้รับผลตอบแทนมากขึ้นจากการลงทุนในต่างประเทศ

เหตุผลอาจเป็นเพราะนักลงทุนชอบซื้อสินทรัพย์ในตลาดที่ตัวเองคุ้นเคยมากกว่า หรือที่เราเรียกกันว่า Home bias นั่นเอง

นี่เป็นเรื่องปกติและเข้าใจได้ เพราะคนเรามักจะสบายใจมากกว่าถ้าได้ซื้อสิ่งที่ตัวเองรู้จักหรือคิดว่ารู้จัก แต่ว่าการทำแบบนี้ทำให้นักลงทุนพลาดโอกาสดีๆ ไปมากมาย และที่ร้ายไปกว่านั้นคือ อาจจะขาดทุน เพราะกระจายความเสี่ยงไปยังภูมิภาคต่างๆ ไม่หลากหลายพอ

นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนักลงทุนฉลาดๆ จึงกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์หลายประเภทและในหลายประเทศ ผลการสำรวจในระดับนานาชาติครั้งล่าสุดที่ดำเนินการโดย EquitiesFirst ร่วมกับ Custom Research Lab ของ Institutional Investor เผยให้เห็นว่าผู้มีอำนาจตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุนประมาณ 300 คนเกือบทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า สถาบันการเงินของพวกเขาจะได้รับประโยชน์จากการเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นหลายๆ ประเทศ

Why investors see better returns from going more global
ที่มาของรูปภาพ: https://equitiesfirst.com/int/ii-partnership/

จากการศึกษาพบว่า เหตุผลที่สถาบันต่างๆ หันมาเลือกซื้อหุ้นชั้นยอดที่ให้ผลตอบแทนอย่างต่อเนื่องโดยกระจายการลงทุนในหลายประเทศทั่วโลกคือ ปัจจุบันตลาดหุ้นมีความเชื่อมโยงกันมากขึ้น การกระจายการลงทุนไปทั่วโลกช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดจากการกระจุกการลงทุนในภูมิภาคเดียว ซึ่งวิธีนี้อาจจะช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนได้

โอกาสจากหุ้นขาขึ้น

นอกจากนี้นักลงทุนยังให้ความสนใจตลาดเกิดใหม่กันมากขึ้น ซึ่งปกติแล้วตลาดเหล่านี้ดึงดูดเงินทุนได้น้อยกว่าตลาดพัฒนาแล้วอย่างมาก แม้ว่าจะมีอัปไซด์สูงกว่าก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะยาว

ถึงแม้ว่าปัจจุบัน ประเทศเศรษฐกิจใหม่จะมีสัดส่วนคิดเป็นประมาณ 40% ของ GDP โลก และมีส่วนในการเติบโตเกือบถึงสองในสามของโลกในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา แต่[1] ตลาดหุ้นของประเทศเหล่านี้กลับมีมูลค่าแค่หนึ่งในสี่ของมูลค่าตลาดของโลกเท่านั้น[2] ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา หุ้นในตลาดเศรษฐกิจใหม่ให้ผลตอบแทนเหนือกว่าหุ้นในประเทศกำลังพัฒนา ยกเว้นในปี 2022 ที่ประเทศจีนล็อกดาวน์ประเทศ ทำให้สร้างผลตอบแทนได้น้อยกว่า[3]

อย่างไรก็ตาม การที่จีนกลับมาเปิดประเทศอย่างกะทันหันเร็วกว่าที่คาดในช่วงสิ้นปี 2022 ทำให้เกณฑ์มาตรฐานของหุ้นในประเทศเศรษฐกิจใหม่ กำลังจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากระดับความเชื่อมั่นในระยะสั้นที่ปรับตัวดีขึ้น และแนวโน้มทางประชากรศาสตร์ในระยะยาว ทั้งนี้ IMF คาดการณ์ว่า ถึงแม้อัตราดอกเบี้ยสูงและสงครามยูเครนจะเป็นตัวฉุดรั้งตลาดโลกเอาไว้ แต่อัตราการเติบโตของ GDP ของประเทศเศรษฐกิจใหม่จะสูงถึง 3.9% ในปี 2023 ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา และส่วนใหญ่เป็นเพราะประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชีย  ตรงกันข้ามกับประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้า ตัวเลขนี้จะลดลงจาก 2.7% ในปี 2022 มาอยู่ที่ 1.3%[4]

การลงทุนท่ามกลางอุปสรรคท้าทาย

แน่นอนว่าตัวชี้วัดอย่างคร่าวๆ อย่างการเติบโตของ GDP และดัชนีหุ้นของตลาดเศรษฐกิจใหม่ แสดงให้เห็นถึงความท้าทายใหญ่หลวงหลายประการที่นักลงทุนต้องพบเจอในภูมิภาคเอเชียและประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ

เมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว ตลาดใหม่มักจะมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและทางการเมืองน้อยกว่า มีมาตรฐานด้านธรรมาภิบาลไม่เข้มงวดเท่า และโดยทั่วไปแล้วจะมีสภาพคล่องและความโปร่งใสน้อยกว่า อีกทั้งยังเข้าถึงได้ยากกว่า[5] นอกจากนี้ ภายในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจใหม่ ประเทศต่างๆ ไม่ได้มีความเป็นกลุ่มก้อน กล่าวคือมีอัตราการเติบโต ระบบการเมือง และภูมิทัศน์ขององค์กรธุรกิจแตกต่างกันอย่างมาก ดังนั้นโอกาสและความเสี่ยงจึงหลากหลายตามไปด้วย

แต่ด้วยเหตุผลเดียวกันนี้เอง หุ้นในตลาดใหม่จึงมีโอกาสให้ผลตอบแทนสูงสำหรับนักลงทุนที่มีข้อมูลและคัดสรรหุ้นได้เก่งกาจ

มาตรฐานการจัดทำรายงาน การตรวจสอบ และธรรมาภิบาลในองค์กรธุรกิจของประเทศเศรษฐกิจใหม่อาจจะล้าหลังเมื่อเทียบกับตลาดพัฒนาแล้ว แต่ว่าสถานการณ์กำลังดีขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาธรรมาภิบาลขององค์กร รวมทั้งคุณภาพและความพร้อมของข้อมูลผลการดำเนินงานไม่ได้เป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับการลงทุนในตลาดใหม่เหมือนอย่างแต่ก่อน ซึ่งนี่คือสิ่งที่ผู้ตอบแบบสำรวจของ Equities First เกือบทุกรายเห็นพ้องต้องกัน

มีอำนาจในการตัดสินในด้านการลงทุนหลายรายที่ให้สัมภาษณ์ในการศึกษาครั้งนี้ยังเน้นย้ำว่ามีการปรับปรุงดีขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยตลาดเกิดใหม่ดูเหมือนว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้นและแข่งขันกันอย่างร้อนแรงเพื่อดึงเงินทุนจากต่างประเทศ ซึ่งหากบริษัทต่างๆ ในตลาดเกิดใหม่ต้องการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ พวกเขาจะต้องเพิ่มความโปร่งใส มาตรฐานการรายงาน และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ

แรงหนุนที่เกิดขึ้น

นักวิเคราะห์ของธนาคารเพื่อการลงทุน Morgan Stanley กล่าวว่า พวกเขาคาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้ ตลาดเกิดใหม่ 4 กลุ่มหลักๆจะมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง[6]

กลุ่มแรกคือประเทศที่จะมีเม็ดเงินสะพัดจากการเติบโตในฐานะศูนย์กลางการผลิต ซึ่งส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยุโรปตะวันออก ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือเวียดนามและโปแลนด์[7]

ในขณะเดียวกัน บางประเทศได้รับการกระตุ้นเศรษฐกิจจากการฟื้นตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และการเข้าไปมีบทบาทสำคัญในการจัดจำหน่ายโลหะและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อเทรนด์การเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน ประเทศในกลุ่มนี้ ได้แก่ บราซิล ชิลี อินโดนีเซีย และรัสเซีย[8]

ประเทศกลุ่มที่สามในความเห็นของ Morgan Stanley คือประเทศกำลังพัฒนาที่ถูกสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องปฏิรูปเศรษฐกิจในช่วงที่โรคโควิดระบาด ซึ่งส่งผลให้ประเทศเหล่านี้กำลังจะเติบโตขึ้นอย่างยั่งยืนในหลายปีถัดจากนี้ ตัวอย่างเช่น อินเดียและอินโดนีเซีย[9]

กลุ่มสุดท้ายคือประเทศที่พร้อมจะได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนมาใช้ระบบดิจิทัล โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญคือการล็อกดาวน์ระหว่างการระบาดของโคโรนาไวรัส และมีศักยภาพในการสร้างบริษัทยักษ์ใหญ่ทางเทคโนโลยีเหมือนอย่างอเมริกาและจีน เทรนด์นี้จะส่งผลกระทบต่อลาตินอเมริกา เอเชียตะวันออก และแอฟริกาอย่างเห็นได้ชัด[10]

ปัจจุบัน สินทรัพย์ในหลายประเทศเหล่านี้ดูเหมือนจะยังมีราคาถูกอยู่ เมื่อเทียบกับตลาดพัฒนาแล้ว นักลงทุนหลายรายแย้งว่าราคาของหุ้นในตลาดเกิดใหม่ไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงเลยและมีการถือครองต่ำกว่าปกติ และแม้ว่าจะมีความเสี่ยงสูงกว่าหุ้นในตลาดพัฒนาแล้ว แต่มูลค่าปัจจุบันของหุ้นเหล่านี้กำลังอยู่ในระดับที่น่าสนใจที่สุด[11]

สินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับนักลงทุนที่กำลังต้องการเงินทุนไปคว้าโอกาสดังกล่าว เพราะเพียงแค่ใช้หุ้นหรือคริปโตเป็นหลักประกัน นักลงทุนก็จะได้รับเงินทุนไปกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุนและลงทุนเพิ่มขึ้นในตลาดใหม่ๆ โดยไม่จำเป็นต้องลดสัดส่วนการลงทุนในตลาดบ้านเกิดของตัวเองลง

และหากไม่ลงมือทำอะไรสักอย่าง นักลงทุนก็อาจจะเสียโอกาสในการทำกำไรครั้งใหญ่ได้


[1] https://www.gbm.hsbc.com/en-gb/campaigns/accessing-emerging-markets#:~:text=Over%20the%20last%2020%20years,of%20the%20world’s%20GDP%20growth.

[2] https://www.morganstanley.com/im/publication/insights/articles/article_howmuchtoown_us.pdf

[3] https://www.ftadviser.com/investments/2023/02/06/why-emerging-markets-are-an-attractive-opportunity/

[4] https://www.imf.org/en/Publications/WEO/Issues/2023/04/11/world-economic-outlook-april-2023

[5] https://www.ftadviser.com/investments/2023/02/06/why-emerging-markets-are-an-attractive-opportunity/

[6] https://www.morganstanley.com/im/publication/insights/articles/article_howmuchtoown_us.pdf

[7] https://www.morganstanley.com/im/publication/insights/articles/article_howmuchtoown_us.pdf

[8] https://www.morganstanley.com/im/publication/insights/articles/article_howmuchtoown_us.pdf

[9] https://www.morganstanley.com/im/publication/insights/articles/article_howmuchtoown_us.pdf

[10] https://www.morganstanley.com/im/publication/insights/articles/article_howmuchtoown_us.pdf

[11] https://www.lazardassetmanagement.com/hk/en_us/research-insights/outlooks/emerging-markets

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ

ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้รับประกันผลตอบแทนในอนาคต และไม่มีการรับประกันหรือรับรองผลตอบแทนของแต่ละบุคคล

เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ได้รับการรับรอง นักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายอื่น ๆ กำหนดเท่านั้น และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นเนื้อหาที่มีลักษณะทั่วไปและไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์หรือความต้องการทางการเงินที่เฉพาะเจาะจงใด ๆ มุมมองและความคิดเห็นที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นโดยบุคคลที่ภายนอก และอาจไม่ได้สะท้อนมุมมองและความคิดเห็นของ EquitiesFirst นอกจากนี้ EquitiesFirst ไม่ได้ตรวจสอบหรือยืนยันข้อมูลที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ด้วยตนเอง และไม่ได้รับรองว่าข้อมูลดังกล่าวถูกต้องหรือสมบูรณ์ ความคิดเห็นและข้อมูลในเอกสารฉบับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เนื้อหาที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการเสนอขาย (หรือการชักชวนให้ซื้อ) หลักทรัพย์ การลงทุน หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินใด ๆ (“ข้อเสนอ”) ข้อเสนอใด ๆ ดังกล่าวจะต้องดำเนินการผ่านการเสนอขายที่เกี่ยวข้องหรือเอกสารอื่น ๆ ที่มีการระบุข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เป็นสาระสำคัญไว้อย่างชัดเจนเท่านั้น ข้อมูลใด ๆ ในเอกสารฉบับนี้ไม่ถือเป็นการแนะนำ การจูงใจ การเชิญชวน การโน้มน้าว การส่งเสริมการขาย หรือเป็นข้อเสนอให้ซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์การลงทุนใด ๆ จาก Equities First Holdings, LLC หรือบริษัทย่อยของ Equities First Holdings, LLC (เรียกรวมกันว่า ” EquitiesFirst”) และไม่ควรตีความในทางใดทางหนึ่งว่าเอกสารฉบับนี้เป็นการแนะนำด้านการลงทุน กฎหมาย หรือภาษี รวมถึงการแนะนำ การอ้างอิง หรือการรับรองจาก EquitiesFirst ท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

เอกสารฉบับนี้ประกอบด้วยทรัพย์สินทางปัญญาของ EquitiesFirst ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงโลโก้ต่าง ๆ  และเครื่องหมายการค้าอื่น ๆ ทั้งที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียน ตลอดจนเครื่องหมายบริการที่เกี่ยวข้องตามลำดับ EquitiesFirst ขอสงวนสิทธิ์ทั้งหมดในทรัพย์สินทางปัญญาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่าย เผยแพร่ ทำซ้ำ หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้รับสามารถส่งต่อเนื้อหาทั้งหมดหรือบางส่วนของเอกสารฉบับนี้ไปยังผู้อื่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอกสารฉบับนี้ไม่ควรนำไปแจกจ่ายให้แก่บุคคลในประเทศใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การละเมิดกฎหมายหรือระเบียบอื่นใดที่เกี่ยวข้อง

EquitiesFirst ไม่รับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับเอกสารฉบับนี้ และขอปฏิเสธอย่างชัดแจ้งต่อการรับประกันโดยนัยใด ๆ ภายใต้กฎหมาย ท่านรับทราบว่า EquitiesFirst จะไม่ต้องรับผิดในทุกกรณี สำหรับความเสียหายทั้งทางตรง ทางอ้อม ที่เป็นกรณีพิเศษ ที่เป็นผลสืบเนื่อง โดยไม่เจตนา หรือที่เป็นการลงโทษ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการสูญเสียผลประโยชน์หรือการสูญเสียโอกาสใด ๆ แม้ว่า EquitiesFirst จะรับทราบถึงความเป็นไปได้ของความเสียหายดังกล่าวก็ตาม

EquitiesFirst ได้จัดทำคำแถลงการเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจบังคับใช้ในเขตอำนาจศาลที่ระบุไว้

ประเทศออสเตรเลีย: Equities First Holdings (Australia) Pty Ltd (หมายเลขทะเบียนบริษัท: 142 644 399) เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตบริการทางการเงินของประเทศออสเตรเลีย (หมายเลข AFSL: 387079) สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด

ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีไว้สำหรับบุคคลที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียและจัดเป็นลูกค้าสำหรับการค้าส่ง (Wholesale Client) ตามที่ระบุในมาตรา 761G แห่งพระราชบัญญัติบริษัท ค.ศ. 2001 (Corporations Act 2001)เท่านั้นการเผยแพร่ข้อมูลให้บุคคลอื่นใดที่มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดข้างต้นอาจมีข้อจำกัดตามกฎหมาย ทั้งนี้ บุคคลใดที่มีข้อมูลดังกล่าวในครอบครองควรเสาะหาคำแนะนำและทำความเข้าใจข้อจำกัดดังกล่าว เนื้อหาที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น  และไม่ควรตีความว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อเสนอ การจูงใจ หรือคำแนะนำในการซื้อหรือขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลในลักษณะทั่วไป และไม่ใช่คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินส่วนบุคคล คำแนะนำใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้เป็นคำแนะนำทั่วไปเท่านั้น และจัดทำขึ้นโดยไม่ได้คำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์หรือความต้องการทางการเงินของผู้ลงทุน ก่อนดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ ท่านควรพิจารณาถึงความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าว และลักษณะของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานการณ์ และความต้องการทางการเงินของท่านท่านควรเสาะหาคำแนะนำทางการเงินด้วยตนเอง และอ่านคำแถลงการเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง หรือเอกสารข้อเสนออื่น ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

เขตบริหารพิเศษฮ่องกง: Equities First Holdings Hong Kong Limitedได้รับใบอนุญาตภายใต้กฎหมายผู้ให้กู้ยืมในฮ่องกง (หมายเลขใบอนุญาตผู้ให้กู้เลขที่ 1681/2023)และดำเนินธุรกิจด้านการจัดการกับหลักทรัพย์ (ใบอนุญาตประเภทที่ 1)ภายใต้กฎหมายการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกง (“SFO”) (หมายเลข CEเลขที่ BFJ407)เอกสารฉบับนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของฮ่องกงนอกจากนี้เอกสารฉบับนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเสนอการขายหลักทรัพย์ หรือชักจูงให้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่จัดการหรือจัดหาโดย Equities First Holdings Hong Kong Limitedแต่จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้ SFOเท่านั้นเอกสารฉบับนี้ไม่ได้ส่งถึงบุคคลหรือองค์กรที่จะทำให้ข้อเสนอหรือคำเชิญชวนดังกล่าวผิดกฎหมายหรือถูกต้องห้าม

ประเทศเกาหลี: เอกสารข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญ นักลงทุนมืออาชีพ หรือนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งมีความรู้และประสบการณ์เพียงพอต่อการทำธุรกรรมการจัดหาเงินทุนหลักทรัพย์เป็นการเฉพาะเจาะจง และไม่ได้จัดทำขึ้นสำหรับและไม่ควรใช้โดยบุคคลที่มีลักษณะไม่ตรงตามข้อกำหนดข้างต้น

สหราชอาณาจักร: Equities First (London) Limited ได้รับการรับรองและควบคุมในสหราชอาณาจักรโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (” FCA”) ในสหราชอาณาจักร เอกสารฉบับนี้ได้แจกจ่ายให้แก่บุคคลที่มีลักษณะเป็นไปตามมาตรา 19(5) (นักลงทุนมืออาชีพ) และมาตรา 42(2) (บริษัทที่มีมูลค่าสุทธิสูง สมาคมอิสระ ฯลฯ) ในส่วนที่ 4 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยเรื่องบริการทางการเงินและตลาด ค.ศ. 2000 (การสนับสนุนทางการเงิน) คำสั่ง ค.ศ. 2005 (“FPO”) เท่านั้น และกิจกรรมการลงทุนใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอนี้จะใช้ได้เฉพาะกับบุคคลดังกล่าวและมีเพียงแค่บุคคลดังกล่าวเท่านั้นที่จะสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวได้ บุคคลที่ไม่มีประสบการณ์ระดับมืออาชีพในการลงทุน หรือบุคคลที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามมาตรา 49 ของ FPO ไม่ควรใช้เอกสารนี้ เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติเป็นนักลงทุนมืออาชีพภายใต้หน่วยงานที่ให้การกำกับการให้บริการด้านการลงทุนและผลิตภัณฑ์ทางการเงินในพื้นที่ภาคพื้นยุโรป (MiFID) เท่านั้น